เรื่องกลับชาติมาเกิด การสอบสวนคดีของชานติเทวี ปี 1936 (ชัวร์หรือมั่วนิ่ม)



เมื่อ ชานติ เทวี อายุครบสี่ขวบ เธอบอกกับแม่ด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า "หนูไม่ใช่ลูกสาวคนนี้ หนูเคยเป็น ลุกดี เทวี อยู่ที่มถุรา หนูมีลูกสามคน และตายตอนคลอดลูกคนที่สี่… หนูอยากกลับบ้าน"
ผู้เป็นแม่ถึงกับตัวแข็งทื่อ ไม่แน่ใจว่าควรจะหัวเราะ ดุ หรือกังวลดี นี่ไม่ใช่จินตนาการแบบเด็ก ๆ ที่ฝันถึงเจ้าหญิงหรือมังกร แต่เป็นเรื่องราวของชีวิตแม่บ้านคนหนึ่ง ในเมืองที่อยู่ไกลจากเดลีกว่า 145 กิโลเมตร
ในตอนแรก ทุกคนคิดว่ามันเป็นเพียงเรื่องแต่ง แต่สำหรับชานติ เทวี เธอไม่เคยพูดเหมือนกำลังเล่น เธอเล่าถึงมถุรา ราวกับเพิ่งกลับมาจากที่นั่นเมื่อวานนี้
เธอคอยทักท้วงการทำอาหารของแม่ บอกขั้นตอนและรสชาติที่เด็กวัยนั้นไม่น่าจะรู้ เธอยืนยันว่าเคยเปิดร้านขายเสื้อผ้ากับสามี บอกชื่อถนน ชื่อญาติ และชื่อลูก ๆ ที่เธอคิดถึงสุดหัวใจ
พ่อแม่พยายามหยุดเรื่องนี้ด้วยการบอกว่ามถุราไม่มีอยู่จริง แต่ชานติสวนกลับทันที
"คุณโกหก มถุราเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ ทุกคนรู้!"
.
.
เมื่อเธอยังคงยืนยันอย่างหนักแน่นจนอายุเจ็ดขวบ คุณครูจึงเริ่มรู้สึกว่านี่ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ และลองทดสอบเขียนจดหมายไปหาชายที่ชานติอ้างว่าเป็น "สามี" ชื่อ เกดาร์นาถ เชาเบ
คำตอบที่กลับมาทำให้ทุกคนชะงัก
ชายคนนี้มีตัวตนจริง มีร้านขายเสื้อผ้าอยู่ที่มถุรา ภรรยาของเขาชื่อลุกดี เทวี และเธอเสียชีวิตระหว่างคลอดลูกเมื่อเก้าปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่ชานติเกิด
ถึงอย่างนั้น เกดาร์นาถยังพยายามบอกตัวเองว่า ทั้งหมดอาจเป็นเพียงความบังเอิญ
เขาจึงส่งลูกพี่ลูกน้องไปยังเดลี โดยให้สวมบทบาทเป็นตัวเขา หากเด็กคนนี้โกหกหรือถูกสอนมา เธอคงหลงเชื่อได้ไม่ยาก
แต่ทันทีที่ชายคนนั้นก้าวเข้ามา ชานติก็พูดขึ้นทันที
"คุณไม่ใช่สามีของหนู คุณเป็นลูกพี่ลูกน้องเขา คุณเคยมาเยี่ยมบ้านเรา"
ลูกพี่ลูกน้องคนนั้นกลับไปพร้อมกับความสั่นสะเทือนในใจ
.
.
ไม่นานนัก เกดาร์นาถจึงเดินทางมาที่เดลีด้วยตัวเองโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ปฏิกิริยาของชานติทำให้ทุกคนอึ้ง
เธอวิ่งเข้าไปหาเขา ก่อนจะหยุดชะงักกลางคัน ราวกับภรรยาที่เพิ่งนึกขึ้นได้ว่า ตอนนี้เธอยืนอยู่ต่อหน้าเขาในร่างของเด็กคนหนึ่ง
เธอพูดกับเขาเบา ๆ เอ่ยถึงเรื่องที่มีเพียงภรรยาคนแรกเท่านั้นที่รู้
เธอถามถึงลูกคนเล็กที่เธอเสียชีวิตหลังคลอดทันที ทำอาหารในแบบที่ลุกดีเคยทำอย่างไม่ผิดเพี้ยน รวมถึงรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ภายในบ้าน ที่ไม่มีใครเคยบอกเธอได้
แล้วเธอก็พูดถึงสิ่งที่ทำให้เกดาร์นาถแทบยืนไม่อยู่
เงินที่ซ่อนไว้ในกระเป๋าใส่ของ และเครื่องประดับที่ฝังไว้ใต้กระดานพื้นบ้าน ความลับที่เขาไม่เคยบอกใครมาก่อน
และใช่... ของเหล่านั้นยังอยู่ตรงจุดเดิมตามที่เธอบอกจริง ๆ
.
