สวัสดีครับ เราเป็นเด็กจบใหม่ พึ่งเริ่มงานได้ประมาณ 1 ปี สายภาษา สตาร์ทค่อนข้างสูงกว่าค่าเฉลี่ยจบใหม่ทั่วไป (ประมาณ 30k+) เราได้บอกเงินเดือนตัวเลขจริงที่ได้กับที่บ้าน เป็นการถามไถ่ทั่วไป แต่พอหลังจากบอกไปประมาณ 2-3 เดือนหลัง เขาเริ่มมีมาคุยเรื่องเงินออกเชิงขำๆ เช่น สร้างบ้านใหม่นะ หมดไป xx บาท หรือ ช่วงนี้ทองขึ้นนะ อยากจะยืมมาทำกำไรทองซัก 2-3 บาท หรือ เงินเหลือก็ส่งมาให้บ้านช่วยเก็บนะ เดือนละ xx บาท อะไรพวกนี้ (ประมาณว่าบอกเฉยๆ) ทำให้เรารู้สึกว่า การที่เขาถามกับเราตั้งแต่ทำงานปีแรกแบบนี้ ด้วยจำนวนเงินขนาดนี้ เป็นเพราะเขารู้เงินเดือนเราหรือเปล่า เขาเลยคาดหวังว่าเราจะมีเงินก้อนหลายหมื่นหลายแสนแล้ว (เราไม่ใช่สายประหยัด กินเที่ยวช้อปปิ้งไปเรื่อยตามประสาเด็กที่พึ่งเคยหาตังได้ด้วยตัวเอง)
เรื่องนี้ทำให้เรารู้สึกอึดอัดมาก ในทุกๆ ครั้งที่คุยกัน เราหยุดขอเงินจากที่บ้านตั้งแต่วันแรกที่ได้งาน จนถึงเงินเดือนออก เพราะอยากจะบริหารจัดการเงินก้อนเอง (ช่วงเรียน ปกติที่บ้านจะให้เป็นรายสัปดาห์ เฉพาะค่าใช้จ่ายจำเป็นหรือค่าอยู่ ถ้าอยากซื้อของใหญ่จะต้องขอแยก เพราะไม่ได้ให้เผื่อไว้หรือให้เป็นก้อนที่สามารถมาจัดการเองได้)
พอมาสิ้นปีนี้ การปรับเงินเดือนเราไม่คุยกับที่บ้านเลย คนอื่นมีวิธีจัดการปัญหาในบ้านแบบนี้ยังไงบ้างครับ เราว่าเราคงแก้ได้เป็นครั้งหน้า เช่น เปลี่ยนงานหรือปรับเงินขึ้น คงจะบอกตัวเลขในใจไปแทนตัวเลขจริง 😢
Edit: ที่ตอบคอมเม้นนะครับ ไม่คิดว่ากระทู้จะมีคนตอบเยอะขนาดนี้ แล้วอาจจะไม่เห็นคอมเม้นที่ตอบกลับเรื่องก่อนหน้านี้ในบางเรื่อง เช่นเคยได้ให้บ้างมั้ย อยู่ที่บ้านด้วยหรือป่าว อื่นๆ ขออภัยที่ไม่ได้เขียนตรงนี้ในส่วนที่คนส่วนมากสงสัยไปแต่แรก
---------
ขอบคุณทุกความเห็นมากๆ นะครับ รวมทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
เรามีให้ที่บ้านเป็นก้อนๆ ตามวันพิเศษ เช่น วันเกิด วันพ่อ/แม่ หรือโบนัสก้อนแรกเราเก็บแค่ 10% ที่เหลือให้หมดครับ
ยอมรับว่าเป็นคนไม่ประหยัด อยู่ที่กรุงเทพครับ ค่าใช้จ่ายหลักๆ หมดไปกับค่ากินและที่พัก และมีแพลนอยากมีรถคันแรก ซึ่งจำนวนแบ่งเก็บในแต่ละเดือนเรายังไม่ใกล้ปลายทาง ซึ่งจำนวนที่ที่บ้านเอ่ยที่อยากให้ส่งมา มันแทบจะเป็นเงินเก็บที่เราเก็บในแต่ละเดือน + ที่เก็บซื้อรถเลย ซึ่งเราคิดว่าเราจะกลายเป็นใช้เงินแบบเดือนชนเดือน แล้วไม่มีเงินเก็บเพิ่มเลย และในช่วงหลังๆ เริ่มโดนบอกให้เก็บเงินถี่ขึ้น เพราะงานไม่มั่นคง เราเลยหงุดหงิดรวมกับเรื่องนี้ไปอีก
เลยมาถามความเห็นคนอื่นๆ ก่อนว่าจะไปทางไหนดี เพราะในใจมีคิดไว้แล้วว่าน่าจะคุยเรื่องจำนวนเงินเดือน เงินเก็บที่เล่าไปก่อนหน้า แต่ก็กลัวว่าน่าจะผิดใจกันหลังจากที่คุยเรื่องนี้ เพราะตอนนี้เราไม่ได้คุยเรื่องนี้กลับไปเลย เป็นฝ่ายฟังอย่างเดียว
Edit เพิ่มเติม: สำหรับความเห็นที่บอกให้ส่งกลับบ้าง ความกตัญญูบ้าง สำหรับเราไม่ได้มีปัญหาตรงนี้นะครับ อย่างที่บอกไป มีเคยให้ไปบ้าง แต่ให้เป็นก้อนตามโอกาสสำคัญ ไม่ได้ให้เป็นรายเดือน พอต้องมาเพิ่มตรงนี้เราแค่รู้สึกเหมือนทำงานไปวันๆ ไม่มีเงินเก็บเลย เลยรู้สึกท้อ เหนื่อย อึดอัดทุกทีที่ที่บ้านคุยเรื่องนี้
สรุปประเด็นของเราแบบสั้นๆ นะครับ
เราแค่สงสัยว่า การที่เขาคาดหวังว่าเราต้องมีเงินเก็บหลายหมื่น หรืออยากให้ส่งที่บ้านเก็บเดือนละ4-5 พัน ได้ เป็นเพราะว่าเขาเอา 30k ตั้งหรือเปล่า ถ้าเราบอกไปว่า 20-23k เท่าคนอื่นๆ เขาจะได้ไม่คาดหวังมาก หรือเปล่า ปัจจุบันอยู่หอที่กรุงเทพ มีค่าอยู่ค่ากิน แบ่งให้ที่บ้านเป็นก้อนตามโอกาส ให้โบนัสก้อนแรก ไม่ได้มีปัญหาอะไรในจุดนี้
เผลอบอกเงินเดือนจริงที่บ้านไป จะแก้ยังไงดีครับ
เรื่องนี้ทำให้เรารู้สึกอึดอัดมาก ในทุกๆ ครั้งที่คุยกัน เราหยุดขอเงินจากที่บ้านตั้งแต่วันแรกที่ได้งาน จนถึงเงินเดือนออก เพราะอยากจะบริหารจัดการเงินก้อนเอง (ช่วงเรียน ปกติที่บ้านจะให้เป็นรายสัปดาห์ เฉพาะค่าใช้จ่ายจำเป็นหรือค่าอยู่ ถ้าอยากซื้อของใหญ่จะต้องขอแยก เพราะไม่ได้ให้เผื่อไว้หรือให้เป็นก้อนที่สามารถมาจัดการเองได้)
พอมาสิ้นปีนี้ การปรับเงินเดือนเราไม่คุยกับที่บ้านเลย คนอื่นมีวิธีจัดการปัญหาในบ้านแบบนี้ยังไงบ้างครับ เราว่าเราคงแก้ได้เป็นครั้งหน้า เช่น เปลี่ยนงานหรือปรับเงินขึ้น คงจะบอกตัวเลขในใจไปแทนตัวเลขจริง 😢
