ทรัพย์สินหลายล้าน...แต่มีค่าแค่กระดาษแผ่นเดียว
การรีบซื้อบ้านไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป
สิ่งที่น่ากลัวกว่าราคาบ้านตก…คือ บ้านที่ขายไม่ออก
ไปอ่านเจอเรื่องราวของคนจีนกลุ่มใหญ่เลยที่ตอนนี้มีปัญหาไปซื้อบ้านในโครงการสวยๆ กะจะเก็บไว้เก็งกำไร แต่สุดท้ายราคาร่วง เป็นหนี้อีก แถมขายด็ขายไม่ออก ย้านก็ย้ายไปไหนไม่ได้...
นี่คือตัวอย่างของหนึ่งในผู้ประสบภัย
A ซื้อบ้านในโครงการใหม่ของเมืองเกิดตั้งแต่ปี 2018 ตอนนั้นมั่นใจว่าเป็นโครงการที่อยู่ในตำแหน่งดีที่สุดของเมือง ราคาก็แรงหน่อย—ตารางเมตรละ 12,000 หยวน(60,000 บาท)
เขาคิดว่าอนาคตมีรถไฟฟ้า มีห้าง มีโรงเรียน ครบสูตรเมืองใหม่ ทำเลทองในอนาคตแน่ๆ
เวลาผ่านไป 7 ปี…ความจริงก็ตบหน้าดัง เพี๊ยะ!!!
ปัจจุบันประกาศขายที่ ตร.ม. ละ 8,000 หยวนยังไม่มีใครสนใจดูบ้านสักรายเดียว มาคุยกับนายหน้า นายหน้าถึงกับส่ายหัวแล้วบอกตรงๆว่า
“พี่…โซนนี้เดือนๆนึงยอดขาย = 0 จะขายได้ต้องลดราคาเหลือสัก 60% ถึงมีคนมองนะ”
ปัญหาคือรอบโครงการตอนนี้ยังเป็นที่ดินรกร้างเหมือนเมื่อก่อนตอนเริ่มขายโครงการ ทุกอย่างที่สัญญาไว้ยังค้างอยู่บนกระดาษ รถไฟฟ้าก็แค่ปักธงไว้ในแผน รัฐบาลยัฃไม่ได้มาลงเสาเข็มสักต้น
แต่ค่าผ่อนบ้านกับดอดเบี้ยธนาคารมันวิ่งตลอดไม่รอใคร…เดือนละ 5,000 หยวน
อยากย้ายงานไปเมืองใหญ่ก็ไปไม่ได้ เพราะบ้านหลังนี้เหมือน “สมอ” คอยผูกชีวิตเขาไว้กับเมืองเดิม จะขายก็ขายไม่ได้ จะเก็บก็หนักใจ จะปล่อยเช่าก็แทบไม่คุ้ม
สิ่งนี้ในจีนเรียกว่า “有价无市” (หยิ่วเจี้ยอู๋ซื่อ)
— มีราคา แต่ไม่มีตลาด
บนกระดาษดูเหมือนสินทรัพย์มูลค่าหลายล้าน แต่พอถึงเวลาต้องการเงินสดจริง ๆ…กลับกลายเป็นของที่เปลี่ยนเป็นเงินไม่ได้เลย
บทเรียนจากเคสนี้ชัดมาก:
ตอนซื้อบ้านอย่ามองแค่ราคา อย่าดูแค่โปร อย่าไปหลงเชื่อว่า “อนาคตทำเลดี”
ให้ถามตัวเองให้ชัดว่า
“ถ้าวันหนึ่งจำเป็นต้องขาย…
อย่างน้อยต้องมีคนยอมซื้อต่อไหม?”
เพราะบ้านที่ราคาตก ยังพอขายได้
แต่บ้านที่ ขายไม่ออก
ต่อให้ลดราคาแค่ไหน มันคือภาระยาว ๆ
นี่คือเหตุผลที่ในจีนหลายปีหลังมานี้ผู้คนจะหันมาดู “สภาพคล่องของทำเล” มากกว่าตัวเลขราคาเสียด้วยซ้ำ
บ้านที่เปลี่ยนเป็นเงินไม่ได้…
ต่อให้มูลค่าเท่าไหร่ ก็เป็นแค่ตัวเลขบนหน้ากระดาษเท่านั้นเอง
เช่นเดียวกับ ของราคาแพงหลายๆอย่างที่เราคิดว่า
เดี๋ยวอนาคตรอไปราคาก็ขึ้น
ถ้ามันขายไม่ออก หรือตอนเราต้องการเงิน
แล้วไม่มีคนรับไปต่อ
มันก็ไร้ความหมาย
有价无市
มีราคา แต่ไม่มีตลาด
---
ลุยจีน
🏤 ทรัพย์สินหลายล้าน...แต่มีค่าแค่กระดาษแผ่นเดียว
การรีบซื้อบ้านไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป
สิ่งที่น่ากลัวกว่าราคาบ้านตก…คือ บ้านที่ขายไม่ออก
ไปอ่านเจอเรื่องราวของคนจีนกลุ่มใหญ่เลยที่ตอนนี้มีปัญหาไปซื้อบ้านในโครงการสวยๆ กะจะเก็บไว้เก็งกำไร แต่สุดท้ายราคาร่วง เป็นหนี้อีก แถมขายด็ขายไม่ออก ย้านก็ย้ายไปไหนไม่ได้...
