ความเดิมตอนที่แล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://pantip.com/topic/30367768 บทนำ
http://pantip.com/topic/30369696 บทที่ 1 เจ้าชายขี่ม้าขาวกับสาวดำตับเป็ด
http://pantip.com/topic/30373309 บทที่ 2 แสบอสรพิษ
http://pantip.com/topic/30376466 บทที่ 3 ดาวดราม่า
http://pantip.com/topic/30393034 บทที่ 4 ชายปริศนาปรากฎ
http://pantip.com/topic/30397455 บทที่ 5 นายฝรั่งจิ้ม
http://pantip.com/topic/30420727 บทที่ 6 ใจละลาย
http://pantip.com/topic/30437954 บทที่ 7 งูเนื้อคู่
http://pantip.com/topic/30462369 บทที่ 8 อยากเก็บฝรั่งไว้ดองทั้งสองคน
http://pantip.com/topic/30489956 บทที่ 9 ลำตัดลัดฟ้า
http://pantip.com/topic/30490063 บทที่ 10 รักหรอก หรือ หลอกรัก
http://pantip.com/topic/30492274 บทที่ 11 จดหมายผิดซอง
http://pantip.com/topic/30505360 บทที่ 12 อเมริกาจ๋า
http://pantip.com/topic/30516892 บทที่ 13 มิครหมาหมู่
http://pantip.com/topic/30540907 บทที่ 14 หลบหน่อยพระเอกมา
http://pantip.com/topic/30548476 บทที่ 15 ไบกอนแมน
http://pantip.com/topic/30637635 บทที่ 16 ตัดใจหรือไปต่อ
http://pantip.com/topic/30646788 บทที่ 17 มาดามกามเทพ
http://pantip.com/topic/30690319 บทที่ 18 มะรุมมะตุ้มรุมรัก
บทที่ 19
ดาวเก้าเดือน

มาดามสมรโบกพัดไปมาช้าๆ นั่งไขว่ห้างบนเก้าอี้ตรงกลางของโต๊ะประชุมใหญ่ ใบหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆทั้งสิ้น สายตาจับจ้องมองดาวตาไม่กระพริบ “ ชื่อดาวเหรอจ้ะ ชื่อสวยดีนะ ”
“ ค่ะ ” ดาวตอบกลับไปสั้นๆ นั่งก้มหน้าทำตัวสงบเสงี่ยม
“ หนูอยากได้กรีนการ์ดเหรอจ้ะ ” คำถามดูแรงแบบจู่โจม แต่ใบหน้าของผู้ถามกลับยิ้มตาหยีอย่างมิตรไมตรี มันยิ่งทำให้เดาทางไม่ออกว่าต้องการคำตอบอะไรจากคำถามนี้
การที่ถูกถามแบบนี้ นั่นก็หมายความว่า ดาวได้ถูกประเมินตีความไปแล้วว่า เธอมาแสวงหาผลประโยชน์จากสิทธิของผู้ถือกรีนการ์ด ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่เธอเคยแม้แต่จะคิดเลยสักนิด เพราะเธอไม่ได้ต้องการมันมาเป็นใบเบิกทางในการใช้อภิสิทธิ์ชนแบบคนอเมริกัน เป้าหมายของการมาที่นี้คือเรื่องงานและความรัก
