ไทย-กัมพูชาเดือดอีกครั้ง ต่างฝ่ายกล่าวหากันโจมตีชายแดน หลังความตึงเครียดสะสมหลายสัปดาห์
ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชาปะทุอีกครั้งเมื่อเช้าวันจันทร์ หลังทั้งสองประเทศต่างออกแถลงการณ์กล่าวหาว่าอีกฝ่ายเป็นผู้เปิดฉากโจมตี ขณะที่ความคืบหน้าของข้อตกลงหยุดยิงถูกระงับไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้โดยฝ่ายไทย
พล.ต. วิทัย สุวารี โฆษกกองทัพบกไทย ระบุว่า เครื่องบินรบของไทยได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศใส่โครงสร้างพื้นฐานทางทหารของกัมพูชา เพื่อตอบโต้เหตุยิงโจมตีเมื่อช่วงเช้ามืดวันเดียวกัน ซึ่งทำให้ทหารไทยเสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บ 7 นาย
“เป้าหมายคือจุดสนับสนุนอาวุธของกัมพูชาในพื้นที่ช่องอานมะ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวได้ใช้อาวุธปืนใหญ่และปืนครกโจมตีฐานอนุพงษ์ ส่งผลให้ทหารไทยเสียชีวิต” พล.ต.วิทัย กล่าว
กองทัพบกไทยระบุเพิ่มเติมว่า กัมพูชาเริ่มยิงโจมตีพื้นที่ชายแดนไทยเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันจันทร์ ขณะที่กองทัพอากาศไทย (ทอ.) ออกแถลงการณ์แยกอีกฉบับ ระบุว่ากัมพูชาได้ “ระดมยุทโธปกรณ์หนัก เคลื่อนย้ายกำลังรบ และจัดเตรียมระบบยิงสนับสนุน” ซึ่งอาจนำไปสู่การยกระดับปฏิบัติการและเป็นภัยคุกคามต่อฝั่งไทย
ด้านกระทรวงกลาโหมกัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหาจาก ทอ.ไทย โดยเรียกข้อมูลดังกล่าวว่า “เป็นเท็จ” พร้อมย้ำว่ากัมพูชายังคงยึดมั่นในข้อตกลงที่ผ่านมาและไม่ได้ยิงโต้ตอบระหว่างเหตุปะทะทั้งสองครั้ง
อย่างไรก็ดี กองทัพกัมพูชาออกแถลงการณ์อีกฉบับ กล่าวหากองทัพไทยว่าเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงโจมตีใส่กำลังทหารกัมพูชาเวลาประมาณ 05.04 น. พร้อมกล่าวว่าการโจมตีเกิดขึ้นหลังจากไทยกระทำ “พฤติกรรมยั่วยุต่อเนื่องหลายวัน”
กองทัพไทยระบุว่า ขณะนี้มีประชาชนไทยกว่า 70% ตามแนวชายแดนได้รับการอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงแล้ว
ก่อนหน้านี้ ไทยและกัมพูชาเพิ่งผ่านความขัดแย้งชายแดนที่กินเวลาห้าวันในเดือนกรกฎาคม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคน และประชาชนกว่า 200,000 คนจากทั้งสองประเทศต้องอพยพออกจากพื้นที่
ทั้งสองประเทศตกลงหยุดยิงเบื้องต้นเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม หลังอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ โทรพูดคุยกับผู้นำทั้งสองฝ่าย ต่อมาในเดือนตุลาคม ไทยและกัมพูชาได้ลงนามข้อตกลงหยุดยิงฉบับขยาย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยมีทรัมป์และนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม ร่วมเป็นสักขีพยาน
อันวาร์แสดงความกังวลต่อรายงานการปะทะรอบใหม่ โดยระบุว่าความรุนแรงครั้งนี้ “เสี่ยงทำลายความพยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้าน”
อย่างไรก็ตาม เพียงไม่กี่สัปดาห์หลังลงนาม ไทยประกาศระงับความคืบหน้าของข้อตกลง เนื่องจากเหตุระเบิดกับระเบิด (landmine) ชายแดนที่ทำให้ทหารหลายรายบาดเจ็บ
ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ไทยและกัมพูชามีประวัติความขัดแย้งชายแดนเป็นระยะ และเหตุปะทะรุนแรงรอบล่าสุดถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายปี โดยทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวโทษกันว่าเป็นผู้เริ่มเปิดฉากเพาะความรุนแรงในครั้งนี้
ที่มา
https://edition.cnn.com/2025/12/07/asia/thailand-cambodia-border-clashes-december-intl-hnk
