เราเสียใจมาก เราคบกับแฟนมา 5 ปี เรารักเขาแบบเราตั้งใจรักและตั้งใจให้เขาเป็นคู่ชีวิตของเรา แต่เขาใช้คำพูดทำร้ายเราหลายคนั้งมาก ตอนเราคบมันปกติเราพยายามไม่ให้ทะเลาะกันข้ามคืน เวลาเรางอน เขาง้อ เราหาย เขางอน เราต้องง้อต่อ ซึ่งมันเป็นแบบนี้มันตลอด แต่เราคือ "ทน" เพราะเรารักเขา เราค่อยดูแล เอาใจใส่เขา แต่เราก็เคยทำให้เขารอเราตลอด เพราะเราทำงานหนัก เลิกดึก บางทีเราก็ ยากมีเวลาส่วนตัวที่อยากดูหนังฟังเพลง ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำก่อนที่เราจะโทรหาเขาก่อนนอนทุกคืน มันก็เลยอาจจะทำให้เขาเบื่อก็ได้ (ในความคิดเรา)
เรื่องมันเกิดที่ว่า เราเริ่มที่จะมีความคิดว่าจะซื้อโทรศัพท์ให้พ่อ เพราะโทรศัพท์เขาไม่ไหวแล้ว ตอนนั้นเราก็ไม่ค่อยมีเงินนะ เราก็ปรึกษาเขา เขาก็บอกว่าใจเย็นๆ อย่าพึ่งซื้อ ซึ่งเราก็ฟังนะ แต่ที่เราซื้อเพราะญาติของเรายัดของมาให้เรา คือก่อนหน้าเรื่องนี้คือญาติของเรามาบอกว่ามีโทรศัพท์oppo reno 13 ในราคา 13,000 ซึ่งเราก็สนใจ แต่คือเราก็ยังไม่พร้อมเราก็บอกญาติเราว่าอีกพักนึงนะ แต่ผ่านมาอีกวัน ของได้มาอยู่ที่บ้านเราแล้ว แล้วจะไม่จ่ายเขาได้ยังไง ซึ่งเราก็ยืมเงินพี่ชายเรามาจ่ายก่อน เดือนถัดมาเราก็คืนพี่เราครึ่งก่อน แต่ธุรกิจเราหมุนไม่ทัน พี่เราเลยให้เงินคืนมาก่อน แล้วเราก็ยังไม่ได้คืนพี่ชายตัวเอง แล้วเวลาผ่านไป 5 เดือน เราอยากไปแท็ปเล็ตไว้ทำงาน เวลาทำงานที่ร้านก็สะดวกดี ซึ่งเราก็คิดหน้าคิดหลังก่อนนะ ว่าเราสมควรซื้อมั้ย เพราะเราก็มีโทรศัพท์ คอมแล้ว แต่เราก็แพ้เสียงในหัวไง เราใช้บัตรเครดิตซื้อแล้วผ่อน 0% ไป เราก็ปรึกษาเขานะ แต่เขาก็ให้เราซื้อ แล้วเราก็เดินมาบอกพี่ชายเราด้วย เพราะรู้สึกแย่เหมือนกันว่าเงินยังไม่ได้คืนพี่ชาย แต่ยังไปซื้อของมาเพิ่มอีก แต่พี่ชายบอกพร้อมเมื่อไรค่อยคืน แล้วธ◌ุรกิจเราเริ่มมีกำไรได้ 2 เดือน เราก็ค่อยๆเก็บเงิน แต่เราก็ความคิดในหัวอีกว่าอยากจัดฟัน ฟันมันห่าง เราก็ผิดที่ใช้เงินฟุ่มเฟือยอยู่นะ แต่เราอยากจัดนานมากแล้วเป็น 10 ปี แต่เราไม่ได้บอกเรา