JJNY : พ.ต.ท.ธีรวัตร์ลงปชน.│บิ๊ก สระบุรีลงส.ส.ปชน.│ปชน.ยันอ่านครบทุกบรรทัด│ทุกอย่างเกิดจากกัมพูชา│ผู้นำศาสนาหลอกศาสนิกชน

พ.ต.ท.ธีรวัตร์ ยื่นลาออกราชการ ลงสมัครปาร์ตี้ลิสต์ ปชน. ลั่นขอสละอาชีพที่รัก หวังเปลี่ยนองค์กรตำรวจ
https://www.matichon.co.th/politics/election69/news_5521363
.

.
พ.ต.ท.ธีรวัตร์ ยื่นลาออกราชการ ลงสมัครปาร์ตี้ลิสต์ปชน. ขอสละอาชีพที่รัก หวังเปลี่ยนองค์กรตำรวจ
.
เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ธีรวัตร์ ปัญญาณ์ธรรมกุล โพสต์ข้อความผ่านเพจ “ธีรวัตร์ ปัญญาณ์ธรรมกุล – Thirawat Panyatammakul” ระบุว่า
.
–ราคาที่ต้องจ่าย–
.
ถ้าถามผมตอนเด็กๆว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร ผมตอบอย่างไม่ลังเลใจว่า “ตำรวจ” เพราะผมเฝ้าใฝ่ฝันที่จะเป็นผู้ผดุงความยุติธรรมในสังคม อยากเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
.
ในวันนี้องค์กรตำรวจกำลังมีปัญหา อยู่ในภาวะตกต่ำอย่างถึงที่สุด
.
การรับราชการตำรวจของผมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตำรวจได้ เพราะตัวผมก็อยู่ภายใต้โครงสร้างตำรวจที่บิดเบี้ยว และมีข้อจำกัดอย่างมากมายหากจะเปลี่ยนแปลงองค์กรตำรวจ
.
หากหวังพึ่งคนอื่นมาเข้าใจ ดูแลใส่ใจ และเปลี่ยนแปลงตำรวจด้วยความจริงใจ ผมก็มองไม่เห็นทาง
.
วันนี้ผมมายืนอยู่ตรงทางแยก เลือกได้ระหว่างจะอดทนอยู่ในระบบรับราชการต่อไป หรือ จะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลง
.
ผมถูกพร่ำสอนมาตั้งแต่อยู่โรงเรียนเตรียมทหารต่อเนื่องโรงเรียนนายร้อยตำรวจว่า “ต้องเสียสละ” เพื่อประเทศชาติ
.
ผมตัดสินใจแล้วว่าจะขอยอมเสียสละซึ่งอาชีพตำรวจอันเป็นที่รัก ออกจาก Comfort Zone และลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลง เพื่อแก้ไข ปรับปรุง พัฒนาองค์กรตำรวจ และส่งเสริมตำรวจน้ำดีในองค์กร เพื่อประเทศชาติและประชาชน
.
ผมรู้ซึ้งดีถึงราคาที่ต้องจ่าย เพราะ “ตำรวจคือ ผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชน ไม่ใช่นายประชาชน”
.
และตอนนี้ผมออลอิน All in
.
พร้อมกับแนบ หนังสือขอลาออกจากราชการ
.
เรื่อง ขอลาออกจากราชการ
เรียน ผกก.สน.สายไหม
.
ด้วยข้าพเจ้า พ.ต.ท.ธีรวัตร์ ปัญญาณธรรมกุล ตำแหน่ง สว.(สอบสวน) หัวหน้างามคดีสน.สายไหม เริ่มรับราชการ เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2550 ปัจจุบันได้เงินเดือนระดับ ส.๓ ชั้น20 (39,880 บาท) มีความประสงค์ขอลาออกจากราชการ เพื่อสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม2568
.
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา.
.
