[CR] 🎀 ว่าด้วยเรื่องของ 👉🏻 "กระเจี๊ยบ" ☘️ ชวนปลูก ชวนกินกระเจี๊ยบ ☘️ ดีและมีประโยชน์มากมาย 💚🏡⭐👍🏻

🎀 กระเจี๊ยบมีด้วยกัน 3 ชนิด คือ กระเจี๊ยบเขียว กระเจี๊ยบแดงและกระเจี๊ยบมอญ ☘️ ในวันนี้เราจะพูดถึง "กระเจี๊ยบเขียว" 💋 ที่สามารถปลูกทานเองได้ที่บ้านค่ะ 💚🏡⭐👍🏻

☘️ กระเจี๊ยบเขียว (Okra หรือ Lady's finger)
ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Abelmoschus esculentus

👉🏻 ลักษณะของกระเจี๊ยบเขียว คือ เป็นพืชผักยืนต้น อายุประมาณ 1 ปี มีความสูง 40 เซนติเมตร ถึง 2 เมตร



ลำต้น :: มีขนสั้นๆ มีหลายสี แตกต่างกันตามสายพันธุ์

ใบ :: มีลักษณะกว้างเป็นแฉก คล้ายใบละหุ่ง แต่ก้านใบจะสั้นกว่า



ดอก :: มีสีเหลือง โคนดอกด้านในสีม่วง เมื่อบานจะคล้ายดอกฝ้าย มีเกสรตัวผู้ตัวเมียอยู่ในดอกเดียวกันคะ



ฝัก :: ฝักมีสีเขียว รูปเรียวยาว ปลายฝักแหลม มีทั้งชนิดฝักกลมและฝักเหลี่ยม มีเหลี่ยม 5-10 เหลี่ยม ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ความยาวฝักประมาณ 5-12 เซนติเมตร ภายในมีเมือกเหนียว เป็นผักที่นิยมกินฝักคะ



ฝักแก่ :: สีฝักจะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีน้ำตาล และจะแตกออกตามแนวรอยสันเหลี่ยม ทำให้เห็นเมล็ดที่อยู่ข้างใน



เมล็ด :: มีลักษณะกลมรีขนาดเดียวกับถั่วเขียว เมล็ดอ่อนมีสีขาว เมื่อแก่จะมีสีเทาคะ ในแต่ละฝักมีเมล็ด 80-200 เมล็ดเลยละคะ





การเก็บเมล็ดพันธุ์ :: เลือกต้นที่ออกฝักค่อนข้างเร็ว ฝักสูงจากโคนต้นไม่เกิน 50 เซนติเมตร ฝัก 5 เหลี่ยม ฝักสีเขียวเข้ม มีขนน้อย มีเส้นใยน้อย ฝักตรงไม่โค้งงอ การเรียงฝักจากโคนต้นไปหายอดสม่ำเสมอเป็นระเบียบ เมื่อได้ฝักที่ต้องการแล้ว เราจึงปล่อยให้แห้งคาต้น จากนั้น จึงตัดและนำมาแกะเมล็ดผึ่งแดดให้แห้ง สามารถเก็บไว้เพาะพันธุ์ต่อได้อีกเรื่อยๆเลยคะ





🌱 การปลูกและการดูแล 🌱
ดิน :: ดินที่ปลูกต้องร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี ก่อนนำเมล็ดมาลงปลูก ควรนำเมล็ดพันธุ์มาผึ่งให้แห้งพอหมาดนะคะ เพื่อป้องกันโรคที่ตามมา เช่น โรคฝัดจุดหรือฝักลายคะ



การรดน้ำ :: กระเจี๊ยบเขียวชอบความชื้นปานกลาง ในช่วงฤดูหนาวและร้อนควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรปล่อยให้แห้ง โดยเฉพาะในช่วงออกดอกและติดฝัก





การเก็บเกี่ยว :: กระเจี๊ยบเขียวเป็นผักที่ค่อนข้างโตเร็ว เมื่ออายุได้ 40 วัน จะเริ่มออกดอก หลังดอกบาน 5 วัน ฝักจะยาว 4-9 เซนติเมตร สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เลยคะ



ผมช่วยเก็บฝักให้ครับ 😬😬😬😬



ประโยชน์ :: ส่วนใหญ่นิยมนำไปประกอบอาหารหลายเมนู เช่น นำไปต้ม , ผัด , แกง (แกงส้ม) , ทอด (ชุปแป้งทอด) , ยำ , สลัด และลวกจิ้มน้ำพริก (อันนี้เราชอบมากเลยคะ)





คุณค่าทางโภชนาการ :: มีทั้งไฟเบอร์และวิตามินต่างๆ สูงมากคะ  

💋 รสชาติ :: มีรสชาติเฉพาะตัวและมีเมือกเหนียวๆคะ จิ้มกับน้ำพริกน้ำพริกปลาร้าปลาทูอร่อยมากเลยคะ



💢 เกร็ดเล็กน้อย 💢
กระเจี๊ยบแดง (Roselle)
ชื่อวิทยาศาสตร์ :: Hibiscus sabdariffa
ลักษณะ :: ส่วนที่นำมาใช้คือกลีบเลี้ยงของดอกที่มีสีแดงสด
ประโยชน์ :: นิยมนำมาทำเครื่องดื่ม เช่น น้ำกระเจี๊ยบ หรือทำแยม
สรรพคุณทางยา :: ช่วยลดความดันโลหิตและขับปัสสาวะ
รสชาติ :: มีรสเปรี้ยวอมหวาน
ส่วนที่นำมาใช้ :: นิยมนำกลีบเลี้ยง (ดอก) สีแดงที่หุ้มเมล็ดมาต้มเป็นน้ำกระเจี๊ยบ มีรสเปรี้ยวอมหวาน


กระเจี๊ยบมอญ
ชื่อวิทยาศาสตร์ :: Hibiscus esculentus
ลักษณะ :: ลักษณะคล้ายกระเจี๊ยบเขียว แต่มีชื่อเรียกตามท้องถิ่นที่ต่างกันออกไป บางครั้งจึงทำให้เกิดความสับสน
ประโยชน์ :: ส่วนใหญ่ใช้เป็นผักเหมือนกระเจี๊ยบเขียว



💥 จะเห็นได้ว่า กระเจี๊ยบมอญและกระเจี๊ยบเขียว นั้นเป็นพืชชนิดเดียวกัน มีลักษณะคล้ายกัน เพียงแต่มีชื่อเรียกที่ต่างกันในแต่ละท้องที่ ส่วนกระเจี๊ยบแดง นั้นเป็นคนละชนิดกันอย่างสิ้นเชิงเลยคะ 💥



📌 ข้อควรระวัง :: กระเจี๊ยบเขียว สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้หรือระบบทางเดินอาหาร ควรรับประทานแต่พอดี เนื่องจากอาจทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหารและท้องเสียได้นะคะ

เพี้ยนสู้สู้เพี้ยนปักหมุดเพี้ยนขอบคุณ
ชื่อสินค้า:   กระเจี๊ยบ , กระเจี๊ยบเขียว , ผัก , ผักสวนครัว , ผลผลิตทางการเกษตร , Green Living , จัดสวน , เกษตรอินทรีย์
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่