หญิงสาวตกใจคิดว่าตัวเองหูฝาดไป เพราะการพูดดูถูกแบบนี้ต่อหน้าคนในห้องประชุม มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายมาก เธอจึงย้ำถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ “ คะ? มาดามว่ายังไงนะคะ? ”
“ ฉันถามว่า หนูอยากได้กรีนการ์ดเหรอจ้ะ ถึงพยายามหาสามีฝรั่งน่ะ ” มาดามถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเรียบ สีหน้ายังคงฉาบด้วยรอยยิ้มที่ใจดีเจือรังสีอำมหิต
หญิงสาวตกใจกับสิ่งที่มาดามสมรพูดออกมา จนแทบอยากจะตอกกลับให้หน้าหงาย แต่ก็เกรงใจเพราะยังไงก็เป็นแม่ของจิม “ เปล่าค่ะ ”
“ มัม... ” ชายฝรั่งที่โดนสั่งให้นั่งเงียบ ก็เตรียมพูดออกโรงเพื่อปกป้องหญิงสาวคนรัก แต่ยังไม่ทันที่จะปริปากอธิบาย ฝ่ายแม่ก็เอาพัดไปตีหัวลูกชายที่ปาก “ เงียบ! ยังไม่ถึงคิวแกเจ้าจิม! ”
“ โอเคโอเค ” ชายฝรั่งเอามือซ้ายปิดปากตัวเอง และใช้มือขวาบอกห้ามแม่ให้หยุดตี อาการหงอไม่ต่อกรดูเหมือนกับเด็กที่กลัวการถูกแม่ตี ดาวเห็นก็แอบตลกไม่ได้ เธอเลยเผลออมยิ้มเล็กๆ
“ ยิ้มอะไรจ้ะ ” มาดามหันมามองทันทีเมื่อเห็นดาวแอบยิ้ม
“ ป่าวค่ะ ปากหนูแห้ง หนูก็เลยแอบเม้มปาก ” หญิงสาวเสแสร้งทำท่าเม้มปากไปมาเพื่อแสดงว่าปากเธอแห้ง
“ เหรอจ้ะ แปลกนะ เห็นนั่งแลบลิ้นตลอด ปากไม่น่าแห้งเลยเนอะ ”
สิ่งที่มาดามสมรกำลังพูดถึงคือ ดาวปากห้อยจนเหมือนคนนั่งแลบลิ้น ชายฝรั่งชำเลืองมองดาว และนึกภาพตาม ก็ทนไม่ไหวจึงขำออกมาเสียงดังลั่น “ ฮ่าๆ ซอรี่ ซอรี่ ฮ่าๆๆ โอ้ย ซอรี่ดาว ” ชายฝรั่งเอามือจับท้องตัวเอง และพยายามกลั้นอาการหัวเราะไว้
“ จิมอ่ะ! ” หญิงสาวเอาศอกกระทุ้งไปที่ตัวชายฝรั่งเบาๆด้วยความเขินระคนความเคือง
“ นี่แน่ะ! นี่แน่ะ! นี่แน่ะ! ” มาดามสมรเอาพัดตีที่ปากลูกชายสามครั้งเพื่อทำโทษ “ ใครสั่งให้พูด ถึงคิวหรือยังห๊ะ! เป็นผู้ชายไปหัวเราะปมด้อยผู้หญิงอย่างนั้นได้ยังไง ”
“ แต่ยูก็ว่าดาวเค้านะมัม ”
“ แม่แซว แม่ไม่ได้ว่า หยุดเลยนะ! ถ้าไม่หยุดเดี๋ยวจะโดนพัดยัดปาก! ”
