โรคที่ี่คนเกิดก่อน พ.ศ.2535 ควรไปตรวจคัดกรอง

📍📍 หากตรวจแล้วเจอไวรัสอักเสบ

1️⃣ พบแพทย์เพื่อตรวจยืนยันและประเมินชนิดโรค

ไวรัสตับอักเสบมีหลายชนิด เช่น A, B, C ซึ่งการรักษาและการติดตามต่างกัน
แพทย์จะตรวจเพิ่มเติม เช่น
• ระดับเอนไซม์ตับ
• ปริมาณไวรัส
• ภาวะตับอักเสบหรือตับแข็ง



2️⃣ ปฏิบัติตามแผนการรักษาอย่างเคร่งครัด
• บางชนิดหายได้เอง
• บางชนิดต้องกินยาต้านไวรัสระยะยาว
❗ ห้ามหยุดยาเอง หรือใช้ยาสมุนไพรโดยไม่ปรึกษาแพทย์



3️⃣ ดูแลตนเองเพื่อลดภาระตับ

✅ งดแอลกอฮอล์
✅ พักผ่อนให้เพียงพอ
✅ รับประทานอาหารสุก สะอาด สมดุล
❌ หลีกเลี่ยงยาหรืออาหารเสริมที่อาจทำร้ายตับ



4️⃣ ป้องกันการแพร่เชื้อ
• ไม่ใช้ของมีคมร่วมกับผู้อื่น (เช่น มีดโกน แปรงสีฟัน)
• หากเป็นชนิดที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ควรป้องกันอย่างเหมาะสม
• แนะนำให้คนใกล้ชิดตรวจและฉีดวัคซีน (ถ้ามี)



5️⃣ ติดตามอาการสม่ำเสมอ

แม้ไม่มีอาการก็ควรตรวจตามนัด
เพื่อลดความเสี่ยง ตับแข็งและมะเร็งตับ ในระยะยาว



📌 สรุป: ตรวจเจอไวรัสตับอักเสบ = รู้เร็ว รักษาได้ ดูแลถูกทาง ชีวิตปกติได้
ความรู้ที่ถูกต้อง คือกุญแจสำคัญของการดูแลตับ ❤️

📍📍
ไปหาตามแลปเอกชนข้างนอกก็ได้นะคะ ถ้าขี้เกรียจรอคิวในรพ. ราคาไม่กี่ร้อย

✅  ถ้าใครไม่มีภูมิคุ้มกันแนะนำให้มาฉีดวัคซีนค่ะ  มีฉีดฟรีในโรงพยาบาลด้วยซ้ำมั้ง ลองสอบถามดูตามสิทธิ์การรักษา    ถ้าฉีดในเอกชนข้างนอกก็ไม่กี่ร้อยบาท  

แต่คุ้มค่ามากเลยนะคะ ภูมิคุ้มกันอยู่ทั้งชีวิต

✅ ถ้าใครตรวจแล้วขึ้นว่าติดเชื้อแนะนำให้เข้าสู่ระบบการรักษาค่ะ  นำผลมาปรึกษาหมอต่อที่โรงพยาบาลตามสิทธิ์การรักษาได้เลย

หมอเคยเจอเคสที่ตรวจเจอแล้วเป็นแต่ก็ไม่ทำอะไร สุดท้ายก็เป็นมะเร็งตับตอนอายุ 40 กว่า เสียดายมาก 
CR หมอแกว



สำหรับผู้ที่เกิดก่อนปี พ.ศ. 2535 แพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขให้ความสำคัญกับการตรวจ ไวรัสตับอักเสบบี เป็นพิเศษ เนื่องจากมีเหตุผลสำคัญด้านความปลอดภัยของสุขภาพในระยะยาว ดังนี้ครับ
1. ไม่ได้รับวัคซีนตั้งแต่แรกเกิด
ประเทศไทยเริ่มบรรจุวัคซีนไวรัสตับอักเสบบีเข้าสู่ "แผนการฉีดวัคซีนพื้นฐาน" สำหรับเด็กทารกทุกคนทั่วประเทศในปี พ.ศ. 2535 เป็นต้นมา
• คนที่เกิดก่อนปี 2535: ส่วนใหญ่จึงไม่มีภูมิคุ้มกันตั้งแต่เด็ก ยกเว้นจะไปฉีดเองในภายหลัง
• คนที่เกิดหลังปี 2535: มักจะมีภูมิคุ้มกันแล้วเพราะได้รับวัคซีนตามเกณฑ์ตั้งแต่เกิด
2. เป็น "ภัยเงียบ" ที่ไม่แสดงอาการ
ไวรัสตับอักเสบบีส่วนใหญ่มักไม่แสดงอาการผิดปกติใดๆ ในระยะแรก ผู้ติดเชื้อสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนคนทั่วไป แต่เชื้อไวรัสจะค่อยๆ ทำลายตับไปทีละน้อยโดยที่เราไม่รู้ตัว
3. ความเสี่ยง "มะเร็งตับ" และ "ตับแข็ง"
หากปล่อยไว้จนกลายเป็นตับอักเสบเรื้อรัง จะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็น โรคตับแข็ง และ มะเร็งตับ มากกว่าคนปกติหลายเท่า ซึ่งมะเร็งตับเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับต้นๆ และมีอัตราการเสียชีวิตสูงในกลุ่มผู้ชายไทย
4. อัตราการติดเชื้อในกลุ่มนี้สูงกว่า
ข้อมูลทางการแพทย์ระบุว่า คนไทยที่เกิดก่อนปี 2535 มีโอกาสเป็นพาหะหรือติดเชื้อสูงถึง ร้อยละ 5-8 (ในขณะที่กลุ่มที่เกิดหลังปี 2535 มีโอกาสเพียงร้อยละ 0.1-1.5 เท่านั้น) เนื่องจากการแพร่เชื้อจากแม่สู่ลูกในสมัยก่อนยังไม่มีการป้องกันที่มีประสิทธิภาพเท่าปัจจุบัน
สิทธิประโยชน์ที่คุณควรทราบ
ปัจจุบัน สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มีสิทธิประโยชน์ให้คนไทยที่เกิดก่อนปี พ.ศ. 2535 สามารถ ตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบบีและซี ได้ฟรี 1 ครั้งตลอดชีวิต
• วิธีรับสิทธิ์: ติดต่อที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน หรือตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป "เป๋าตัง" (เมนูกระเป๋าสุขภาพ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่