: Scarface (1983) - โคเคน กัญชา เงิน และอำนาจ! หนังที่โคตรโหด โคตรดิบ โคตรคลาสสิก!
สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว Pantip ทุกท่าน วันนี้ผมมีหนังเรื่องหนึ่งที่ต้องขอเอามาเล่าสู่กันฟัง เป็นหนังที่ผมดูซ้ำกี่รอบก็ยังขนลุกไม่หาย ชื่อเรื่องว่า Scarface ฉบับปี 1983 ของผู้กำกับ Brian De Palma ที่ได้ Al Pacino มารับบทนำเป็น Tony Montana ไอ้อ้วนตากลมหัวโจกที่ผมยกให้เป็นหนึ่งในตัวละครที่โคตรจะไอคอนิกที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์เลยครับ
บอกเลยว่า Scarface ไม่ใช่หนังสำหรับคนใจบางนะครับ มันดิบ มันโหด มันรุนแรง แบบไม่กั๊กเลยสักนิด ใครที่ชอบหนังแนวแก๊งสเตอร์ มาเฟีย ผจญภัยในโลกใต้ดินแบบจัดเต็ม เรื่องนี้ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ ตัวเรื่องมันพาเราไปรู้จักกับ Tony Montana หนุ่มคิวบาผู้ลี้ภัยที่มาพร้อมความทะเยอทะยานแบบไม่รู้จักพอ เขาไม่ได้มาเพื่อใช้ชีวิตแบบเงียบๆ แต่มาเพื่อคว้าทุกอย่างที่ขวางหน้า ไม่ว่าจะเป็นเงิน อำนาจ หรือแม้แต่ผู้หญิง
จุดเริ่มต้นของ Tony คือการเข้ามาในอเมริกาช่วงที่รัฐบาลคิวบาเปิดโอกาสให้คนอพยพเข้ามา ซึ่ง Tony ก็ไม่ได้มามือเปล่า แต่มาพร้อมกับเพื่อนซี้อย่าง Manny Ribera ทั้งสองคนเริ่มต้นจากศูนย์จริงๆ ครับ ทำงานรับจ้างเล็กๆ น้อยๆ จนกระทั่งได้ไปพัวพันกับวงการค้ายาเสพติดที่ไมอามี่ จากจุดนั้นเองที่ Tony เริ่มฉายแสง เขาไม่ใช่คนธรรมดาที่แค่ทำงาน แต่เป็นคนที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้ก้าวหน้า ไม่ว่าจะต้องหักหลังใคร หรือต้องยิงใครให้ตาย Tony ก็ทำได้หมดครับ
สิ่งที่ทำให้ Scarface มันโคตรจะน่าจดจำก็คือการแสดงของ Al Pacino ครับ เขาเล่นเป็น Tony Montana ได้แบบโคตรจะสมจริง อินเนอร์มาเต็ม สีหน้า แววตา ท่าทางการพูด มันแสดงถึงความบ้าบิ่น ความทะเยอทะยาน และความไม่แคร์โลกของ Tony ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมครับ ฉากเด็ดๆ ในหนังนี่มีเยอะมากจนนับไม่ถ้วน แต่ที่ผมจำได้ขึ้นใจก็คงเป็นฉากที่ Tony ตะโกนว่า "Say hello to my little friend!" หรือฉากที่เขาฉีดโคเคนที่จมูกตัวเองตอนกำลังเครียดๆ มันแสดงให้เห็นถึงความเสื่อมทรามและจุดจบที่กำลังจะมาถึงของตัวละครได้ชัดเจนมาก
หนังมันไม่ได้มีแค่ Tony นะครับ ยังมีตัวละครอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกเพียบ อย่าง Manny เพื่อนซี้ที่ดูเหมือนจะภักดี แต่สุดท้ายก็มีจุดพลิกผันของตัวเอง หรืออย่าง Elvira ภรรยาของ Tony ที่สวย เริ่ด เชิด แต่ก็ติดยาและมีปัญหากับ Tony ตลอดเวลา ตัวละครเหล่านี้ทำให้เรื่องราวมีความซับซ้อนและน่าติดตามมากขึ้นครับ
อีกอย่างที่ผมชอบมากๆ คือการนำเสนอภาพของไมอามี่ในยุค 80s ครับ มันดูมีสีสัน ดูทันสมัย แต่ในขณะเดียวกันก็แฝงไปด้วยความอันตรายของวงการค้ายาเสพติด การแต่งกาย การใช้ชีวิตของผู้คนในเรื่อง มันสะท้อนยุคสมัยนั้นออกมาได้ดีจริงๆ ครับ
แต่ต้องเตือนไว้ก่อนว่า Scarface ไม่ใช่หนังที่ดูแล้วสบายใจนะครับ มันเต็มไปด้วยฉากความรุนแรง การฆ่าฟัน เลือดสาด ที่อาจจะทำให้บางคนไม่สบายใจได้ แต่ถ้ามองในมุมของหนัง มันก็สะท้อนภาพความเป็นจริงของโลกใต้ดินที่เต็มไปด้วยความโลภและความโหดร้ายได้เป็นอย่างดีครับ