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid02undPJ9Ubfx12QqHbt7HoVP1jkU58qfxfw24VBNtWtpcpMbYu9RR6LtNhTAqQMYMXl&id=61585738340470
.

.
ฮือฮา บิ๊ก สระบุรี อดีตแชมป์โลกสนุกเกอร์ ประกาศลง ส.ส.ปชน.สระบุรี ขอยืนข้างปชช.อย่างตรงไปตรงมา https://www.matichon.co.th/politics/election69/news_5521476
.
ฮือฮา บิ๊ก สระบุรี อดีตแชมป์โลกสนุกเกอร์ ประกาศลง ส.ส.ปชน.สระบุรี ขอยืนข้างปชช.อย่างตรงไปตรงมา
.
เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเลือกตั้ง 8 กุมภาพันธ์ 2569 เรียกว่าคึกคักไม่น้อย ที่ผ่านมามีนักธุรกิจ อาจารย์ รวมถึง ผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ลงสนามการเมืองต่อเนื่อง ล่าสุด บิ๊ก สระบุรี อดีตแชมป์สอยคิวสมัครเล่นโลก ปี 2007 ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ขอลงสมัคร ส.ส.เขต 3 จ.สระบุรี พรรคประชาชน
.
อรรถสิทธิ์ มหิทธิ หรือที่รู้จักกันในชื่อ บิ๊ก สระบุรี อดีตนักกีฬาสนุกเกอร์ เจ้าของแชมป์สนุกเกอร์สมัครเล่นโลก ปี 2007 ลงสมัคร ส.ส.เขต 3 อ.หนองแค อ.วิหารแดง อ.หนองแซง อ.เมือง (เฉพาะ ต.หนองโน) จ. สระบุรี ในนามพรรคประชาชน โดยได้โพสต์แนะนำตัวในเฟซบุ๊กว่า หลายคนจะรู้จักตนในวงการกีฬา วงการทีวี วงการพากย์ นับจากวินาทีนี้ ตนจะเปลี่ยนเสียงพากย์ของตน ไปเป็นเสียงในสภา เพราะตนเชื่อว่า ปัญหาของประชาชน ไม่ควรถูกพูดผ่านไมโครโฟนเพียงอย่างเดียว แต่ต้องถูกผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
.
นายอรรถสิทธิ์ กล่าวว่า จังหวัดสระบุรีขับเคลื่อนประเทศด้วยอุตสาหกรรม แต่ประชาชนต้องไม่แลกสุขภาพกับการเติบโต โดยตนจะผลักดันการแก้ปัญหาฝุ่น และมลพิษอย่างจริงจัง ควบคู่กับการคุ้มครองแรงงานให้มีรายได้ที่เป็นธรรม พร้อมกับปรับปรุง และพัฒนาระบบสาธารณสุขให้มีคุณภาพและเท่าเทียม ที่สำคัญ จะสร้างโรงเรียนกีฬา เพื่อต่อยอดปั้นนักกีฬาไปเป็นแชมป์โลก เยาวชนต้องมีโอกาสเรียน เล่นกีฬา และมีอาชีพในบ้านเกิด สระบุรีต้องพัฒนา โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
.
วิหารแดง คือบ้านเกิดของตน และตนตั้งใจจะเป็น ส.ส. ที่รับฟัง ไม่เงียบ ไม่หาย และยืนข้างประชาชนอย่างตรงไปตรงมา ขอแรงใจจากพ่อแม่พี่น้องทุกคน มาร่วมกันเปลี่ยนการเมืองของสระบุรีไปด้วยกัน ตนเชื่อว่าประเทศไทยควรเดินไปข้างหน้า ด้วยรัฐบาลที่ยืนอยู่ข้างประชาชนอย่างแท้จริง รัฐบาลที่ฟังเสียงคนธรรมดา มากกว่าผลประโยชน์ของกลุ่มอำนาจและทุนผูกขาด” นายอรรถสิทธิ์ กล่าว
.
