"อุเบกขา...
ต้องมีปัญญา คนที่จะวางเฉยได้
ต้องมีปัญญา ประกอบด้วยปัญญา
พิจารณาถึงบุญกรรม บาปเวร บุญวาสนาบารมีของมนุษย์สัตว์ทั่วไปว่ามนุษย์
สัตว์ทั้งหลาย เกิดมามีกรรมเป็นของของตน ตน นั่นแหละ! เป็นผู้ได้รับผลของกรรม
คนอื่น...จะรับแทนไม่ได้
คนอื่น...เป็นแต่ผู้ช่วยเมตตาแนะนำ
และตักเตือน ให้เขาเว้นจากความชั่ว
เมื่อเขาไม่ได้ทำกรรมชั่ว เขาก็ไม่เดือดร้อน
เมื่อเขาไม่ทำกรรมชั่ว และไม่เดือดร้อนแล้ว
ใจของเขา ก็สบาย เป็นอุเบกขา เป็นความดีของเขา ที่ทำตามคำสอน ของเรา
คราวนี้...เมื่อเราสอนเขาแล้ว เขาไม่ทำตาม
คำสอนของเรา จนกระทั่งเขาทำความผิด
ได้รับโทษนานาประการ
เราก็พิจารณาเช่นนั้น เหมือนกันว่า...
น้ำขี้โคลน มองไม่เห็นตัวปลา ฉันใด
คนที่ทำกรรมกิเลสมาก ไม่มีปัญญา
ใครจะตักเตือนชี้ เหตุผลให้ฟังสักเท่าใดๆ
ก็ย่อมรู้ตามไม่ได้ เอาแต่ใจของตัวถ่ายเดียว
เมื่อพิจารณาอย่างนี้แล้ว...
ใจ ก็วางเฉยได้."
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง
อุบกขาใช้ปัญญาแบบนี้เพื่อปล่อยวาง
ต้องมีปัญญา คนที่จะวางเฉยได้
ต้องมีปัญญา ประกอบด้วยปัญญา
พิจารณาถึงบุญกรรม บาปเวร บุญวาสนาบารมีของมนุษย์สัตว์ทั่วไปว่ามนุษย์
สัตว์ทั้งหลาย เกิดมามีกรรมเป็นของของตน ตน นั่นแหละ! เป็นผู้ได้รับผลของกรรม
คนอื่น...จะรับแทนไม่ได้
คนอื่น...เป็นแต่ผู้ช่วยเมตตาแนะนำ
และตักเตือน ให้เขาเว้นจากความชั่ว
เมื่อเขาไม่ได้ทำกรรมชั่ว เขาก็ไม่เดือดร้อน
เมื่อเขาไม่ทำกรรมชั่ว และไม่เดือดร้อนแล้ว
ใจของเขา ก็สบาย เป็นอุเบกขา เป็นความดีของเขา ที่ทำตามคำสอน ของเรา
คราวนี้...เมื่อเราสอนเขาแล้ว เขาไม่ทำตาม
คำสอนของเรา จนกระทั่งเขาทำความผิด
ได้รับโทษนานาประการ
เราก็พิจารณาเช่นนั้น เหมือนกันว่า...
น้ำขี้โคลน มองไม่เห็นตัวปลา ฉันใด
คนที่ทำกรรมกิเลสมาก ไม่มีปัญญา
ใครจะตักเตือนชี้ เหตุผลให้ฟังสักเท่าใดๆ
ก็ย่อมรู้ตามไม่ได้ เอาแต่ใจของตัวถ่ายเดียว
เมื่อพิจารณาอย่างนี้แล้ว...
ใจ ก็วางเฉยได้."
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง