ถ้าใครไม่อยากอ่านหลักเกณฑ์ภาษี สามารถไปอ่านความเห็นที่ 2 ได้เลย (แต่จะทยอยลงนะคะ)
การจ่ายภาษีที่ดินเมื่อสองปีที่ผ่านมา
เริ่มต้นจากปี 2567 เราได้รับหนังสือจากสำนักงานเทศบาลหัวหิน แจ้งให้ชำระภาษีที่ดิน โดยอ้างอิงตามตามพรบ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ปี 2562
(แต่อัตราภาษีที่จ่ายจริงเป็นไปตาม อัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในปี 2568 นะคะ)
ซึ่งตามกฏหมายใหม่ เราต้องเสียภาษี 12,xxx ต่อปี จากเดิมเสียแค่ไม่ถึงหนึ่งพันบาท สตั๊นแป๊บบบ
ก็นะ ปีแรก (2567) มันก็ ok เป็นหน้าที่ต้องจ่าย ก็ทำใจ...
ปีที่ 2 (2568) ก็จ่ายปายยย แต่ใจก็เริ่มเอ๊ะ มันต้องจ่ายกันไปเรื่อยๆ แบบนี้เหรอ ไม่ค่อย ok นะ
ภาษีที่ดินมีเกณฑ์การเสียภาษีอย่างไรบ้าง
จึงเริ่มหาข้อมูลในเนต ได้ความว่า ...ภาษีที่ดินที่เราต้องจ่ายนั้น คิดอัตราภาษีต่างกันขึ้นกับว่า...เราใช้ประโยชน์ในที่ดินของเราแบบใด...
ซึ่งตามกฏหมาย การใช้ประโยชน์ที่ดิน มี 4 ประเภท (อธิบายเฉพาะประเด็นที่ตรงกับเคสของเรานะคะ)
1. ที่อยู่อาศัย ==> หมายถึงมีบ้านอยู่ในที่ดิน และขอทะเบียนบ้าน
ถ้าเป็นบ้านหลังแรก มูลค่าไม่เกิน 50 ล้านไม่เสียภาษี ถ้าเป็นหลังที่สอง 0-50 ล้าน เสียภาษี 0.02%
2. เกษตรกรรม ==> หมายถึงที่ดินใช้ประโยชน์ในการทำเกษตรกรรม มูลค่าไม่เกิน 50 ล้านไม่เสียภาษี
3. พาณิชยกรรมอุตสาหกรรม รวมถึงอสังหาฯ เพื่อเชิงพาณิชย์ เช่น อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า อาคารให้เช่า อันนี้เสียภาษีเริ่มต้น .3% ขึ้นกับมูลค่าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
4. ที่ดินรกร้างว่างเปล่า เสียภาษี .3% ของราคาประเมิน และเพิ่มขึ้น .3% ทุก 3 ปี สูงสุดไม่เกิน 3%
***********************************************************************************************
ที่ดินของเราอยู่ในประเภท 4 คือที่ดินรกร้างว่างเปล่า ไม่ได้ใช้ประโยชน์ จึงเสียภาษี .3%ต่อปี
**********************************************************************************************
เรามีทางเลือก 2 ทางที่จะจ่ายภาษีน้อยลง
ทางที่ 1 คือสร้างบ้านเล็กๆ 1 หลัง หรือซื้อบ้าน knock down มาวาง ขอทะเบียนบ้าน เสร็จแล้วไปแจ้งเทศบาลเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินเป็น ประเภท 1 ==> ที่อยู่อาศัย
เท่าที่สำรวจค่าใช้จ่าย ไม่ว่าเป็นจ้างปลูกหรือ knock down ยังไงก็ 250,000 บาทขึ้น
Note : ที่ไม่เลือกข้อ 1 เพราะเราไม่ได้ไปอยู่จริงจัง การปลูกบ้านจะลงทุนมากกว่า นานวันเข้า บ้านก็อาจจะเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา
ต้องมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาอีก จะมีข้อดีอยู่บ้างคือปล่อยให้คนในพื้นที่เช่า
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทางที่ 2 คือเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นการทำเกษตร จากการคำนวณแล้ว ทางที่ 2 จะลงทุนน้อยกว่า การดำเนินการยุ่งยากน้อยกว่า ใช้เวลาดำเนินการน้อยกว่า เราจึงเลือกข้อนี้ค่ะ
credit : kasikornbank.com
https://www.kasikornbank.com/th/propertyforsale/article/pages/know-about-land-tax-in-2023.aspx
อัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในปี 2568
credit : kapook.com
https://home.kapook.com/view296457.html
ปลูกต้นไม้ลดภาษีที่ดิน ต้องปลูกพืชอะไร ทำได้จริงหรือ ?
แชร์ประสบการณ์การปลูกพืชเพื่อลดภาษีที่ดินจากคนที่ไม่เคยทำเกษตร
ถ้าใครไม่อยากอ่านหลักเกณฑ์ภาษี สามารถไปอ่านความเห็นที่ 2 ได้เลย (แต่จะทยอยลงนะคะ)
เริ่มต้นจากปี 2567 เราได้รับหนังสือจากสำนักงานเทศบาลหัวหิน แจ้งให้ชำระภาษีที่ดิน โดยอ้างอิงตามตามพรบ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ปี 2562
(แต่อัตราภาษีที่จ่ายจริงเป็นไปตาม อัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในปี 2568 นะคะ)
ซึ่งตามกฏหมายใหม่ เราต้องเสียภาษี 12,xxx ต่อปี จากเดิมเสียแค่ไม่ถึงหนึ่งพันบาท สตั๊นแป๊บบบ
ก็นะ ปีแรก (2567) มันก็ ok เป็นหน้าที่ต้องจ่าย ก็ทำใจ...
ปีที่ 2 (2568) ก็จ่ายปายยย แต่ใจก็เริ่มเอ๊ะ มันต้องจ่ายกันไปเรื่อยๆ แบบนี้เหรอ ไม่ค่อย ok นะ
จึงเริ่มหาข้อมูลในเนต ได้ความว่า ...ภาษีที่ดินที่เราต้องจ่ายนั้น คิดอัตราภาษีต่างกันขึ้นกับว่า...เราใช้ประโยชน์ในที่ดินของเราแบบใด...
ซึ่งตามกฏหมาย การใช้ประโยชน์ที่ดิน มี 4 ประเภท (อธิบายเฉพาะประเด็นที่ตรงกับเคสของเรานะคะ)
1. ที่อยู่อาศัย ==> หมายถึงมีบ้านอยู่ในที่ดิน และขอทะเบียนบ้าน
ถ้าเป็นบ้านหลังแรก มูลค่าไม่เกิน 50 ล้านไม่เสียภาษี ถ้าเป็นหลังที่สอง 0-50 ล้าน เสียภาษี 0.02%
2. เกษตรกรรม ==> หมายถึงที่ดินใช้ประโยชน์ในการทำเกษตรกรรม มูลค่าไม่เกิน 50 ล้านไม่เสียภาษี
3. พาณิชยกรรมอุตสาหกรรม รวมถึงอสังหาฯ เพื่อเชิงพาณิชย์ เช่น อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า อาคารให้เช่า อันนี้เสียภาษีเริ่มต้น .3% ขึ้นกับมูลค่าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
4. ที่ดินรกร้างว่างเปล่า เสียภาษี .3% ของราคาประเมิน และเพิ่มขึ้น .3% ทุก 3 ปี สูงสุดไม่เกิน 3%