เรื่องราวของ Tony Montana คือตัวอย่างของคนที่ได้ทุกอย่าง แต่สุดท้ายก็สูญเสียทุกอย่างไป เพราะความทะเยอทะยานที่ไม่สิ้นสุดและความบ้าคลั่งของตัวเองครับ เขาปีนขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของอาณาจักรโคเคน แต่สุดท้ายก็ต้องลงมาอย่างน่าเศร้า มันเป็นบทเรียนที่สอนใจได้ดีเลยครับว่าอำนาจและเงินทองอาจจะทำให้เราได้ทุกอย่าง แต่ก็สามารถพรากทุกอย่างไปจากเราได้เช่นกัน
สำหรับผม Scarface เป็นมากกว่าแค่หนังแก๊งสเตอร์ มันเป็นหนังที่สะท้อนถึงความฝันแบบอเมริกันที่บิดเบี้ยว ความเสื่อมทรามของอำนาจ และผลลัพธ์สุดท้ายของความโลภครับ Al Pacino เล่นได้โคตรจะสุดยอดจริงๆ สมแล้วที่เป็นตำนาน
ถ้าใครยังไม่เคยดู Scarface (1983) ผมขอแนะนำเลยครับว่าต้องลองหามาดูสักครั้ง แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมหนังเรื่องนี้ถึงได้กลายเป็นหนังคลาสสิกที่ถูกพูดถึงมาจนถึงทุกวันนี้ มันเป็นหนังที่ดูแล้วติดตา ตรึงใจ และชวนให้คิดตามไปอีกนานครับ
สรุปแล้ว Scarface (1983) คือหนังที่โคตรจะห้ามพลาดครับ! ความดิบ ความโหด ความมันส์ การแสดงของ Al Pacino ที่สุดยอด และเรื่องราวที่เข้มข้น ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนึ่งในหนังแก๊งสเตอร์ที่ดีที่สุดตลอดกาลที่ผมเคยดูมาครับ ใครที่ชอบหนังแนวนี้นะครับ จัดไปเลย ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ!
Scarface (1983) - โคเคน กัญชา เงิน และอำนาจ! หนังที่โคตรโหด โคตรดิบ โคตรคลาสสิก!
: Scarface (1983) - โคเคน กัญชา เงิน และอำนาจ! หนังที่โคตรโหด โคตรดิบ โคตรคลาสสิก!
สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว Pantip ทุกท่าน วันนี้ผมมีหนังเรื่องหนึ่งที่ต้องขอเอามาเล่าสู่กันฟัง เป็นหนังที่ผมดูซ้ำกี่รอบก็ยังขนลุกไม่หาย ชื่อเรื่องว่า Scarface ฉบับปี 1983 ของผู้กำกับ Brian De Palma ที่ได้ Al Pacino มารับบทนำเป็น Tony Montana ไอ้อ้วนตากลมหัวโจกที่ผมยกให้เป็นหนึ่งในตัวละครที่โคตรจะไอคอนิกที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์เลยครับ
บอกเลยว่า Scarface ไม่ใช่หนังสำหรับคนใจบางนะครับ มันดิบ มันโหด มันรุนแรง แบบไม่กั๊กเลยสักนิด ใครที่ชอบหนังแนวแก๊งสเตอร์ มาเฟีย ผจญภัยในโลกใต้ดินแบบจัดเต็ม เรื่องนี้ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ ตัวเรื่องมันพาเราไปรู้จักกับ Tony Montana หนุ่มคิวบาผู้ลี้ภัยที่มาพร้อมความทะเยอทะยานแบบไม่รู้จักพอ เขาไม่ได้มาเพื่อใช้ชีวิตแบบเงียบๆ แต่มาเพื่อคว้าทุกอย่างที่ขวางหน้า ไม่ว่าจะเป็นเงิน อำนาจ หรือแม้แต่ผู้หญิง
จุดเริ่มต้นของ Tony คือการเข้ามาในอเมริกาช่วงที่รัฐบาลคิวบาเปิดโอกาสให้คนอพยพเข้ามา ซึ่ง Tony ก็ไม่ได้มามือเปล่า แต่มาพร้อมกับเพื่อนซี้อย่าง Manny Ribera ทั้งสองคนเริ่มต้นจากศูนย์จริงๆ ครับ ทำงานรับจ้างเล็กๆ น้อยๆ จนกระทั่งได้ไปพัวพันกับวงการค้ายาเสพติดที่ไมอามี่ จากจุดนั้นเองที่ Tony เริ่มฉายแสง เขาไม่ใช่คนธรรมดาที่แค่ทำงาน แต่เป็นคนที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้ก้าวหน้า ไม่ว่าจะต้องหักหลังใคร หรือต้องยิงใครให้ตาย Tony ก็ทำได้หมดครับ