นี่คือตัวอย่างของหนึ่งในผู้ประสบภัย
A ซื้อบ้านในโครงการใหม่ของเมืองเกิดตั้งแต่ปี 2018 ตอนนั้นมั่นใจว่าเป็นโครงการที่อยู่ในตำแหน่งดีที่สุดของเมือง ราคาก็แรงหน่อย—ตารางเมตรละ 12,000 หยวน(60,000 บาท)
เขาคิดว่าอนาคตมีรถไฟฟ้า มีห้าง มีโรงเรียน ครบสูตรเมืองใหม่ ทำเลทองในอนาคตแน่ๆ
เวลาผ่านไป 7 ปี…ความจริงก็ตบหน้าดัง เพี๊ยะ!!!
ปัจจุบันประกาศขายที่ ตร.ม. ละ 8,000 หยวนยังไม่มีใครสนใจดูบ้านสักรายเดียว มาคุยกับนายหน้า นายหน้าถึงกับส่ายหัวแล้วบอกตรงๆว่า
“พี่…โซนนี้เดือนๆนึงยอดขาย = 0 จะขายได้ต้องลดราคาเหลือสัก 60% ถึงมีคนมองนะ”
ปัญหาคือรอบโครงการตอนนี้ยังเป็นที่ดินรกร้างเหมือนเมื่อก่อนตอนเริ่มขายโครงการ ทุกอย่างที่สัญญาไว้ยังค้างอยู่บนกระดาษ รถไฟฟ้าก็แค่ปักธงไว้ในแผน รัฐบาลยัฃไม่ได้มาลงเสาเข็มสักต้น
แต่ค่าผ่อนบ้านกับดอดเบี้ยธนาคารมันวิ่งตลอดไม่รอใคร…เดือนละ 5,000 หยวน
อยากย้ายงานไปเมืองใหญ่ก็ไปไม่ได้ เพราะบ้านหลังนี้เหมือน “สมอ” คอยผูกชีวิตเขาไว้กับเมืองเดิม จะขายก็ขายไม่ได้ จะเก็บก็หนักใจ จะปล่อยเช่าก็แทบไม่คุ้ม
สิ่งนี้ในจีนเรียกว่า “有价无市” (หยิ่วเจี้ยอู๋ซื่อ)
— มีราคา แต่ไม่มีตลาด
บนกระดาษดูเหมือนสินทรัพย์มูลค่าหลายล้าน แต่พอถึงเวลาต้องการเงินสดจริง ๆ…กลับกลายเป็นของที่เปลี่ยนเป็นเงินไม่ได้เลย
บทเรียนจากเคสนี้ชัดมาก:
ตอนซื้อบ้านอย่ามองแค่ราคา อย่าดูแค่โปร อย่าไปหลงเชื่อว่า “อนาคตทำเลดี”
ให้ถามตัวเองให้ชัดว่า
“ถ้าวันหนึ่งจำเป็นต้องขาย…
อย่างน้อยต้องมีคนยอมซื้อต่อไหม?”
เพราะบ้านที่ราคาตก ยังพอขายได้
แต่บ้านที่ ขายไม่ออก
ต่อให้ลดราคาแค่ไหน มันคือภาระยาว ๆ
นี่คือเหตุผลที่ในจีนหลายปีหลังมานี้ผู้คนจะหันมาดู “สภาพคล่องของทำเล” มากกว่าตัวเลขราคาเสียด้วยซ้ำ
บ้านที่เปลี่ยนเป็นเงินไม่ได้…
ต่อให้มูลค่าเท่าไหร่ ก็เป็นแค่ตัวเลขบนหน้ากระดาษเท่านั้นเอง
เช่นเดียวกับ ของราคาแพงหลายๆอย่างที่เราคิดว่า
เดี๋ยวอนาคตรอไปราคาก็ขึ้น
ถ้ามันขายไม่ออก หรือตอนเราต้องการเงิน
แล้วไม่มีคนรับไปต่อ
มันก็ไร้ความหมาย
有价无市
มีราคา แต่ไม่มีตลาด
---
ลุยจีน