สวัสดีครับ ผมเป็นนักศึกษาศิลปะธธรรมดานี้เเหละครับ เกริ่นก่อนว่าผมไม่ได้เป็นคนที่เก่ง เเต่ตั้งเเต่จำความได้ผมชอบวาดรูปมาตลอดครับ
ผมมีความสุขมากๆกับการการทำงานศิลปะหลายๆเเขนงครับ เเต่เมื่อผมได้ลองเข้าศึกษาในหลักสูตรที่จริงจังมากขึ้น ผมรู้สึกไม่สนุกกับการวาดรูปมากขึ้นเรื่อยๆ จนมีบ้างที่ผมคิดอยากไปทำอย่างอื่นเเละปล่อยให้ศิลปะเป็นงานอดิเรกที่ผมชอบต่อไป (ทำไมผมถึงไม่ทำอย่างนั้นตั้งเเต่เเรก เพราะนั่นเป็นไม่กี่อย่างที่ผมทำได้ดีครับ) ผมยอมรับว่าการได้มาเรียนในระบบการศึกษาทำให้ผมพัฒนาฝีมือได้มากเลยครับ เเละคำถามในหัวผมก็เยอะขึ้นตามความรู้เลยครับ
อย่างเเรกคือ ผมไม่มีความสุขกับการทำงานผมรู้สึกว่ายิ่งทำไปเท่าไหร่งานผมยิ่งห่างไกลจากจิตใจผมจังเลยครับ ผมไม่รู้สึกว่าผมทำเพื่อตัวเองอีกเเล้ว ฟังเเบบนี้ก็ดูเห็นเเก่ตัวไปจริงๆ เเต่ผมนั้นคิดว่ายิ่งโตขึ้นคำว่าศิลปะก็ปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆจนรู้สึกเหมือนเป็นกับดัก ผมคิดว่าผมคงไม่สามารถใช้ความเป็นตัวเองเพื่อทำมาหากินได้ นั่นนำไปสู่อุตสาหกรรมศิลปะที่ผมคิดครับ เหมือนโรงงานที่ผลิต "นักผลิต" ตามเเม่เเบบ ฮ่าๆ พูดเเบบนี้เเล้วก็ดูเกินจริงไปหน่อย เเต่ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆครับ เหมือนการโดนลดทอนตัวเองไปเรื่อยๆ ตัดนู่นตัดนี้จนเหมือนเเม่เเบบ เเต่ไม่เหมือนตัวผมเลยครับ
ผมเข้าใจสังคมครับ ถ้าผมทำอาหารไม่อร่อยก็คงไม่มีคนอยากทานใช่ไหมครับ หรือถ้าผมทำอาหารอร่อยเเต่ไม่มีใครได้ทานก็คงจะรู้สึกไม่ดี เหมือนกันเลยครับผมเข้าใจจุดนี้ดี ผมคอยตั้งคำถามเกี่ยวกับศิลปะที่ผมเข้าใจ ศิลปะยังมีอยู่จริงๆใช่ไหมครับ หรือคือรูปแบบทุนนิยมอย่างนึง สิ่งที่เคยมอบความสุขให้ผมดั้งปัจจัยที่5 ตอนนี้กลับกลายเป็นสิ่งที่ผมไม่อยากมีที่สุด ไม่เหมือนการกินขี้ปี้นอน หรือเป็นเพราะผมนั่นยอมเเพ้น้อยใจในโชคชะตา ผมคิดมาตลอดว่าคนที่เก่งนั่นเกิดจากความพยามของตัวเเองเเละอยากเหงื่อ เเละผมเคารพเเละชื่นชมบุคคลเหล่านี้มากๆครับ เเต่ถ้าผมไม่เก่งผมจะยังสามารถเรียกสิ่งที่ทำได้ไม่ดีนี้ว่าศิลปะไหมครับ ผมยังเรียกอาหารที่ผมทำขึ้นมาเพราะความสุขว่าอาหารได้ไหมครับ
ทั้งนี้ ผมขอบคุณคนที่อ่านมาจนจบนะครับ เป็นการพิพม์ด้วยอารมณ์อาจจะวกไปวนมา เเละผมไม่มีเจตนาจะบั่มทอนหรือลดคุณค่าของศิลปะเเละศิลปินนะครับ ผมยังเชื่อว่าศิลปะยังสามารถเป็นความสุขให้กับตัวผมเเละผู้คนได้ ช่วยคอมเม้นต์หรือตอบกลับอย่างสุภาพกันด้วยนะครับความเห็นของทุกคนสำคัญมากๆครับ ขอบคุฯครับ
ปล. ผมพึ่งคิดคำถามนนึงออก ศิลปินจำเป็นต้องมีอีโก้จริงๆใช่ไหมครับ
ปล.ล ทุกคนมีความคิดเห็นยังไงในยุคที่ Ai มีบทบาทมากขึ้นครับ การก้อปหรือลอกภาพ เเล้วมันต่างจากการที่ศิลปินเรียนรู้จากภาพงานศิลปะหรือเทคนิคอื่นๆไหมครับ หรือต่างกับเทคโนโลยีเครื่องมืออำนวยความสะดวกไหมครับ พู่กัน สี ภาพวาดดิจิตอล หรือเทคโนโลยีอื่นๆที่ถูกเรียกว่าเทคนิค ทุกคนคิดยังไงครับถ้าเทคนิคAI จะถูกสอดเเทรกเข้ามาในสังคม (อาจจะเป็นพระเด็กที่รุนเเรงเเต่ผมอยากทราบความเห็นร่วมของคนอื่นด้วย)