แล้วเราหาข้อมูล หาสถานทีที่เราจะไปจัดฟัน หลายที่ที่จัดดี ราคาเหมาะสม ไม่เลี้ยงไข้ แล้วจุดประสงค์อยากจัดฟันใสเลย เพราะจะได้ไม่ต้องรำคาญตัวเอง แล้ววันที่เราจัดฟันเราปรึกษาเขาว่าอยากให้จัดมั้ย เขาบอกว่าไม่อยากให้จัด แต่ตอนนั้นเราอยู่ในห้องหมอแล้ว แล้วเราไม่ได้จับโทรศัพท์เลย แล้วเราปรึกษาหมออย่างเดียว เพราะหมอเก็บโทรศัพท์เราเอาไว้ แต่มันก็คงไม่ใช่ประเด็นเท่าไร คือเราก็ตัดสินใจจัดฟันแบบเหล็กเพราะราคาถูกกว่า จ่ายถูกกว่าแล้วปัญหาฟันเราไม่ได้เยอะมากจนต้องไปเสียแพงขนาดนั้น เราก็ใช้เงินเราจ่ายไป แต่พอเรากลับมาบ้าน เขาก็บอกว่า "คุณใช้เงินไม่ถูกต้องนะ" เราเลยตัดสินใจคืนเงินพี่ชายเราทั้งให้เขาเลย แต่เขาก็เริ่มไม่พอใจเราตั้งแต่วันนั้น แต่ทั้งหมดคือเงินของเรา
เวลาที่คบกันจะเกือบ 6 ปี เราก็... เขาเริ่มเปลี่ยนไป เวลาไปเดินห้างด้วยกัน เราเป็นไม่ค่อยมองทาง เขาก็คอยดู คอนดึงเราไม่ให้ไปชนคนอื่น ซึ่งเหมือนดึงเบา แต่ตอนนี้กลับดึงแรงขึ้น จนบางทีเราเจ็บ บางครั้งเราก็บอกเขา ว่าเราเจ็บนะ เขาก็เฉยๆ แล้ววันนึงเราก็เปิดใจคุยกัน เขาบอกเราว่าเขารู้สึกไม่เหมือนเดิมกับเราแล้ว เขาบอกให้เราปรับปรุงตัวเรื่องการใช้เงิน การตื่นสาย การไปทำงาน ซึ่งธุรกิจเรา เราควบคุมดูแลตลอด บางทีผ่านทางโทรศัพท์ ไม่เคยทิ้งหาย แต่เขากลับบอกว่าเราไม่ท◌ำงาน เราเลยไม่เขาใจจุดประสงค์ของเขา เรื่องเงินเราเข้าใจ อาจจะเป็นช่วงนี้ที่เราฟุ่มเฟือยเองด้วย เราก็พร้อมปรับตัว เวลาผ่านไปเรามาเปิดใจคุยกันอีก เขาก็ยังบอกเหมือนเดิมว่า "ก็ยังไม่เหมือนเดิม" เราแบบเริ่มคิดแล้วว่าควรไปต่อดีมั้ย เพราะเหมือนนิสัยส่วนตัวของเขาเริ่มออกมาแล้ว ตลอดเวลาคบกัน เราเป็นตัวเองมาโดยตลอด เปิดให้เขาเห็นชัดเจน แล้วเวลาที่เราอยู่กับเขาเราสบายใจมาก เรารักเขาในแบบที่เขาเป็น ข้อดีเขาอาจจะน้อยกว่าข้อเสีย แต่เขาก็คือคนที่เราคิดว่าจะฝากชีวิตไว้กับเขาได้ ซึ่งเวลาผ่านไป เขาเริ่มกด บงการชีวิตเรามากขึ้น เรารู้สึกเหมือนโดนควบคุมเรื่องเงิน เรื่องต่างๆ เขาบอกเราว่า "ถ้าใช้เงินเกิน 