นายอรรถสิทธิ์ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ คือโอกาสสำคัญในการเปลี่ยนทิศทางประเทศ เปิดทางให้กฎหมายที่กล้าจัดการกับทุนผูกขาด และขบวนการผิดกฎหมายที่ฝังรากลึกมานาน ตนมีความมุ่งมั่น พร้อมทำให้เสียงของชาวสระบุรีดังขึ้นในสภา ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน ผลักดันการเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้จริง สร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับลูกหลานทุกคน.
.

.
ปชน. ยัน อ่านครบทุกบรรทัด พ.ร.บ.ศูนย์กลางการเงิน ชี้ มารร้ายอยู่ในรายละเอียด
https://www.matichon.co.th/politics/news_5521422
.
ปชน. ยัน อ่านครบทุกบรรทัด พ.ร.บ.ศูนย์กลางการเงิน ชี้ มารร้ายอยู่ในรายละเอียด
.
เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2568 นายชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร รองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณี พ.ร.บ.ศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน หรือ พ.ร.บ.Financial Hub ที่ประเทศไทยควรจะเป็นและความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดทุนเทาได้ ว่า พรรคประชาชนสนับสนุนและอยากเห็นภาพ Financial Hub เกิดที่ประเทศไทยอย่างมียุทธศาสตร์ ส.ส.พรรคประชาชน อ่านกฎหมายชัดเจนอยู่แล้ว นอกจากอ่านทุกบรรทัดแล้ว เรายังต้องอ่านระหว่างบรรทัดอีกด้วย
.
ยิ่งไปกว่านั้นเรายังต้องวิเคราะห์ไปถึงความเสี่ยงของการต่อจิ๊กซอว์กฎหมายหลาย ๆ อันเข้าด้วยกันอีก เพราะเวลาเขียนกฎหมาย คงไม่มีใครเขียนหรอกว่า ขอเปิดช่องให้ทุนเทาเข้ามาฟอกเงิน และกฎหมายที่มีอยู่ทุกวันนี้ก็แน่นอนว่า ไม่มีข้อยกเว้น ต้องปฏิบัติตาม AML/CFT ของ ปปง. ทุกประการอยู่แล้ว
.
นายชัยวัฒน์กล่าวต่อไปว่า แต่สิ่งที่เรากำลังเห็นอยู่ทุกวันนี้คืออะไร ทุนเทาเข้ามายึดประเทศไทย ทุนเทายึดตลาดทุนไทย ทุนเทายึดบริษัทพลังงานขนาดใหญ่ ทุนเทายึดโบรกเกอร์ ทุนเทายึดคริปโตเอ็กเชนจ์ในประเทศไทย และทุนเทายังเคยพยายามที่จะเข้ามาซื้อแบงก์รัฐแล้วด้วยซ้ำไป ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายใต้กฎหมายที่ไม่มีข้อยกเว้น ต้องปฏิบัติตาม AML/CFT ของ ปปง. ทุกประการ ด้วยกันทั้งสิ้น
.
นายชัยวัฒน์กล่าวว่า เราเห็นศักยภาพและโอกาสของประเทศไทยในการเป็น Financial Hub แต่ถ้าพูดถึงแต่โอกาสด้านเดียว คงไม่ได้อยู่กับโลกความเป็นจริง เพราะทุกวันนี้ความเสี่ยงมีให้เห็นประจักษ์มากกว่า และทุกอย่างต้องดูในรายละเอียด ดังคำกล่าวว่า The Devil is in the details คือ มารร้ายอยู่ในรายละเอียด” ซึ่งจริงมากๆ สำหรับเรื่องนี้
.
ปัญหาไม่ใช่ว่า ตั้ง Financial Hub ดีหรือไม่ แต่มียุทธศาสตร์อย่างไร ไม่ใช่ทำทุกด้านและจะสร้างระบบธรรมาภิบาลอย่างไร ให้นักลงทุนเชื่อมั่น ซึ่งต้องไม่ใช่ยกเว้นกฎหมาย และตีเช็คเปล่าให้กับคณะกรรมการพิเศษที่ฝ่ายการเมืองแต่งตั้ง ครอบงำได้ง่าย มากำกับแทน ตามร่างที่พรรคการเมืองหนึ่งเคยเสนอมา
.
นอกจากจะอ่านระหว่างบรรทัดแล้ว ตนยังวิเคราะห์เห็นความเสี่ยงของการต่อจิ๊กซอว์ ของกฎหมายหลายๆอันเข้าด้วยกันอีกด้วย ทุกคนคงได้เห็น ความพยายามผลักดันร่างกฎหมาย/มติ ครม. 3 เรื่อง ดังนี้
.
1. ร่าง พ.ร.บ. Financial Hub
2. มติคณะรัฐมนตรี อนุมัติหลักการให้กระทรวงการคลังออกสินทรัพย์ดิจิทัลรูปแบบโทเคน (G-Token)
และ 3. ร่าง พ.ร.บ. Entertainment Complex (กาสิโน)
.
แต่คงนึกไม่ถึงว่าถ้าเอามาต่อเชื่อมโยงกัน อาจมีความเสี่ยงสูงมากต่อการเปิดช่องระบบการเงินเอื้อให้ทุนเทาเข้ามาได้ง่าย
.
ร่าง พ.ร.บ. Financial Hub มาตรา 36 ยกเว้นกฎหมายระดับ พ.ร.บ. ที่ใช้กำกับธุรกิจการเงินถึง 7 ฉบับ โดยตีเช็คเปล่าให้คณะกรรมการพิเศษ (OSA) ซึ่งโครงสร้างคณะประกอบด้วยคนที่ฝ่ายการเมืองแต่งตั้งหรือควบคุมได้ง่าย ให้สามารถทำได้เบ็ดเสร็จทั้งออกใบอนุญาต ทั้งเขียนกฎกติกา และทั้งกำกับดูแล
.
นายชัยวัฒน์ย้ำว่า สิ่งที่อาจเกิดขึ้นก็คือถ้าทุนเทาซื้อนักการเมืองที่มีอำนาจนี้ไปได้ ก็สามารถเปิดทางสะดวกออกใบอนุญาตให้ธุรกิจการเงินสีเทาเข้ามาตั้งธุรกิจฟอกเงินในประเทศไทย มิหนำซ้ำยังให้สิทธิประโยชน์ตามมาตรา 51 – 55 สามารถนำคนต่างด้าวเข้ามาในอยู่ในไทยได้อย่างสะดวกให้ OSA อนุญาตได้เลยโดยไม่ต้องขอ work permit และยังยกเว้นการถือครองกรรมสิทธิ์ห้องชุดไม่นับเป็นกรรมสิทธิ์ต่างด้าว เปิดช่องให้คนต่างชาติในเครือข่ายทุนเทาที่เราได้เห็นในรูปถ่ายกับนักการเมืองหลายๆ คน เข้ามาอยู่ในประเทศไทยซื้อคอนโดหรูฟอกเงินได้เต็มที่
.
และที่น่าเป็นห่วงที่สุดสำหรับการเปิดช่องนี้ คงหนีไม่พ้นธุรกิจ สินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งทุกคนทราบดีว่าคริปโตหรือสเตเบิลคอยน์เป็นเครื่องมือที่ใช้ โยกย้ายเงินเทาข้ามประเทศได้ในพริบตา
.