ด้วยความเคารพ
นักเรียนศิลปะธรรมดา
ศิลปะเเละความเปลี่ยนแปลงของโลกสมัยใหม่
ผมมีความสุขมากๆกับการการทำงานศิลปะหลายๆเเขนงครับ เเต่เมื่อผมได้ลองเข้าศึกษาในหลักสูตรที่จริงจังมากขึ้น ผมรู้สึกไม่สนุกกับการวาดรูปมากขึ้นเรื่อยๆ จนมีบ้างที่ผมคิดอยากไปทำอย่างอื่นเเละปล่อยให้ศิลปะเป็นงานอดิเรกที่ผมชอบต่อไป (ทำไมผมถึงไม่ทำอย่างนั้นตั้งเเต่เเรก เพราะนั่นเป็นไม่กี่อย่างที่ผมทำได้ดีครับ) ผมยอมรับว่าการได้มาเรียนในระบบการศึกษาทำให้ผมพัฒนาฝีมือได้มากเลยครับ เเละคำถามในหัวผมก็เยอะขึ้นตามความรู้เลยครับ
อย่างเเรกคือ ผมไม่มีความสุขกับการทำงานผมรู้สึกว่ายิ่งทำไปเท่าไหร่งานผมยิ่งห่างไกลจากจิตใจผมจังเลยครับ ผมไม่รู้สึกว่าผมทำเพื่อตัวเองอีกเเล้ว ฟังเเบบนี้ก็ดูเห็นเเก่ตัวไปจริงๆ เเต่ผมนั้นคิดว่ายิ่งโตขึ้นคำว่าศิลปะก็ปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆจนรู้สึกเหมือนเป็นกับดัก ผมคิดว่าผมคงไม่สามารถใช้ความเป็นตัวเองเพื่อทำมาหากินได้ นั่นนำไปสู่อุตสาหกรรมศิลปะที่ผมคิดครับ เหมือนโรงงานที่ผลิต "นักผลิต" ตามเเม่เเบบ ฮ่าๆ พูดเเบบนี้เเล้วก็ดูเกินจริงไปหน่อย เเต่ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆครับ เหมือนการโดนลดทอนตัวเองไปเรื่อยๆ ตัดนู่นตัดนี้จนเหมือนเเม่เเบบ เเต่ไม่เหมือนตัวผมเลยครับ
ผมเข้าใจสังคมครับ ถ้าผมทำอาหารไม่อร่อยก็คงไม่มีคนอยากทานใช่ไหมครับ หรือถ้าผมทำอาหารอร่อยเเต่ไม่มีใครได้ทานก็คงจะรู้สึกไม่ดี เหมือนกันเลยครับผมเข้าใจจุดนี้ดี ผมคอยตั้งคำถามเกี่ยวกับศิลปะที่ผมเข้าใจ ศิลปะยังมีอยู่จริงๆใช่ไหมครับ หรือคือรูปแบบทุนนิยมอย่างนึง สิ่งที่เคยมอบความสุขให้ผมดั้งปัจจัยที่5 ตอนนี้กลับกลายเป็นสิ่งที่ผมไม่อยากมีที่สุด ไม่เหมือนการกินขี้ปี้นอน หรือเป็นเพราะผมนั่นยอมเเพ้น้อยใจในโชคชะตา ผมคิดมาตลอดว่าคนที่เก่งนั่นเกิดจากความพยามของตัวเเองเเละอยากเหงื่อ เเละผมเคารพเเละชื่นชมบุคคลเหล่านี้มากๆครับ เเต่ถ้าผมไม่เก่งผมจะยังสามารถเรียกสิ่งที่ทำได้ไม่ดีนี้ว่าศิลปะไหมครับ ผมยังเรียกอาหารที่ผมทำขึ้นมาเพราะความสุขว่าอาหารได้ไหมครับ
ทั้งนี้ ผมขอบคุณคนที่อ่านมาจนจบนะครับ เป็นการพิพม์ด้วยอารมณ์อาจจะวกไปวนมา เเละผมไม่มีเจตนาจะบั่มทอนหรือลดคุณค่าของศิลปะเเละศิลปินนะครับ ผมยังเชื่อว่าศิลปะยังสามารถเป็นความสุขให้กับตัวผมเเละผู้คนได้ ช่วยคอมเม้นต์หรือตอบกลับอย่างสุภาพกันด้วยนะครับความเห็นของทุกคนสำคัญมากๆครับ ขอบคุฯครับ
ปล. ผมพึ่งคิดคำถามนนึงออก ศิลปินจำเป็นต้องมีอีโก้จริงๆใช่ไหมครับ
ปล.ล ทุกคนมีความคิดเห็นยังไงในยุคที่ Ai มีบทบาทมากขึ้นครับ การก้อปหรือลอกภาพ เเล้วมันต่างจากการที่ศิลปินเรียนรู้จากภาพงานศิลปะหรือเทคนิคอื่นๆไหมครับ หรือต่างกับเทคโนโลยีเครื่องมืออำนวยความสะดวกไหมครับ พู่กัน สี ภาพวาดดิจิตอล หรือเทคโนโลยีอื่นๆที่ถูกเรียกว่าเทคนิค ทุกคนคิดยังไงครับถ้าเทคนิคAI จะถูกสอดเเทรกเข้ามาในสังคม (อาจจะเป็นพระเด็กที่รุนเเรงเเต่ผมอยากทราบความเห็นร่วมของคนอื่นด้วย)
ด้วยความเคารพ
นักเรียนศิลปะธรรมดา