สรุปข่าว 🌏ไทย กัมพูชา จาก CNN ล่าสุด 8/12/68
ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชาปะทุอีกครั้งเมื่อเช้าวันจันทร์ หลังทั้งสองประเทศต่างออกแถลงการณ์กล่าวหาว่าอีกฝ่ายเป็นผู้เปิดฉากโจมตี ขณะที่ความคืบหน้าของข้อตกลงหยุดยิงถูกระงับไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้โดยฝ่ายไทย
พล.ต. วิทัย สุวารี โฆษกกองทัพบกไทย ระบุว่า เครื่องบินรบของไทยได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศใส่โครงสร้างพื้นฐานทางทหารของกัมพูชา เพื่อตอบโต้เหตุยิงโจมตีเมื่อช่วงเช้ามืดวันเดียวกัน ซึ่งทำให้ทหารไทยเสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บ 7 นาย
“เป้าหมายคือจุดสนับสนุนอาวุธของกัมพูชาในพื้นที่ช่องอานมะ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวได้ใช้อาวุธปืนใหญ่และปืนครกโจมตีฐานอนุพงษ์ ส่งผลให้ทหารไทยเสียชีวิต” พล.ต.วิทัย กล่าว
กองทัพบกไทยระบุเพิ่มเติมว่า กัมพูชาเริ่มยิงโจมตีพื้นที่ชายแดนไทยเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันจันทร์ ขณะที่กองทัพอากาศไทย (ทอ.) ออกแถลงการณ์แยกอีกฉบับ ระบุว่ากัมพูชาได้ “ระดมยุทโธปกรณ์หนัก เคลื่อนย้ายกำลังรบ และจัดเตรียมระบบยิงสนับสนุน” ซึ่งอาจนำไปสู่การยกระดับปฏิบัติการและเป็นภัยคุกคามต่อฝั่งไทย
ด้านกระทรวงกลาโหมกัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหาจาก ทอ.ไทย โดยเรียกข้อมูลดังกล่าวว่า “เป็นเท็จ” พร้อมย้ำว่ากัมพูชายังคงยึดมั่นในข้อตกลงที่ผ่านมาและไม่ได้ยิงโต้ตอบระหว่างเหตุปะทะทั้งสองครั้ง
อย่างไรก็ดี กองทัพกัมพูชาออกแถลงการณ์อีกฉบับ กล่าวหากองทัพไทยว่าเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงโจมตีใส่กำลังทหารกัมพูชาเวลาประมาณ 05.04 น. พร้อมกล่าวว่าการโจมตีเกิดขึ้นหลังจากไทยกระทำ “พฤติกรรมยั่วยุต่อเนื่องหลายวัน”
กองทัพไทยระบุว่า ขณะนี้มีประชาชนไทยกว่า 70% ตามแนวชายแดนได้รับการอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงแล้ว
ก่อนหน้านี้ ไทยและกัมพูชาเพิ่งผ่านความขัดแย้งชายแดนที่กินเวลาห้าวันในเดือนกรกฎาคม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคน และประชาชนกว่า 200,000 คนจากทั้งสองประเทศต้องอพยพออกจากพื้นที่
ทั้งสองประเทศตกลงหยุดยิงเบื้องต้นเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม หลังอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ โทรพูดคุยกับผู้นำทั้งสองฝ่าย ต่อมาในเดือนตุลาคม ไทยและกัมพูชาได้ลงนามข้อตกลงหยุดยิงฉบับขยาย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยมีทรัมป์และนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม ร่วมเป็นสักขีพยาน
อันวาร์แสดงความกังวลต่อรายงานการปะทะรอบใหม่ โดยระบุว่าความรุนแรงครั้งนี้ “เสี่ยงทำลายความพยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้าน”
อย่างไรก็ตาม เพียงไม่กี่สัปดาห์หลังลงนาม ไทยประกาศระงับความคืบหน้าของข้อตกลง เนื่องจากเหตุระเบิดกับระเบิด (landmine) ชายแดนที่ทำให้ทหารหลายรายบาดเจ็บ
ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ไทยและกัมพูชามีประวัติความขัดแย้งชายแดนเป็นระยะ และเหตุปะทะรุนแรงรอบล่าสุดถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายปี โดยทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวโทษกันว่าเป็นผู้เริ่มเปิดฉากเพาะความรุนแรงในครั้งนี้
ที่มา https://edition.cnn.com/2025/12/07/asia/thailand-cambodia-border-clashes-december-intl-hnk