“ โอเค โอเค ” ชายฝรั่งก้มหน้าหงอย ทำท่าหงอทันทีเมื่อแม่ดุเอ็ดตะโรเสียงดังข่ม
“ ขอโทษด้วยนะจ้ะหนูดาว ที่ลูกชายฉันมันปากจัด ”
“ ค่ะไม่เป็นไร ” ดาวกัดฟันตอบ ยิ้มรับกลับอย่างไม่จริงใจ เพราะในใจเธอคิดอีกแบบ “ หึ! จิมปากจัดนี่คงได้มาจากแม่ชัวร์ มาแนวเดียวกันเป๊ะ ”
“ คิดอะไรอยู่เหรอจ้ะ ” มาดามถามหญิงสาว เมื่อเห็นว่ายิ้มค้างอยู่นาน
“ อ๋อไม่มีอะไรค่ะ เหงือกมันเป็นตะคริวน่ะค่ะ ”
“ อ๋อ ฉันนึกว่าเตรียมฝึกยิ้มตอนประกวดมิสมองเล่ยะซะอีก ”
“ คงไม่ใช่หรอกค่ะ เพราะยังไงดาวก็คงไม่ประกวด ”
“ ทำไมล่ะจ้ะ กลัวแพ้เหรอ ”
“ ดาวไม่ได้กลัวแพ้ค่ะ แต่ดาวคิดว่ายังไงก็แพ้ เพราะดูตามเกณฑ์การตัดสินแล้ว ยังไงก็คงไม่ชนะแน่นอนค่ะ ”
“ แบบนี้เค้าเรียกว่ากลัวจ้ะ เคยได้ยินไหม ไม่แข่งก็ยิ่งแพ้ ”
“ ขอโทษนะคะ ขอแทรกอะไรหน่อย ” น้อยยกมือขออนุญาติ ก่อนเดินเข้ามาแทรกการสนทนา “ คือน้อยเห็นว่า ยังไงดาวก็ไม่จำเป็นต้องประกวดมั้งคะ เพราะตามกติกาแล้ว ผู้เข้าร่วมการประกวดจะต้องมีสปอนเซอร์ของตัวเอง โดยจะต้องเป็นร้านค้าหรือเจ้าของสินค้าอะไรก็ได้ที่อยู่ในอเมริกาไม่ใช่เหรอคะ ”
“ ขอบใจคุณน้อยนะคะที่เตือนเรื่องนี้ แต่ยังไม่ถึงคิวพูดเลยนะคะ ช่วยเงียบก่อนค่ะ อันนี้คุยเรื่องส่วนตัวกันภายในครอบครัวน่ะค่ะ เราเบรคการประชุมอยู่ไม่ใช่เหรอ ไว้เข้าประเด็นงานอีเว้น คุณค่อยแทรกนะ ขอบคุณค่ะ ” มาดามส่งยิ้มอย่างสุภาพเมื่อพูดจบประโยค น้อยก็ยิ้มกลับไปอย่างนอบน้อม แต่พอกลับมาที่โต๊ะประชุมย่อย หน้าก็บูดบึ้งทันทีที่โดนด่าหักหน้าแบบนั้นต่อหน้าดาว
“ ตายแหละ เสียใจด้วยนะจ้ะ ไม่มีสปอนเซอร์สนับสนุน เฮ้อ กลับไปนั่งหลังเวทีเป็นสต๊าฟอีเว้นดีไหมจ้ะแม่ดาว ฮ่าๆๆ ” คุณหญิงเลอรัศมีที่เพิ่งมาถึง ได้ยินบทสทนาพอดี ก็เลยเสริมทัพแทรกพูดขึ้นมา
“ อุ้ยตาย! เพื่อนหมีเพิ่งมาเหรอจ้ะ มรรยาทเหมือนเดิมเลยเนอะ มาประชุมช้า และแถมพูดแทรกอีก เพื่อนหมีนี่เสมอต้นเสมอปลายเลยนะจ้ะ เชิญประทับนั่งข้างๆฉันเลยจ้ะคุณสปอนเซอร์รอง ”
“ ขอบใจเพื่อนหมอนมากนะจ้ะ ขอโทษทีที่เดี้ยนเสียมรรยาทพูดแทรก แต่เดี้ยนพูดกับแม่ดาวนี่นะจ้ะ ไม่ได้พูดกับเพื่อนหมอน ”