สิ่งที่ทำให้ Scarface มันโคตรจะน่าจดจำก็คือการแสดงของ Al Pacino ครับ เขาเล่นเป็น Tony Montana ได้แบบโคตรจะสมจริง อินเนอร์มาเต็ม สีหน้า แววตา ท่าทางการพูด มันแสดงถึงความบ้าบิ่น ความทะเยอทะยาน และความไม่แคร์โลกของ Tony ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมครับ ฉากเด็ดๆ ในหนังนี่มีเยอะมากจนนับไม่ถ้วน แต่ที่ผมจำได้ขึ้นใจก็คงเป็นฉากที่ Tony ตะโกนว่า "Say hello to my little friend!" หรือฉากที่เขาฉีดโคเคนที่จมูกตัวเองตอนกำลังเครียดๆ มันแสดงให้เห็นถึงความเสื่อมทรามและจุดจบที่กำลังจะมาถึงของตัวละครได้ชัดเจนมาก
หนังมันไม่ได้มีแค่ Tony นะครับ ยังมีตัวละครอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกเพียบ อย่าง Manny เพื่อนซี้ที่ดูเหมือนจะภักดี แต่สุดท้ายก็มีจุดพลิกผันของตัวเอง หรืออย่าง Elvira ภรรยาของ Tony ที่สวย เริ่ด เชิด แต่ก็ติดยาและมีปัญหากับ Tony ตลอดเวลา ตัวละครเหล่านี้ทำให้เรื่องราวมีความซับซ้อนและน่าติดตามมากขึ้นครับ
อีกอย่างที่ผมชอบมากๆ คือการนำเสนอภาพของไมอามี่ในยุค 80s ครับ มันดูมีสีสัน ดูทันสมัย แต่ในขณะเดียวกันก็แฝงไปด้วยความอันตรายของวงการค้ายาเสพติด การแต่งกาย การใช้ชีวิตของผู้คนในเรื่อง มันสะท้อนยุคสมัยนั้นออกมาได้ดีจริงๆ ครับ
แต่ต้องเตือนไว้ก่อนว่า Scarface ไม่ใช่หนังที่ดูแล้วสบายใจนะครับ มันเต็มไปด้วยฉากความรุนแรง การฆ่าฟัน เลือดสาด ที่อาจจะทำให้บางคนไม่สบายใจได้ แต่ถ้ามองในมุมของหนัง มันก็สะท้อนภาพความเป็นจริงของโลกใต้ดินที่เต็มไปด้วยความโลภและความโหดร้ายได้เป็นอย่างดีครับ
เรื่องราวของ Tony Montana คือตัวอย่างของคนที่ได้ทุกอย่าง แต่สุดท้ายก็สูญเสียทุกอย่างไป เพราะความทะเยอทะยานที่ไม่สิ้นสุดและความบ้าคลั่งของตัวเองครับ เขาปีนขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของอาณาจักรโคเคน แต่สุดท้ายก็ต้องลงมาอย่างน่าเศร้า มันเป็นบทเรียนที่สอนใจได้ดีเลยครับว่าอำนาจและเงินทองอาจจะทำให้เราได้ทุกอย่าง แต่ก็สามารถพรากทุกอย่างไปจากเราได้เช่นกัน
สำหรับผม Scarface เป็นมากกว่าแค่หนังแก๊งสเตอร์ มันเป็นหนังที่สะท้อนถึงความฝันแบบอเมริกันที่บิดเบี้ยว ความเสื่อมทรามของอำนาจ และผลลัพธ์สุดท้ายของความโลภครับ Al Pacino เล่นได้โคตรจะสุดยอดจริงๆ สมแล้วที่เป็นตำนาน
ถ้าใครยังไม่เคยดู Scarface (1983) ผมขอแนะนำเลยครับว่าต้องลองหามาดูสักครั้ง แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมหนังเรื่องนี้ถึงได้กลายเป็นหนังคลาสสิกที่ถูกพูดถึงมาจนถึงทุกวันนี้ มันเป็นหนังที่ดูแล้วติดตา ตรึงใจ และชวนให้คิดตามไปอีกนานครับ
สรุปแล้ว Scarface (1983) คือหนังที่โคตรจะห้ามพลาดครับ! ความดิบ ความโหด ความมันส์ การแสดงของ Al Pacino ที่สุดยอด และเรื่องราวที่เข้มข้น ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนึ่งในหนังแก๊งสเตอร์ที่ดีที่สุดตลอดกาลที่ผมเคยดูมาครับ ใครที่ชอบหนังแนวนี้นะครับ จัดไปเลย ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ!