เป็นการลงใช้ครั้งแรกผิดพลาดตรงไหนต้องขอโทษด้วยนะคะ
...เรื่องมีอยู่ว่าเราอยู่ในหมู่บ้านชานเมืองที่หนึ่ง โดยปกติแล้วสามีจะให้อยู่บ้านคอยทำงานบ้าน ซักผ้า รีดผ้าทำงาน และทำครีเอเตอร์ เป็นหลัก
ต่อมาเรามีอาการป่วยตรวจพบโรคร้ายสามีเลยให้อยู่แต่ในบ้าน ตอนแรกเราคิดว่าคงไม่ใช้เราอาจเป็นคนอื่นแต่
- เอ๊ะครั้งที่1...พอเราเข้าห้อง เสียงเริ่มลอยมา...วันๆอยู่แต่ในห้องไม่เห็นทำงานการอะไรเลย!! เราสตั้นไปแป๊บนึง คงไม่ใช่เราหรอก(ยังไม่รู้ตัวอีกนะ)
เรายังใช้ชีวิตปกติยังสั่งอาหารเค้าเหมือนเดิมจนหัวค่ำของวันนั้น เริ่มมีคำพูดที่รุนแรงขึ้น (ลืมบอกบ้านเรากับบ้านเขาหันหลังเยื้องกัน คนละซอย) และรุนแรงขึ้นเรื่อยๆเราเริ่มรู้สึกได้ว่าเค้าหมายถึงเราแน่นๆ เช้าวันที่29พ.บ.68 พี่สาวที่อยู่ต่างจังหวัดโทรมาหาเราก็คุยในบ้านตามปกติและก็เดินมาคุยต่อที่ห้อง...จนวางสายไป มีเสียงผู้ชายอายุราว 42+พูดว่ามันคุยโทรศัพท์ ตามด้วยเสียงผู้หญิง40+ มันทำงานอะไรเห็นคุยโทรศัพท์ทั้งวัน เดี๋ยวคนนั้นโทรมาเดี๋ยวคนนี้โทรมาอยู่แต่ในห้องไม่ทำอะไรเอาเงินที่ไหนใช้...เอิ่ม!!😳
- เราเอ๊ะครั้งที่2 อ้าวนี่เค้าหมายถึงเรานี่!! เสียงผู้ชายอายุราว42+จะเป็นเหมือนเครื่องแปลภาษาคอยเล่าให้อีกเสียงนึงฟัง เป็นแบบนี้ทุกครั้งไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตามแต่ที่เกี่ยวข้องกับเรา หลังจากนั้นจะตามมาด้วยการตั้งข้อสงสัยในชีวิตของเราต่างๆนานาๆ *** และแล้วความบันเทิงที่ไม่ได้อยากให้มีก็เกิดขึ้น Timeline สามีเราตื่นตี4:30น.ทุกวันเพื่ออาบน้ำเตรียมไปทำงาน จนถึงเวลา ตี 5:20 น. สามีได้ออกจากบ้าน หลังจากนั้น ตี 5:28 น.✨ เสียงผู้หญิงที่มีอายุประมาณ40+ บ้านมันทำงานอะไรกันออกจากบ้านเปิดรั้วเสียงดังไม่เกรงใจคนจะหลับจะนอน! เราก็พูดออกไปว่าขอโทษแทนสามีด้วยนะคะพอดีรั้วมันฝืดอีกอย่างรั้วมันเป็นสนิมจะแก้ไขให้นะคะ🙏🏻‼️- ในทุกๆวันจะเป็นแบบนี้วนไปเรื่อยๆ ทุกการกระทำของเรา การเข้าห้องน้ำ อาบน้ำ กินข้าว เข้านอน ไปหาหมอตามนัดหรือการพูดคุยโทรศัพท์ในบ้าน เค้ารับรู้หมด‼️ แม่เจ้าเราเริ่มปรึกษากับสามีว่าทำยังไงดีแบบนี้เป็นการคุกคามสิทธิส่วนบุคคล **สามีบอกช่างเขาไม่ต้องไปสนใจ**😳 อุ๊ย!! ในทุกๆครั้งที่เค้าว่าร้ายเราในเชิงหมิ่นประมาท
เราจะคอยฟังเสียงในกล้องวงจรปิดแต่เสียงเบามากแทบจะฟังไม่ออก😔 เลยพยายามจดบันทึกเหตุการณ์และความถี่ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน - จนถึงวันนี้ 6 ธ.ค. 68 เราได้สอบถามนิติว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นควรทำอย่างไร? คำตอบที่ได้คือ ขออนุญาตตอบแยกประเด็นออกเป็น 2 เรื่องนะ ครับ/ค่ะ • สำหรับประเด็นที่ 1 : ก่อเสียงรบกวนยามวิกาล (นอกเหนือวันเวลาปกติ วันธรรมดา จ.-ศ. 08.00 - 18.00 น.) ส่วนนี้หากลูกบ้านที่ถูกกล่าวหาได้กระทำการรบกวนจริง นำหลักฐานมาแจ้ง ทางนิติฯ จะได้เจรจาพูดคุยเพื่อขอความร่วมมือในการอาศัยอยู่ร่วมกัน • สำหรับประเด็นที่ 2 ความเป็นส่วนตัว ปกติแล้วการออกแบบบ้านค่อนข้างถูกดีไซน์ให้เก็บเสียงได้ดีในระดับหนึ่ง ซึ่งหากบุคคลที่ 3 จะได้รับสารอาจจะเป็นการพูดคุยหน้าบ้าน นอกบ้าน หรือมีการใช้เสียง/ส่งเสียงที่ค่อนข้างดัง ซึ่งหากป้องกันการคุยข้อมูลส่วนตัว แนะนำให้กระทำภายในบ้าน ไม่ควรกระทำในพื้นที่ภายนอก ครับ/ค่ะ ในคำกล่าวที่ว่าพูดจาส่อเสียดกัน แสดงให้เห็นว่าบุคคลทั้ง 2 มีทัศนคติหรือมีความไม่เข้าใจกันหรือไม่ ที่ทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีทัศนคติที่ลบต่อกัน ซึ่งส่วนนี้นิติฯ ไม่ทราบข้อมูล แต่หากลูกบ้านมีเรื่องความไม่เข้าใจกันและกัน อยากให้ทางเราช่วยเจรจาหรือสานความสัมพันธ์ที่ดียิ่งขึ้น ก็ยินดีช่วยเหลือ ครับ/ค่ะ (ก็ใช่นะ..แต่เราอยู่ของเราเฉยๆ) ตอนนี้สภาพจิตใจแย่มากค่ะเครียดมาก ปกติก็กินข้าวไม่ค่อยได้นอนไม่หลับเป็นทุนเดิมตอนนี้น้ำหนักลดลงวันละเกือบโล ขอความรู้จากทุกคนหน่อยค่ะเราอยากจบเรื่องนี้เพราะเค้าไม่ยอมเจอหน้า ซึ่งเราคิดมาเสมอว่าเขาเข้าใจผิด กลายเป็นว่าเค้าตั้งแง่ใส่เราช็อคสุดคือ รู้และแยกเสียงหายใจเรากับสามีได้ ซึ่งผิดปกติมากๆ (บ้านติดกันอยู่ร่วมกันมา4ปีเรายังไม่เคยรู้ว่าเขาหายใจเสียงไหน) เวลาตอนนี้ 17:17 น. ยังไม่หยุดว่าเราเลยท้อมากร้องไห้วันละหลายหน ชี้ทางสว่างให้ทีขอบคุณค่ะ🙏🏻
เพื่อนบ้านคุกคามเรื่องการเจ็บป่วยรวมไปถึงคอยต่อว่าเราตั้งแต่ตี5จนถึง5ทุ่มเที่ยงคืนได้หรอ?
...เรื่องมีอยู่ว่าเราอยู่ในหมู่บ้านชานเมืองที่หนึ่ง โดยปกติแล้วสามีจะให้อยู่บ้านคอยทำงานบ้าน ซักผ้า รีดผ้าทำงาน และทำครีเอเตอร์ เป็นหลัก
ต่อมาเรามีอาการป่วยตรวจพบโรคร้ายสามีเลยให้อยู่แต่ในบ้าน ตอนแรกเราคิดว่าคงไม่ใช้เราอาจเป็นคนอื่นแต่
- เอ๊ะครั้งที่1...พอเราเข้าห้อง เสียงเริ่มลอยมา...วันๆอยู่แต่ในห้องไม่เห็นทำงานการอะไรเลย!! เราสตั้นไปแป๊บนึง คงไม่ใช่เราหรอก(ยังไม่รู้ตัวอีกนะ)
เรายังใช้ชีวิตปกติยังสั่งอาหารเค้าเหมือนเดิมจนหัวค่ำของวันนั้น เริ่มมีคำพูดที่รุนแรงขึ้น (ลืมบอกบ้านเรากับบ้านเขาหันหลังเยื้องกัน คนละซอย) และรุนแรงขึ้นเรื่อยๆเราเริ่มรู้สึกได้ว่าเค้าหมายถึงเราแน่นๆ เช้าวันที่29พ.บ.68 พี่สาวที่อยู่ต่างจังหวัดโทรมาหาเราก็คุยในบ้านตามปกติและก็เดินมาคุยต่อที่ห้อง...จนวางสายไป มีเสียงผู้ชายอายุราว 42+พูดว่ามันคุยโทรศัพท์ ตามด้วยเสียงผู้หญิง40+ มันทำงานอะไรเห็นคุยโทรศัพท์ทั้งวัน เดี๋ยวคนนั้นโทรมาเดี๋ยวคนนี้โทรมาอยู่แต่ในห้องไม่ทำอะไรเอาเงินที่ไหนใช้...เอิ่ม!!😳
- เราเอ๊ะครั้งที่2 อ้าวนี่เค้าหมายถึงเรานี่!! เสียงผู้ชายอายุราว42+จะเป็นเหมือนเครื่องแปลภาษาคอยเล่าให้อีกเสียงนึงฟัง เป็นแบบนี้ทุกครั้งไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตามแต่ที่เกี่ยวข้องกับเรา หลังจากนั้นจะตามมาด้วยการตั้งข้อสงสัยในชีวิตของเราต่างๆนานาๆ *** และแล้วความบันเทิงที่ไม่ได้อยากให้มีก็เกิดขึ้น Timeline สามีเราตื่นตี4:30น.ทุกวันเพื่ออาบน้ำเตรียมไปทำงาน จนถึงเวลา ตี 5:20 น. สามีได้ออกจากบ้าน หลังจากนั้น ตี 5:28 น.✨ เสียงผู้หญิงที่มีอายุประมาณ40+ บ้านมันทำงานอะไรกันออกจากบ้านเปิดรั้วเสียงดังไม่เกรงใจคนจะหลับจะนอน! เราก็พูดออกไปว่าขอโทษแทนสามีด้วยนะคะพอดีรั้วมันฝืดอีกอย่างรั้วมันเป็นสนิมจะแก้ไขให้นะคะ🙏🏻‼️- ในทุกๆวันจะเป็นแบบนี้วนไปเรื่อยๆ ทุกการกระทำของเรา การเข้าห้องน้ำ อาบน้ำ กินข้าว เข้านอน ไปหาหมอตามนัดหรือการพูดคุยโทรศัพท์ในบ้าน เค้ารับรู้หมด‼️ แม่เจ้าเราเริ่มปรึกษากับสามีว่าทำยังไงดีแบบนี้เป็นการคุกคามสิทธิส่วนบุคคล **สามีบอกช่างเขาไม่ต้องไปสนใจ**😳 อุ๊ย!! ในทุกๆครั้งที่เค้าว่าร้ายเราในเชิงหมิ่นประมาท
เราจะคอยฟังเสียงในกล้องวงจรปิดแต่เสียงเบามากแทบจะฟังไม่ออก😔 เลยพยายามจดบันทึกเหตุการณ์และความถี่ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน - จนถึงวันนี้ 6 ธ.ค. 68 เราได้สอบถามนิติว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นควรทำอย่างไร? คำตอบที่ได้คือ ขออนุญาตตอบแยกประเด็นออกเป็น 2 เรื่องนะ ครับ/ค่ะ • สำหรับประเด็นที่ 1 : ก่อเสียงรบกวนยามวิกาล (นอกเหนือวันเวลาปกติ วันธรรมดา จ.-ศ. 08.00 - 18.00 น.) ส่วนนี้หากลูกบ้านที่ถูกกล่าวหาได้กระทำการรบกวนจริง นำหลักฐานมาแจ้ง ทางนิติฯ จะได้เจรจาพูดคุยเพื่อขอความร่วมมือในการอาศัยอยู่ร่วมกัน • สำหรับประเด็นที่ 2 ความเป็นส่วนตัว ปกติแล้วการออกแบบบ้านค่อนข้างถูกดีไซน์ให้เก็บเสียงได้ดีในระดับหนึ่ง ซึ่งหากบุคคลที่ 3 จะได้รับสารอาจจะเป็นการพูดคุยหน้าบ้าน นอกบ้าน หรือมีการใช้เสียง/ส่งเสียงที่ค่อนข้างดัง ซึ่งหากป้องกันการคุยข้อมูลส่วนตัว แนะนำให้กระทำภายในบ้าน ไม่ควรกระทำในพื้นที่ภายนอก ครับ/ค่ะ ในคำกล่าวที่ว่าพูดจาส่อเสียดกัน แสดงให้เห็นว่าบุคคลทั้ง 2 มีทัศนคติหรือมีความไม่เข้าใจกันหรือไม่ ที่ทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีทัศนคติที่ลบต่อกัน ซึ่งส่วนนี้นิติฯ ไม่ทราบข้อมูล แต่หากลูกบ้านมีเรื่องความไม่เข้าใจกันและกัน อยากให้ทางเราช่วยเจรจาหรือสานความสัมพันธ์ที่ดียิ่งขึ้น ก็ยินดีช่วยเหลือ ครับ/ค่ะ (ก็ใช่นะ..แต่เราอยู่ของเราเฉยๆ) ตอนนี้สภาพจิตใจแย่มากค่ะเครียดมาก ปกติก็กินข้าวไม่ค่อยได้นอนไม่หลับเป็นทุนเดิมตอนนี้น้ำหนักลดลงวันละเกือบโล ขอความรู้จากทุกคนหน่อยค่ะเราอยากจบเรื่องนี้เพราะเค้าไม่ยอมเจอหน้า ซึ่งเราคิดมาเสมอว่าเขาเข้าใจผิด กลายเป็นว่าเค้าตั้งแง่ใส่เราช็อคสุดคือ รู้และแยกเสียงหายใจเรากับสามีได้ ซึ่งผิดปกติมากๆ (บ้านติดกันอยู่ร่วมกันมา4ปีเรายังไม่เคยรู้ว่าเขาหายใจเสียงไหน) เวลาตอนนี้ 17:17 น. ยังไม่หยุดว่าเราเลยท้อมากร้องไห้วันละหลายหน ชี้ทางสว่างให้ทีขอบคุณค่ะ🙏🏻