“ แหม เด็กปอห้าก็ดูรู้จ้ะว่าอย่างเงี้ย เค้าเรียกว่าเสียมรรยาท หึ! พอฉันเปิดประเด็นเรื่องหนูดาวจะประกวดมิสมองเล่ยะเข้าหน่อย รู้สึกว่าจะมีคนแทรกคนขัดจังเลยเนอะ อ่ะไหนๆก็ไหนแหละ พูดเรื่องนี้เลยล่ะกัน ขอเชิญทุกคนกลับมาที่โต๊ะประชุมใหญ่ด้วยค่ะ จากที่ปิดประชุมกันเมื่อกี้ ซึ่งเสียงส่วนใหญ่คือ ไม่มีใครเห็นด้วยที่จะให้ดาวประกวดมิสมองเล่ยะ ทุกคนยังคงค้านอยู่ไหม ”
ทีมงานอีเว้นท์เกือบทั้งหมดยกมือไม่เห็นด้วย จะมีที่เห็นด้วยอย่างชัดเจนก็แค่น้าจุ๋ม พี่เอก และ ทราย ส่วนจิมก็แกล้งเนียนยกมือกับคนอื่นด้วย พอมาดามสมรเห็น ก็เอาพัดตีไปที่มือ
“ เอาล่ะ ยังไงฉันก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมหนูดาวจะประกวดด้วยไม่ได้ ในเมื่อสิทธิ์ในการสมัครก็ขึ้นอยู่กับเจ้าตัวเค้าเอง ฉันว่ามันไม่แฟร์เลยนะที่จะกั้นสิทธิในการประกวดของเค้า ”
“ อย่างที่น้อยเรียนให้ทราบเบื้องต้นน่ะค่ะ ว่ากติกาก็คือ คนที่เข้าประกวดยังไงก็ต้องมีสปอนเซอร์ เพราะตัวลำพังดาวคนเดียว น้อยเห็นว่ามันก็ไม่แฟร์กับเธอเหมือนกันที่จะออกค่าใช้จ่ายเอง ”
“ ผมเป็นสปอนเซอร์ให้ครับ ดาวจะประกวดโดยมีจิมซูปเปอร์มาเก็ตเป็นสปอนเซอร์ ” ชายฝรั่งรีบยกมือเสนอตัว
“ ยังไงก็ไม่ได้หรอกค่ะคุณจิมมี่ คุณแม่คุณเป็นหนึ่งในคณะกรรมการด้วย แถมยังเป็นประธานการจัดงาน ใครๆที่นี้ก็รู้ว่าคุณลูกใคร คุณจิมมี่อยากให้ทุกคนมองดาวว่าเป็นเด็กเส้นเหรอคะ ” น้อยรีบพูดท้วงทันทีเพื่ออธิบายเหตุผลให้จิมฟัง
“ แล้วถ้าเป็นผม จะได้ไหมครับ แม่ผมหรือญาติผมไม่ได้เป็นคณะกรรมการในนี้แน่นอน ”
“ คุณเป็นใครคะ ” น้อยหันไปถามทันทีด้วยความสงสัย
อ่านต่อกันเลยค่ะ ด้านล่าง
มาดามดำตับเป็ด::บทที่19::ดาวเก้าเดือน::
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
บทที่ 19
ดาวเก้าเดือน
มาดามสมรโบกพัดไปมาช้าๆ นั่งไขว่ห้างบนเก้าอี้ตรงกลางของโต๊ะประชุมใหญ่ ใบหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆทั้งสิ้น สายตาจับจ้องมองดาวตาไม่กระพริบ “ ชื่อดาวเหรอจ้ะ ชื่อสวยดีนะ ”
“ ค่ะ ” ดาวตอบกลับไปสั้นๆ นั่งก้มหน้าทำตัวสงบเสงี่ยม