200 บาท ให้บอกเราด้วยนะ" คือเราก็แบบบางอย่างก็ไม่ได้บอกทั้งหมดหรอก แล้วเราก็ไปนั่งคุยกันอีก เขาว่าเราว่า "เธอใช้เงินไม่ต่างอะไรกับแม่ของเธอเลย" เราฟังแล้วเรารู้สึกเจ็บมาก เขาบอกเขาต้องการพูดให้เราเจ็บ จะได้จำ เราอดทนกับเขามา 3-4 อาทิตย์ กับอาการแบบนิ่ง เงียบ ไม่ค่อยได้คุยกันเหมือนเมื่อก่อน แล้วเราก็ได้ปรึกษาหลายคน ทุกคนให้คำเดียวกันว่า "เลิกกันเถอะ ถ้าคบกันต่อทรมานแน่นอน" แล้วก็คิดว่าหลายวัน ว่าเราควรมั้ย
สุดท้าย "เราก็จบกัน" เราบอกให้เขาโชคดี ให้เขาได้เจอคนที่ดีกว่าเรานะ ขอให้ได้เจอคนที่เธอต้องการ คนที่อยู่กับเธอแล้วเธอมีความสุขนะ เรา 2 คน ขอโทษกันและกัน แล้วบอกจะเป็นเพื่อน ปรึกษากันได้อะไรได้ เขาบอกให้มาปรึกษาเขาจะดีที่สุด คนอื่นอาจจะไม่ได้อะไรเท่าไร เราก็อืม
พอวางสายโทรศัพท์ลงทุกอย่างคือขยับอะไรไม่ได้เลย มันโคตรแย่ มันแบบร้องไห้จนมันหยุดร้องไม่ได้ พยายามตั้งสติ ร้องไห้จนตาบวม ทุกอย่างมันจบแล้ว เราพยายามบอกตัวเองอยู่ว่าเราควรรักตัวเองให้มากๆนะ เหมือนที่เขาทำกับตัวเขาเอง เราเจ็บจนเรากินยานอนหลับเผื่อให้เราหลับ เพราะไม่หยุดร้องไห้เลยจริงๆ มีความคิดที่ฆ่าตัวตายด้วยการกินยาเลยด้วย แต่เราก็แพ้เสียงในหัว เราบอกตัวเองว่า ถ้าเราตายเขาจะกลับมาสนใจเรารึไง เขาจะมารับรู้เรื่องอะไรของเรารึไง แต่มันเจ็บจริงๆ เพราะรักครั้งนี้เราคาดหวังไว้มาก คิดว่าเขาคือคนสุดท้ายแล้ว แล้วเราก็ไม่คิดว่าเขาจะปล่อยมือเราไป ลืมบอกไปว่ารักของเรา 2 คนคือรักทางไกลกันนะคะ เราเคยไปเห็นไลน์ในโทรศัพท์เขา เขาติดต่อกับน้องที่ทำงาน แล้วคุยเหมือนว่าจะไปตีแบตของบริษัทกัน แล้วเขาก็ส่งรูปงานชาเขียวให้น้องที่ทำงานเขา คือเราก็ไม่รู้ว่าเขาส่งทำไม แต่เขาบอกเราว่าเขาไม่ได้สนใจ ไม่ได้ใส่ใจ เขาไม่ได้มีคนอื่น เขามีเราคนเดียว แต่ระยะเวลาที่เกิดขึ้นทุกอย่างมันเร็วมากเลย แล้วน้องที่ทำงานเขาก็ทักมาลาเขา ซึ่งเขาไม่ได้เป็นคนอนุมัติลา แล้วน้องคนนั้นจะมาลากับเขาทำไม เราไม่เข้าใจ แต่เขาก็ยังยืนยันคำเดิม