เมื่อเอาจิ๊กซอว์มาต่อกับการทำ  “MOU หมกเม็ด” ไปเมื่อมีนาคม 2567 ที่ลงนามกับต่างชาติที่มีชื่อเป็นกรรมการในบริษัทมากมายที่มีข้อสงสัยว่าอาจเชื่อมโยงกับเครือข่ายทุนเทา (ตามที่สำนักข่าวอิศรารายงาน) เพื่อเปิด sandbox หรือพื้นที่ทดลอง ภายใต้คำสวยหรูว่า “ฮับธุรกิจดิจิทัล” ลงนามโดยปลัดกระทรวง โดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีในรัฐบาลพรรคไหนทุกคนคงรู้ดี
.
ทำไปเพื่ออะไรประชาชนมีสิทธิ์ตั้งคำถามหรือไม่ เพราะทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องสมมติ เป็นสิ่งที่เกิดให้เห็นมาแล้ว ทุนเทามาซื้อบริษัทหลักทรัพย์ไทย ทุนเทามาซื้อธุรกิจคริปโตไทย และทุนเทาเชื่อมโยงกับบริษัทคริปโตที่หลอกประชาชนสแกนม่านตา แถมยังจังหวะเหมาะกับการออก มติ ครม. ที่อนุมัติหลักการให้กระทรวงการคลังออกสินทรัพย์ดิจิทัลรูปแบบโทเคน (G-Token) ซึ่งออกตามมาในเดือน พ.ค. 2567 ด้วยความบังเอิญ
.
และอย่าลืมว่า กาสิโน ที่ถูกผลักดันอย่างสุดลิ่มทิ่มประตูก่อนจะเกิดเหตุการณ์ “ฮัลโหล อังเคิ่ล” ของรัฐบาลในอดีตนั้น คือ พื้นที่ฟอกเงินชั้นดี นึกภาพ คน 2 คน เข้ากาสิโนไป สามารถใช้กาสิโนเป็นเครื่องมือทำให้คนหนึ่งเล่นได้ อีกคนเล่นเสีย ยักย้ายถ่ายเทเงินระหว่างกันแบบไร้ร่องรอย หรือแม้แต่ “เสกเงิน” ที่เพิ่มขึ้นให้มีที่มาจากการพนันเท่าไหร่ก็ได้
.
นายชัยวัฒน์กล่าวว่า ประเทศที่เป็น Financial Hub ได้จริงนั้น ต้องมีการกำกับดูแลที่นักลงทุนทั่วโลกเชื่อมั่นก่อน ดังในประเทศที่เป็นนิติรัฐ นิติธรรม กฎหมายศักดิ์สิทธิ์ หน่วยงานกำกับทำงานอย่างโปร่งใสตรงไปตรงมา“
.
ยกตัวอย่าง ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง หรือ Wealth Management ทุกวันนี้ คนไทยจำนวนมากเอาเงิน ออกไปบริหารที่สิงคโปร์ สร้างงานสร้างรายได้ที่สิงคโปร์เป็นจำนวนมหาศาล คงไม่ใช่เพราะรักสิงคโปร์ แต่เพราะเชื่อมั่นในระบบกฎหมายที่ชัดเจน การเมืองไม่แทรกแซง การกำกับดูแลน่าเชื่อถือ การคุ้มครองทรัพย์สินและความเป็นส่วนตัว ไม่ใช่เพราะสิงคโปร์ยกเว้นกฎหมาย เราต้องปรับปรุงการกลไกกำกับดูแลของบ้านเราให้ดี ไม่ใช่ยกเว้นกฎหมาย เพื่อดึงเงินคนไทยและคนต่างชาติ มาบริหารที่ประเทศไทย
.
พรรคประชาชน สนับสนุนและอยากเห็นภาพ Financial Hub เกิดที่ประเทศไทยอย่างมียุทธศาสตร์ และต้องดึงดูดนักลงทุนคุณภาพมาสร้างการเติบโต ไม่ใช่ดึงดูดเงินเทาเข้ามายึดรัฐ ครองประเทศ เพราะถ้าเป็นแบบนั้น สิ่งที่ต้องจ่ายคงหนีไม่พ้นเลือดเนื้อและชีวิตของคนไทย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่