“ หนูอยากได้กรีนการ์ดเหรอจ้ะ ” คำถามดูแรงแบบจู่โจม แต่ใบหน้าของผู้ถามกลับยิ้มตาหยีอย่างมิตรไมตรี มันยิ่งทำให้เดาทางไม่ออกว่าต้องการคำตอบอะไรจากคำถามนี้
การที่ถูกถามแบบนี้ นั่นก็หมายความว่า ดาวได้ถูกประเมินตีความไปแล้วว่า เธอมาแสวงหาผลประโยชน์จากสิทธิของผู้ถือกรีนการ์ด ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่เธอเคยแม้แต่จะคิดเลยสักนิด เพราะเธอไม่ได้ต้องการมันมาเป็นใบเบิกทางในการใช้อภิสิทธิ์ชนแบบคนอเมริกัน เป้าหมายของการมาที่นี้คือเรื่องงานและความรัก
หญิงสาวตกใจคิดว่าตัวเองหูฝาดไป เพราะการพูดดูถูกแบบนี้ต่อหน้าคนในห้องประชุม มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายมาก เธอจึงย้ำถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ “ คะ? มาดามว่ายังไงนะคะ? ”
“ ฉันถามว่า หนูอยากได้กรีนการ์ดเหรอจ้ะ ถึงพยายามหาสามีฝรั่งน่ะ ” มาดามถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเรียบ สีหน้ายังคงฉาบด้วยรอยยิ้มที่ใจดีเจือรังสีอำมหิต
หญิงสาวตกใจกับสิ่งที่มาดามสมรพูดออกมา จนแทบอยากจะตอกกลับให้หน้าหงาย แต่ก็เกรงใจเพราะยังไงก็เป็นแม่ของจิม “ เปล่าค่ะ ”
“ มัม... ” ชายฝรั่งที่โดนสั่งให้นั่งเงียบ ก็เตรียมพูดออกโรงเพื่อปกป้องหญิงสาวคนรัก แต่ยังไม่ทันที่จะปริปากอธิบาย ฝ่ายแม่ก็เอาพัดไปตีหัวลูกชายที่ปาก “ เงียบ! ยังไม่ถึงคิวแกเจ้าจิม! ”
“ โอเคโอเค ” ชายฝรั่งเอามือซ้ายปิดปากตัวเอง และใช้มือขวาบอกห้ามแม่ให้หยุดตี อาการหงอไม่ต่อกรดูเหมือนกับเด็กที่กลัวการถูกแม่ตี ดาวเห็นก็แอบตลกไม่ได้ เธอเลยเผลออมยิ้มเล็กๆ
“ ยิ้มอะไรจ้ะ ” มาดามหันมามองทันทีเมื่อเห็นดาวแอบยิ้ม
“ ป่าวค่ะ ปากหนูแห้ง หนูก็เลยแอบเม้มปาก ” หญิงสาวเสแสร้งทำท่าเม้มปากไปมาเพื่อแสดงว่าปากเธอแห้ง
“ เหรอจ้ะ แปลกนะ เห็นนั่งแลบลิ้นตลอด ปากไม่น่าแห้งเลยเนอะ ”
สิ่งที่มาดามสมรกำลังพูดถึงคือ ดาวปากห้อยจนเหมือนคนนั่งแลบลิ้น ชายฝรั่งชำเลืองมองดาว และนึกภาพตาม ก็ทนไม่ไหวจึงขำออกมาเสียงดังลั่น “ ฮ่าๆ ซอรี่ ซอรี่ ฮ่าๆๆ โอ้ย ซอรี่ดาว ” ชายฝรั่งเอามือจับท้องตัวเอง และพยายามกลั้นอาการหัวเราะไว้