ตอนนี้เราบอกตัวเองว่า แหมะ....เล่นซะท้ายปีเลย เดือนหน้าก็ครบรอบ 6 ปีแล้ว แต่ต้องมาจบแบบนี้ คิดเล่นๆว่า "แหมะปีใหม่ ได้คนใหม่เฉย!!" 555(เสียงหัวเราะที่มีน้ำตา)
อยากให้ทุกคนช่วยเราหน่อยคะว่าเราควรไปฮิลใจที่ไหนดี เราควรทำตัวเองย◌ังไงดี เราเจ็บมากนะ เจ็บจนกินไม่ได้เลย ข่วยด้วยค่ะ 🫶🤍
อยากทราบสถานที่ฮิลใจสำหรับคนอกหัก
เรื่องมันเกิดที่ว่า เราเริ่มที่จะมีความคิดว่าจะซื้อโทรศัพท์ให้พ่อ เพราะโทรศัพท์เขาไม่ไหวแล้ว ตอนนั้นเราก็ไม่ค่อยมีเงินนะ เราก็ปรึกษาเขา เขาก็บอกว่าใจเย็นๆ อย่าพึ่งซื้อ ซึ่งเราก็ฟังนะ แต่ที่เราซื้อเพราะญาติของเรายัดของมาให้เรา คือก่อนหน้าเรื่องนี้คือญาติของเรามาบอกว่ามีโทรศัพท์oppo reno 13 ในราคา 13,000 ซึ่งเราก็สนใจ แต่คือเราก็ยังไม่พร้อมเราก็บอกญาติเราว่าอีกพักนึงนะ แต่ผ่านมาอีกวัน ของได้มาอยู่ที่บ้านเราแล้ว แล้วจะไม่จ่ายเขาได้ยังไง ซึ่งเราก็ยืมเงินพี่ชายเรามาจ่ายก่อน เดือนถัดมาเราก็คืนพี่เราครึ่งก่อน แต่ธุรกิจเราหมุนไม่ทัน พี่เราเลยให้เงินคืนมาก่อน แล้วเราก็ยังไม่ได้คืนพี่ชายตัวเอง แล้วเวลาผ่านไป 5 เดือน เราอยากไปแท็ปเล็ตไว้ทำงาน เวลาทำงานที่ร้านก็สะดวกดี ซึ่งเราก็คิดหน้าคิดหลังก่อนนะ ว่าเราสมควรซื้อมั้ย เพราะเราก็มีโทรศัพท์ คอมแล้ว แต่เราก็แพ้เสียงในหัวไง เราใช้บัตรเครดิตซื้อแล้วผ่อน 0% ไป เราก็ปรึกษาเขานะ แต่เขาก็ให้เราซื้อ แล้วเราก็เดินมาบอกพี่ชายเราด้วย เพราะรู้สึกแย่เหมือนกันว่าเงินยังไม่ได้คืนพี่ชาย แต่ยังไปซื้อของมาเพิ่มอีก แต่พี่ชายบอกพร้อมเมื่อไรค่อยคืน แล้วธ◌ุรกิจเราเริ่มมีกำไรได้ 2 เดือน เราก็ค่อยๆเก็บเงิน แต่เราก็ความคิดในหัวอีกว่าอยากจัดฟัน ฟันมันห่าง เราก็ผิดที่ใช้เงินฟุ่มเฟือยอยู่นะ แต่เราอยากจัดนานมากแล้วเป็น 10 ปี แต่เราไม่ได้บอกเรา แล้วเราหาข้อมูล หาสถานทีที่เราจะไปจัดฟัน หลายที่ที่จัดดี ราคาเหมาะสม ไม่เลี้ยงไข้ แล้วจุดประสงค์อยากจัดฟันใสเลย เพราะจะได้ไม่ต้องรำคาญตัวเอง แล้ววันที่เราจัดฟันเราปรึกษาเขาว่าอยากให้จัดมั้ย เขาบอกว่าไม่อยากให้จัด แต่ตอนนั้นเราอยู่ในห้องหมอแล้ว