ตอนนี้ผมกับลูกเหมือนจะอยู่คนละโลก ต้องทำอย่างไรดีจึงกลับมาอยู่ด้วยกันครับม่

ผมมีชายคนนึงเป็นลูกคนโตของผม เขาพึ่งอายุ 18 เมื่อเดือนแล้วครับ   คือปัญหาอยู่ตรงนี้ ผมไม่แน่ใจมันเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมกับลูกตีตัวออกห่างกัน
เหมือนอยู่คนละโลกแม้อยู่ในบ้านเดียวกัน  ผมเข้าใจนะเด็กที่โตขึ้นลูกโตขึ้นย่อมออกไปใช้ชีวิตเป็นของตัวเองอาจไม่ค่อยคุยกับพ่อแม่เท่าไหร แต่ลูกผมไม่ใช่สิครับ   ไม่ใช่ไม่ค่อยเเต่ไม่เลย ถ้าทำให้เค้าพูดผมต้องเป็นคนเริ่มคนทักเค้าก่อนเสมอ ฃ​คือผมกับลูกแทบจะไม่คุยกันเลยบ้างทีก็เป็นเดือนก็มี         
   
หรืออาทิตย์นึงจึงได้เห็นหน้ากันแม้เห็นหน้ากันก็เห็นกันผ่าน ๆ เท่านั้น บ้างทีผมท◌ักเข้าว่าวันนี้กินข้าวยัง เค้าก็ตอบ กินแล้ว กินแล้วครับ แค่นั้นจบ ส่วมากผมจะเป็นคนทัก ใช่เค้าไม่ทักเลย โดยส่วนตัวเค้ามักจะอยู่ในห้องของเค้าแต่มีบางวัน เค้าจะลงมาอยู่ข้างล่าง ตอนแรกผมไม่รู้นะเค้าทำอะไรบ้างเวลาอยู่ข้างล่าง
ผมจึงได้แอบเอากล้องมาติด จึงได้รู้เค้าทำไร  นี้คือกิจวัตรของของเค้า ประมาณ 9 โมงถึง 10 โมงเช้า เค้าลงมาละ ลำดับเเรกเข้าจะมาปิดผ้าม่านที่ปิดไว้
(ประตูบ้านผมเป็นประตูกระจกบานเลื่อนทั้งบาน ทำให้แสงเข้ามาได้ง่าย แต่ดันมาปิด) ตรงนั้นจึงมืดแสงเข้าได้แค่ขอบผ้า ต่อมาเปิดเชื่อมลำโพงกับโทรศัพท์ เปิดเพลง ไม่แน่ใจเพลงเกาหลีเพลงฝรั่ง ระดับเสียงที่เค้าเปิดเบามาก ประมาณ20 30 ​​ปกติผมเปิดดังกลาง ๆ ถึงเกือบสุด      
  
แต่ดูเค้าโยกเต้นอย่างมัน​ เต้นอย่างมีความสุข ​แล้วเค้าก็ขึ้นไปเอาหนังสือการ์ตูนนิยาย ลงมาอ่าน เพลงก็เปิดไปพลาง  ประมาณเที่ยง ๆ เค้าไปในครัว หุงข้าวทำกับข้าวกินข้าวเองของเค้า อยู่ตรงนั้นประมาณ20นาที ก็ออกมาแล้วอ่านการ์ตูนนิยายต่อ  4 โมงเย็น ช่วงนี้ทำให้ การอยู่คนละโลกชัดเจน 4 โมงผมกลับถึงบ้าน เสียงมอไซค์ผมหยุดที่หน้าบ้าน
​ตัวเค้าสะดุ้ง หันมองที่ประตูแว๊บนึง รีบลุกปิดลำโพงหอบหนังสือการ์ตูนวิ่งขึ้นไปข้างบนทันที แล้วเค้าก็อยู่ในห้องไม่ออกมาเลยจนถึง4 ทุ่มเข้าออกมาลงมาข้างล่าง ทำกับข้าว​กิน แต่ในช่วง 4 โมงถึง 3 ทุ่มผมก็อยู่ ข้างล่างไม่เห็นเค้าออกมาเลย  หรือถ้าวันไหนผมอยู่บ้านทั้งวันเค้าจะไม่ลงมาเลยผมก็เรียกเค้าให้ลงมากินข้าว เค้าก็ตอบว่าครับเดี๋ยวลงไป แต่ก็ไม่ลงมา มีวิธีเดียวที่ทำให้เค้าลงมาผมจะต้องไม่อยู่ที่บ้านต้องออกไปข้างนอก
        
เป็นอยู่อย่างนี้มาตลอด สองสามอาทิตย์ต่อเค้าเห็นกล้องที่แอบ หลังจากนั้นเข้าไม่ลงมาอีกเลยลงมาเฉพาะกินข้าวกินน้ำเท่านั้น จนเป็นเดือน ๆ แล้วผมก็เอากล้องออก หลังจากเอากล้องออกหนึ่งอาทิตย์เค้าก็ลงมา แล้วเค้าทำเเบบเดิมทุกวันที่ผมกลับถึงบ้าน  ผมก็คิดหาวิธีทำให้ผมกับลูกอยู่ด้วยกันได้ ผมเริ่มจากพาเค้าไปซื้อของไปห้างดูหนัง แล้วผลลัพธ์มันไม่ช่วยอะไรเลย  ตอนที่เดินด้วยกันเท่าผมสังเกตุเข้าหูข้างนึงแขนกอดอกไม่ก็มือล้วงกระเป๋ากางเกงเดินเงียบ ๆ ไม่พูดอะไร ผมถามอยาก ซื้อเสื้อไหม เงียบ ​พยักหน้า  ​อย่างได้อะไรไหม เงียบ ทำท่าคิดแปปนึง แล้วบอกว่า ไม่มีคับ  อยากกินอะไรไหม​ เอาข้าวขาหมูก็ได้ ของโปรดเค้าอันนี้ แต่มาทุกครั้งเค้าสั่งแต่อันนี้  จบด้วยการดูหนัง   
   
ดูเสร็จถามเค้าหนังสนุกไหม ก็สนุกดี ผมก็โม้หนังมันสนุกอย่างโน้นอย่างนี้ชอบพระเอกโคตรเท่บู้อย่างมัน แต่เค้าแค่ อือ ออ ตาม พยักหน้าแค่นั้น  จบแค่นั้นแล้วก็กลับบ้านเลย   มีอยู่วันนึงผมได้เห็นเค้าอีกด้านนึงเวลาอยู่กับเพื่อนของเค้า ผมรู้สึกอิจฉาเล็ก ๆ แต่ดีใจที่เป็นแบบนั้น
มีวันนึงเพื่อนเค้ามารับไปห้าง ๆ เดิมด้วยบังเอิญวันหยุดผมด้วยถือโอกาสตามเค้าไปดู แล้วสิ่งที่เห็นคนละคนชัด ๆ เค้าดูร่าเริงยิ้มตลอดพูดตลอดเค้าพาเพื่อนไปดูนั้นดูนี้เล่นอันนั้นอันนี้ พากันไปกิน KFC กินไอติม เค้าไม่ไปเฉียดไม่กินข้าวขาหมูเลย จบที่ดูหนังเหมือนกัน แต่เค้าออกมาดูโม้เยอะกว่าผมอีกนะ
​แล้วดูเดินดูนั้นนี้ต่อสักพักนึง เหมือนแวบนึงผมกับเค้าสมตากันแล้วท่าทางเค้าเปลี่ยนทันที กลับมานิ่งเงียบเหมือนเดิม ผมรู้ทันที่เค้าเห็นผมเเล้ว ผมจึงรีบกลับบ้าน      
   
เที่ยงคืนเค้ากลับมาถึงบ้านผมนั้งดูบอล(รอเค้า)ด้วย ผมก็คิดไว้แล้วว่าผมต้องโดนเค้าว่าแน่ แต่ไม่เค้าเปิดประตูบ้านในมือหิวถุงสองสามถุง ไม่ก็หนังสือการ์ตูนหรือเข็มขัดไรเดอร์นี้เเหละ รีบเดินขึ้นไปในห้องเลยไม่มองผมแม้แต่นิด ผมก็ไม่ทำแบบนี้อีกเลย ​หรือบ้างทีผมจะพาเค้าไปทะเลไปน้ำตกอันต้องลุ้นเค้าจะไปไม่ไปส่วนมากไม่ไป แล้วทำไมเพื่อนชวนไปตลอดไม่ขัด ตอนนี้ผมหาวิธีตลอดหาได้แต่ไม่เป็นผลเลย ตอนที่นั้งรถด้วยกันเวลาไปบ้านญาติหรือต่างจังหวัดด้วยกัน เค้าจะนั่งข้างคนขับตลอดที่ประจำของเค้าถ้าไม่มีที่ให้ตรงนั้นเค้าจะไปนั้งท้ายกระบะเลย ชื่นใจนะที่เค้านั่งตรงนั้นจะมีโอกาสได้คุย
  ใช่เค้านั่งตรงนั้นก็ยังคนละโลกอยู่ดีใส่หูฟังสองข้างนั่งมองข้างทาง นิ้วกระดิกเป็นจังหวะโยกหัเล็กน้อยน่าจะเพลงเกาหลีมัน ๆ เค้าแหละ ผมลองเปิดเพลงในรถผมอย่างฟังเหมือนกันเค้ายิบหูฟังครอบมาใส่ทันทีทั้ง ๆ ​ในหูมีอยู่แล้ว ถ้ามีแวะปั๊ม ผมถามเอาไรไหมบางทีก็​ไม่บางทีขอนมเลตตาซอยกล่องนึง แต่พอทีลงไปซื้อเอง​ขนมห่อนึง ​กาแฟอาซอนแก้วนึง เบอเกอร์ห่อนึง ผมไม่ติดนะจะขออะไรผมซื้อให้หมดผมเคยบอกนะไม่ต้องเกรงใจขอได้เลยแต่ยังเหมือนเดิม  ​เรื่องประมาณนี้ละครับ ที่จริงมีอีกเยอะ ขี้เกียจพิมแล้วครับ และไม่อยากประจารลูกผมไปมากกว่านี้ ​​ผมก็ดีใจนะที่เห็นมีลูกความสุขไม่เก็บตัวมากเกินแม้ต้องเป็นเพราะเพื่อนเค้าเท่านั้น แต่ผมไม่อยากให้ผมและลูกห่างเหินอยู่คนละโลกกันแบบนี้ เข้าใจนะสักวันลูกต้องออกห่างจากเราแต่นี้มีโอกาสได้คุยได้เจอหน้าตลอด ก็ยังคนละโลกอยู่ดี ทำไงดีวิธีไหนผมกับลูกจึงอยู่โลกเดียวกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่