“ จิมอ่ะ! ” หญิงสาวเอาศอกกระทุ้งไปที่ตัวชายฝรั่งเบาๆด้วยความเขินระคนความเคือง
“ นี่แน่ะ! นี่แน่ะ! นี่แน่ะ! ” มาดามสมรเอาพัดตีที่ปากลูกชายสามครั้งเพื่อทำโทษ “ ใครสั่งให้พูด ถึงคิวหรือยังห๊ะ! เป็นผู้ชายไปหัวเราะปมด้อยผู้หญิงอย่างนั้นได้ยังไง ”
“ แต่ยูก็ว่าดาวเค้านะมัม ”
“ แม่แซว แม่ไม่ได้ว่า หยุดเลยนะ! ถ้าไม่หยุดเดี๋ยวจะโดนพัดยัดปาก! ”
“ โอเค โอเค ” ชายฝรั่งก้มหน้าหงอย ทำท่าหงอทันทีเมื่อแม่ดุเอ็ดตะโรเสียงดังข่ม
“ ขอโทษด้วยนะจ้ะหนูดาว ที่ลูกชายฉันมันปากจัด ”
“ ค่ะไม่เป็นไร ” ดาวกัดฟันตอบ ยิ้มรับกลับอย่างไม่จริงใจ เพราะในใจเธอคิดอีกแบบ “ หึ! จิมปากจัดนี่คงได้มาจากแม่ชัวร์ มาแนวเดียวกันเป๊ะ ”
“ คิดอะไรอยู่เหรอจ้ะ ” มาดามถามหญิงสาว เมื่อเห็นว่ายิ้มค้างอยู่นาน
“ อ๋อไม่มีอะไรค่ะ เหงือกมันเป็นตะคริวน่ะค่ะ ”
“ อ๋อ ฉันนึกว่าเตรียมฝึกยิ้มตอนประกวดมิสมองเล่ยะซะอีก ”
“ คงไม่ใช่หรอกค่ะ เพราะยังไงดาวก็คงไม่ประกวด ”
“ ทำไมล่ะจ้ะ กลัวแพ้เหรอ ”
“ ดาวไม่ได้กลัวแพ้ค่ะ แต่ดาวคิดว่ายังไงก็แพ้ เพราะดูตามเกณฑ์การตัดสินแล้ว ยังไงก็คงไม่ชนะแน่นอนค่ะ ”
“ แบบนี้เค้าเรียกว่ากลัวจ้ะ เคยได้ยินไหม ไม่แข่งก็ยิ่งแพ้ ”
“ ขอโทษนะคะ ขอแทรกอะไรหน่อย ” น้อยยกมือขออนุญาติ ก่อนเดินเข้ามาแทรกการสนทนา “ คือน้อยเห็นว่า ยังไงดาวก็ไม่จำเป็นต้องประกวดมั้งคะ เพราะตามกติกาแล้ว ผู้เข้าร่วมการประกวดจะต้องมีสปอนเซอร์ของตัวเอง โดยจะต้องเป็นร้านค้าหรือเจ้าของสินค้าอะไรก็ได้ที่อยู่ในอเมริกาไม่ใช่เหรอคะ ”
“ ขอบใจคุณน้อยนะคะที่เตือนเรื่องนี้ แต่ยังไม่ถึงคิวพูดเลยนะคะ ช่วยเงียบก่อนค่ะ อันนี้คุยเรื่องส่วนตัวกันภายในครอบครัวน่ะค่ะ เราเบรคการประชุมอยู่ไม่ใช่เหรอ ไว้เข้าประเด็นงานอีเว้น คุณค่อยแทรกนะ ขอบคุณค่ะ ” มาดามส่งยิ้มอย่างสุภาพเมื่อพูดจบประโยค น้อยก็ยิ้มกลับไปอย่างนอบน้อม แต่พอกลับมาที่โต๊ะประชุมย่อย หน้าก็บูดบึ้งทันทีที่โดนด่าหักหน้าแบบนั้นต่อหน้าดาว
“ ตายแหละ เสียใจด้วยนะจ้ะ ไม่มีสปอนเซอร์สนับสนุน เฮ้อ กลับไปนั่งหลังเวทีเป็นสต๊าฟอีเว้นดีไหมจ้ะแม่ดาว ฮ่าๆๆ ” คุณหญิงเลอรัศมีที่เพิ่งมาถึง ได้ยินบทสทนาพอดี ก็เลยเสริมทัพแทรกพูดขึ้นมา