แล้วเราไม่ได้จับโทรศัพท์เลย แล้วเราปรึกษาหมออย่างเดียว เพราะหมอเก็บโทรศัพท์เราเอาไว้ แต่มันก็คงไม่ใช่ประเด็นเท่าไร คือเราก็ตัดสินใจจัดฟันแบบเหล็กเพราะราคาถูกกว่า จ่ายถูกกว่าแล้วปัญหาฟันเราไม่ได้เยอะมากจนต้องไปเสียแพงขนาดนั้น เราก็ใช้เงินเราจ่ายไป แต่พอเรากลับมาบ้าน เขาก็บอกว่า "คุณใช้เงินไม่ถูกต้องนะ" เราเลยตัดสินใจคืนเงินพี่ชายเราทั้งให้เขาเลย แต่เขาก็เริ่มไม่พอใจเราตั้งแต่วันนั้น แต่ทั้งหมดคือเงินของเรา
เวลาที่คบกันจะเกือบ 6 ปี เราก็... เขาเริ่มเปลี่ยนไป เวลาไปเดินห้างด้วยกัน เราเป็นไม่ค่อยมองทาง เขาก็คอยดู คอนดึงเราไม่ให้ไปชนคนอื่น ซึ่งเหมือนดึงเบา แต่ตอนนี้กลับดึงแรงขึ้น จนบางทีเราเจ็บ บางครั้งเราก็บอกเขา ว่าเราเจ็บนะ เขาก็เฉยๆ แล้ววันนึงเราก็เปิดใจคุยกัน เขาบอกเราว่าเขารู้สึกไม่เหมือนเดิมกับเราแล้ว เขาบอกให้เราปรับปรุงตัวเรื่องการใช้เงิน การตื่นสาย การไปทำงาน ซึ่งธุรกิจเรา เราควบคุมดูแลตลอด บางทีผ่านทางโทรศัพท์ ไม่เคยทิ้งหาย แต่เขากลับบอกว่าเราไม่ท◌ำงาน เราเลยไม่เขาใจจุดประสงค์ของเขา เรื่องเงินเราเข้าใจ อาจจะเป็นช่วงนี้ที่เราฟุ่มเฟือยเองด้วย เราก็พร้อมปรับตัว เวลาผ่านไปเรามาเปิดใจคุยกันอีก เขาก็ยังบอกเหมือนเดิมว่า "ก็ยังไม่เหมือนเดิม" เราแบบเริ่มคิดแล้วว่าควรไปต่อดีมั้ย เพราะเหมือนนิสัยส่วนตัวของเขาเริ่มออกมาแล้ว ตลอดเวลาคบกัน เราเป็นตัวเองมาโดยตลอด เปิดให้เขาเห็นชัดเจน แล้วเวลาที่เราอยู่กับเขาเราสบายใจมาก เรารักเขาในแบบที่เขาเป็น ข้อดีเขาอาจจะน้อยกว่าข้อเสีย แต่เขาก็คือคนที่เราคิดว่าจะฝากชีวิตไว้กับเขาได้ ซึ่งเวลาผ่านไป เขาเริ่มกด บงการชีวิตเรามากขึ้น เรารู้สึกเหมือนโดนควบคุมเรื่องเงิน เรื่องต่างๆ เขาบอกเราว่า "ถ้าใช้เงินเกิน 200 บาท ให้บอกเราด้วยนะ" คือเราก็แบบบางอย่างก็ไม่ได้บอกทั้งหมดหรอก แล้วเราก็ไปนั่งคุยกันอีก เขาว่าเราว่า "เธอใช้เงินไม่ต่างอะไรกับแม่ของเธอเลย" เราฟังแล้วเรารู้สึกเจ็บมาก เขาบอกเขาต้องการพูดให้เราเจ็บ จะได้จำ เราอดทนกับเขามา 3-4 อาทิตย์ กับอาการแบบนิ่ง เงียบ ไม่ค่อยได้คุยกันเหมือนเมื่อก่อน แล้วเราก็ได้ปรึกษาหลายคน ทุกคนให้คำเดียวกันว่า "เลิกกันเถอะ ถ้าคบกันต่อทรมานแน่นอน" แล้วก็คิดว่าหลายวัน ว่าเราควรมั้ย
สุดท้าย "เราก็จบกัน" เราบอกให้เขาโชคดี ให้เขาได้เจอคนที่ดีกว่าเรานะ ขอให้ได้เจอคนที่เธอต้องการ คนที่อยู่กับเธอแล้วเธอมีความสุขนะ เรา 2 คน ขอโทษกันและกัน แล้วบอกจะเป็นเพื่อน ปรึกษากันได้อะไรได้ เขาบอกให้มาปรึกษาเขาจะดีที่สุด คนอื่นอาจจะไม่ได้อะไรเท่าไร เราก็อืม
พอวางสายโทรศัพท์ลงทุกอย่างคือขยับอะไรไม่ได้เลย มันโคตรแย่ มันแบบร้องไห้จนมันหยุดร้องไม่ได้ พยายามตั้งสติ ร้องไห้จนตาบวม ทุกอย่างมันจบแล้ว เราพยายามบอกตัวเองอยู่ว่าเราควรรักตัวเองให้มากๆนะ เหมือนที่เขาทำกับตัวเขาเอง เราเจ็บจนเรากินยานอนหลับเผื่อให้เราหลับ เพราะไม่หยุดร้องไห้เลยจริงๆ มีความคิดที่ฆ่าตัวตายด้วยการกินยาเลยด้วย แต่เราก็แพ้เสียงในหัว เราบอกตัวเองว่า ถ้าเราตายเขาจะกลับมาสนใจเรารึไง เขาจะมารับรู้เรื่องอะไรของเรารึไง แต่มันเจ็บจริงๆ เพราะรักครั้งนี้เราคาดหวังไว้มาก คิดว่าเขาคือคนสุดท้ายแล้ว แล้วเราก็ไม่คิดว่าเขาจะปล่อยมือเราไป ลืมบอกไปว่ารักของเรา 2 คนคือรักทางไกลกันนะคะ เราเคยไปเห็นไลน์ในโทรศัพท์เขา เขาติดต่อกับน้องที่ทำงาน แล้วคุยเหมือนว่าจะไปตีแบตของบริษัทกัน แล้วเขาก็ส่งรูปงานชาเขียวให้น้องที่ทำงานเขา คือเราก็ไม่รู้ว่าเขาส่งทำไม แต่เขาบอกเราว่าเขาไม่ได้สนใจ ไม่ได้ใส่ใจ เขาไม่ได้มีคนอื่น เขามีเราคนเดียว แต่ระยะเวลาที่เกิดขึ้นทุกอย่างมันเร็วมากเลย แล้วน้องที่ทำงานเขาก็ทักมาลาเขา ซึ่งเขาไม่ได้เป็นคนอนุมัติลา แล้วน้องคนนั้นจะมาลากับเขาทำไม เราไม่เข้าใจ แต่เขาก็ยังยืนยันคำเดิม
ตอนนี้เราบอกตัวเองว่า แหมะ....เล่นซะท้ายปีเลย เดือนหน้าก็ครบรอบ 6 ปีแล้ว แต่ต้องมาจบแบบนี้ คิดเล่นๆว่า "แหมะปีใหม่ ได้คนใหม่เฉย!!" 555(เสียงหัวเราะที่มีน้ำตา)
อยากให้ทุกคนช่วยเราหน่อยคะว่าเราควรไปฮิลใจที่ไหนดี เราควรทำตัวเองย◌ังไงดี เราเจ็บมากนะ เจ็บจนกินไม่ได้เลย ข่วยด้วยค่ะ 🫶🤍