.
ในปี ค.ศ. 1935 คณะกรรมการสืบสวนที่แต่งตั้งโดยมหาตมา คานธี พาชานติเดินทางไปยังมถุรา การเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อพิสูจน์การกลับชาติมาเกิด แต่เพื่อตรวจสอบว่าเรื่องทั้งหมดเกิดจากการหลอกลวง หรือการสอนเด็กให้พูดหรือไม่
ทันทีที่ก้าวลงจากรถไฟ ชานติแสดงสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย เธอพูดถึง "ความเปลี่ยนแปลง" ของเมือง ก่อนจะพาทุกคนตรงดิ่งผ่านตรอกซับซ้อน ไปยังบ้านที่เธอบอกว่าเป็นของตัวเอง โดยไม่มีใครต้องนำทาง
เมื่อเข้าไปข้างใน เธอเดินไปตามห้องต่าง ๆ บอกได้ว่าลูกแต่ละคนเคยนอนตรงไหน ทักว่าบ้านถูกทาสีใหม่ และชี้ไปยังห้องที่เธอบอกว่าเป็นสถานที่ที่เธอเสียชีวิต
จากนั้น เกดาร์นาถก็พาลูก ๆ ของเขามา
เด็กหญิงวัยเก้าขวบโผเข้ากอดเด็กหนุ่มที่อายุมากกว่าเธอด้วยอารมณ์อันเอ่อล้น เธอร้องไห้เมื่อเห็นลูก ๆ เติบโตขึ้นโดยไม่มีแม่อยู่เคียงข้าง เธอจำชื่อเล่น เรื่องราววัยเด็ก และความทรงจำส่วนตัวของลูก ๆ ได้อย่างแม่นยำ
.
.
รายงานฉบับสุดท้ายของคณะกรรมการในปี ค.ศ. 1936 สร้างความฮือฮาไปทั่วโลก เพราะพวกเขาไม่ได้สรุปว่าเป็นการกลับชาติมาเกิด แต่ลงความเห็นอย่างระมัดระวังและหนักแน่นว่า
"เราไม่สามารถหาคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ หรือเหตุผลอื่นใด เพื่ออธิบายความรู้ที่เด็กคนนี้มีได้"
ชานติ เทวี ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ไม่เคยแสวงหาชื่อเสียงหรือผลประโยชน์ เธอยึดมั่นในเรื่องราวของตนเองจนถึงวาระสุดท้าย โดยไม่แต่งงานอีกเลย และเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1987
นักวิจารณ์ยังคงถกเถียงคดีนี้ ขณะที่ผู้ศรัทธายังคงยกให้เป็นหนึ่งในกรณีการกลับชาติมาเกิดที่หนักแน่นที่สุดในประวัติศาสตร์ และจนถึงวันนี้ ก็ยังไม่มีงานวิจัยใดที่สามารถปัดเป่าปริศนานี้ทิ้งไปได้
แต่ข้อเท็จจริงยังคงอยู่...
เด็กหญิงวัยสี่ขวบคนหนึ่ง บรรยายชีวิตในเมืองที่ไม่เคยไป เอ่ยชื่อคนที่ไม่เคยพบ เปิดเผยความลับที่มีแต่ผู้ตายเท่านั้นที่รู้ และเมื่อผู้ใหญ่ตามรอยคำพูดของเธอ... ทุกอย่างก็เป็นไปตามที่เธอเล่า

อ้างอิงจาก - Times Now, Wikipedia (Shanti Devi), An Inquiry into the Case of Shanti Devi 1936
ที่มา :-  ( ขออนุญาตและขอขอบคุณ) เรื่องลึกลับแปลกประหลาดจากทั่วโลก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่