“ อุ้ยตาย! เพื่อนหมีเพิ่งมาเหรอจ้ะ มรรยาทเหมือนเดิมเลยเนอะ มาประชุมช้า และแถมพูดแทรกอีก เพื่อนหมีนี่เสมอต้นเสมอปลายเลยนะจ้ะ เชิญประทับนั่งข้างๆฉันเลยจ้ะคุณสปอนเซอร์รอง ”
“ ขอบใจเพื่อนหมอนมากนะจ้ะ ขอโทษทีที่เดี้ยนเสียมรรยาทพูดแทรก แต่เดี้ยนพูดกับแม่ดาวนี่นะจ้ะ ไม่ได้พูดกับเพื่อนหมอน ”
“ แหม เด็กปอห้าก็ดูรู้จ้ะว่าอย่างเงี้ย เค้าเรียกว่าเสียมรรยาท หึ! พอฉันเปิดประเด็นเรื่องหนูดาวจะประกวดมิสมองเล่ยะเข้าหน่อย รู้สึกว่าจะมีคนแทรกคนขัดจังเลยเนอะ อ่ะไหนๆก็ไหนแหละ พูดเรื่องนี้เลยล่ะกัน ขอเชิญทุกคนกลับมาที่โต๊ะประชุมใหญ่ด้วยค่ะ จากที่ปิดประชุมกันเมื่อกี้ ซึ่งเสียงส่วนใหญ่คือ ไม่มีใครเห็นด้วยที่จะให้ดาวประกวดมิสมองเล่ยะ ทุกคนยังคงค้านอยู่ไหม ”
ทีมงานอีเว้นท์เกือบทั้งหมดยกมือไม่เห็นด้วย จะมีที่เห็นด้วยอย่างชัดเจนก็แค่น้าจุ๋ม พี่เอก และ ทราย ส่วนจิมก็แกล้งเนียนยกมือกับคนอื่นด้วย พอมาดามสมรเห็น ก็เอาพัดตีไปที่มือ
“ เอาล่ะ ยังไงฉันก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมหนูดาวจะประกวดด้วยไม่ได้ ในเมื่อสิทธิ์ในการสมัครก็ขึ้นอยู่กับเจ้าตัวเค้าเอง ฉันว่ามันไม่แฟร์เลยนะที่จะกั้นสิทธิในการประกวดของเค้า ”
“ อย่างที่น้อยเรียนให้ทราบเบื้องต้นน่ะค่ะ ว่ากติกาก็คือ คนที่เข้าประกวดยังไงก็ต้องมีสปอนเซอร์ เพราะตัวลำพังดาวคนเดียว น้อยเห็นว่ามันก็ไม่แฟร์กับเธอเหมือนกันที่จะออกค่าใช้จ่ายเอง ”
“ ผมเป็นสปอนเซอร์ให้ครับ ดาวจะประกวดโดยมีจิมซูปเปอร์มาเก็ตเป็นสปอนเซอร์ ” ชายฝรั่งรีบยกมือเสนอตัว
“ ยังไงก็ไม่ได้หรอกค่ะคุณจิมมี่ คุณแม่คุณเป็นหนึ่งในคณะกรรมการด้วย แถมยังเป็นประธานการจัดงาน ใครๆที่นี้ก็รู้ว่าคุณลูกใคร คุณจิมมี่อยากให้ทุกคนมองดาวว่าเป็นเด็กเส้นเหรอคะ ” น้อยรีบพูดท้วงทันทีเพื่ออธิบายเหตุผลให้จิมฟัง
“ แล้วถ้าเป็นผม จะได้ไหมครับ แม่ผมหรือญาติผมไม่ได้เป็นคณะกรรมการในนี้แน่นอน ”
“ คุณเป็นใครคะ ” น้อยหันไปถามทันทีด้วยความสงสัย
อ่านต่อกันเลยค่ะ ด้านล่าง