Edit: ที่ตอบคอมเม้นนะครับ ไม่คิดว่ากระทู้จะมีคนตอบเยอะขนาดนี้ แล้วอาจจะไม่เห็นคอมเม้นที่ตอบกลับเรื่องก่อนหน้านี้ในบางเรื่อง เช่นเคยได้ให้บ้างมั้ย อยู่ที่บ้านด้วยหรือป่าว อื่นๆ ขออภัยที่ไม่ได้เขียนตรงนี้ในส่วนที่คนส่วนมากสงสัยไปแต่แรก
---------
ขอบคุณทุกความเห็นมากๆ นะครับ รวมทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
เรามีให้ที่บ้านเป็นก้อนๆ ตามวันพิเศษ เช่น วันเกิด วันพ่อ/แม่ หรือโบนัสก้อนแรกเราเก็บแค่ 10% ที่เหลือให้หมดครับ
ยอมรับว่าเป็นคนไม่ประหยัด อยู่ที่กรุงเทพครับ ค่าใช้จ่ายหลักๆ หมดไปกับค่ากินและที่พัก และมีแพลนอยากมีรถคันแรก ซึ่งจำนวนแบ่งเก็บในแต่ละเดือนเรายังไม่ใกล้ปลายทาง ซึ่งจำนวนที่ที่บ้านเอ่ยที่อยากให้ส่งมา มันแทบจะเป็นเงินเก็บที่เราเก็บในแต่ละเดือน + ที่เก็บซื้อรถเลย ซึ่งเราคิดว่าเราจะกลายเป็นใช้เงินแบบเดือนชนเดือน แล้วไม่มีเงินเก็บเพิ่มเลย และในช่วงหลังๆ เริ่มโดนบอกให้เก็บเงินถี่ขึ้น เพราะงานไม่มั่นคง เราเลยหงุดหงิดรวมกับเรื่องนี้ไปอีก
เลยมาถามความเห็นคนอื่นๆ ก่อนว่าจะไปทางไหนดี เพราะในใจมีคิดไว้แล้วว่าน่าจะคุยเรื่องจำนวนเงินเดือน เงินเก็บที่เล่าไปก่อนหน้า แต่ก็กลัวว่าน่าจะผิดใจกันหลังจากที่คุยเรื่องนี้ เพราะตอนนี้เราไม่ได้คุยเรื่องนี้กลับไปเลย เป็นฝ่ายฟังอย่างเดียว
Edit เพิ่มเติม: สำหรับความเห็นที่บอกให้ส่งกลับบ้าง ความกตัญญูบ้าง สำหรับเราไม่ได้มีปัญหาตรงนี้นะครับ อย่างที่บอกไป มีเคยให้ไปบ้าง แต่ให้เป็นก้อนตามโอกาสสำคัญ ไม่ได้ให้เป็นรายเดือน พอต้องมาเพิ่มตรงนี้เราแค่รู้สึกเหมือนทำงานไปวันๆ ไม่มีเงินเก็บเลย เลยรู้สึกท้อ เหนื่อย อึดอัดทุกทีที่ที่บ้านคุยเรื่องนี้
สรุปประเด็นของเราแบบสั้นๆ นะครับ
เราแค่สงสัยว่า การที่เขาคาดหวังว่าเราต้องมีเงินเก็บหลายหมื่น หรืออยากให้ส่งที่บ้านเก็บเดือนละ4-5 พัน ได้ เป็นเพราะว่าเขาเอา 30k ตั้งหรือเปล่า ถ้าเราบอกไปว่า 20-23k เท่าคนอื่นๆ เขาจะได้ไม่คาดหวังมาก หรือเปล่า ปัจจุบันอยู่หอที่กรุงเทพ มีค่าอยู่ค่ากิน แบ่งให้ที่บ้านเป็นก้อนตามโอกาส ให้โบนัสก้อนแรก ไม่ได้มีปัญหาอะไรในจุดนี้