ควักเงินไม่รู้ตัว! 10 เทคนิคการขายขั้นสุดแบบพ่อค้าจีน 🔥 ทำไมขายเก่งกว่าคนไทย?

“จีน” ประเทศที่มีประชากรกว่า 1.4 พันล้านคน มีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่มาก การแข่งขันทางธุรกิจก็เข้มข้นดุเดือด และเป็นที่สุดแทบทุกตลาดเช่น เป็นตลาดค้าปลีกที่ใหญ่สุดในโลก มูลค่ากว่า 41.22 ล้านล้านหยวนหรือ ประมาณ 187.95 ล้านล้านบาท

หรือการเป็นตลาดใหญ่สุดของธุรกิจชานมไข่มุกที่มีการขยายสาขาไปยังหลายประเทศรวมถึงในประเทศไทย ก่อเกิดคำถามที่น่าสนใจว่า “ทำไมคนจีน” ถึงได้ค้าขายเก่ง มีกลยุทธ์อะไรที่ผู้ประกอบการไทยควรรู้เพื่อเอามาปรับใช้พัฒนาการค้าให้เติบโตได้เช่นเดียวกับประเทศจีน


1. chāo zhí fú wù (เชา จื๋อ ฝู อู้)

หรือการให้บริการฟรีจนลูกค้าอึ้ง โดยเป้าหมายที่แท้จริงไม่ใช่แค่ให้ลูกค้าประทับใจ แต่คือทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า “ถ้ามาที่นี่แล้วสั่งน้อย ๆ หรือจ่ายแค่ราคาปกติ” เป็นเรื่องที่น่าอายมาก ก่อให้เกิดพฤติกรรม สั่งเพิ่มโดยไม่รู้ตัว + กลับมาซ้ำ + พาคนอื่นมา
ลองไล่ไปดูว่ามีบริการฟรีอะไรที่น่าสนใจในร้านอาหารที่ประเทศจีน ยกตัวอย่างเช่น

✅ น้ำผลไม้ต้อนรับฟรี (แตงโม, ส้ม, มะนาว)
✅ ข้าวสวยเติมฟรีไม่อั้น (ร้านอาหารตามสั่ง)
✅ ชา/น้ำร้อนรีฟิลฟรีตลอด
✅ ขนมขบเคี้ยวระหว่างรออาหาร (ถั่วลิสงต้ม, แตงกวาดอง เป็นต้น)

สิ่งเหล่านี้มีจิตวิทยาซ่อนอยู่ 🧠 เพราะเมื่อคนได้ของฟรีเยอะ ย่อมรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณ ก็จะสั่งเพิ่มโดยไม่รู้ตัว รวมถึงการโพสต์ลงโซเชี่ยลโดยอัตโนมัติ กลายเป็นการเพิ่มยอดขายในอนาคตให้ร้านได้

ถ้าไปดูความคุ้มทางเทคนิคนี้พบว่าต้นทุนบริการฟรีเฉลี่ย 45–80 หยวน/โต๊ะ แต่เพิ่มยอดต่อบิลจริง +120–380 หยวน/โต๊ะ ในมุมของร้านอาหารไทยเองถ้ายังคิดว่า “บริการฟรี = ขาดทุน” ก็ถือว่ายังไม่เข้าใจในเทคนิคนี้ดีพอ

2. pái duì jīng jì (ผาย ตุ้ย จิง จี้) 🧍‍♀️🧍‍♂️🧍

เทคนิคการต่อคิวยาว = โฆษณาฟรีชั้นดี 📣 โดยเชื่อว่า “คิวที่ยาวที่สุด = ป้ายโฆษณาที่ทรงพลังที่สุด” ถ้าดูจากผลสำรวจของคนจีนที่แสดงความรู้สึกเกี่ยวกับการต่อคิวพบว่า
✅ 72% เห็นคนต่อคิวยาว = ต้องอร่อยแน่นอน
✅ 65% กลัวพลาดของอร่อย
✅ 58% ถ่ายรูปลงโซเชียลแล้วดูเท่น่าสนใจ

โดยร้านอาหารในประเทศจีนก็มีวิธีตั้งใจสร้างคิวยาวในหลายรูปแบบ เช่น
✅ จำกัดจำนวนที่นั่งหรือโต๊ะให้น้อยกว่าความต้องการจริง 20–40%
✅ ใช้ระบบคิวอิเล็กทรอนิกส์ แต่ตั้ง “เวลารอโดยประมาณ” สูงกว่าความจริง 30–60 นาที
✅ จัดคิวให้ “โค้งเข้าโค้งออก” หรือวนรอบหน้าร้านให้คนเดินผ่านเห็นชัด ๆ

ตัวอย่างที่น่าสนใจ เช่น ร้าน “Lao Jie Bian” บัวลอยน้ำขิงในเฉิงตู ที่เปิดตัวด้วยคิวยาว 100–200 คิวต่อเนื่อง 1–2 เดือน และกลายเป็นร้านดังระดับประเทศ ขยายไป 200 สาขาใน 1 ปี ในมุมของร้านอาหารไทยส่วนใหญ่ถ้าทำคิวยาวก็กลัวลูกค้าหนี แต่ในมุมของคนจีน คิวยาว = Social Proof สุดยอด

3. “อิ๋นหลิ่วเฉินฉี่” 🍡

คำว่า “อิ๋นหลิ่วเฉินฉี่” แปลว่า “อาวุธล่อคนระดับเทพ” 🪄 เป็นเทคนิคการให้ชิมฟรีเพิ่มยอดขาย ซึ่งทุกอย่างผ่านการคำนวณมาแล้วว่าคุ้มค่า

ยกตัวอย่าง Mixue สาขาในจีน แจกให้ชิมฟรีในวันเปิดสาขาใหม่  มีลูกค้าต่อคิวยาวมาก ยอดขายวันแรก 18,000 แก้ว หรือร้านทาร์ตไข่ในห้างที่เซี่ยงไฮ้ แจกชิมฟรีมีต้นทุนวันละ 1,800 หยวน แต่ขายได้เฉลี่ยวันละ 12,000 – 15,000 ชิ้น กำไรวันละประมาณ 50,000 หยวน

4. "bào zhà tiē" (เป้า จ้า เทีย)  🟥🟨

เทคนิคการใช้ป้ายใหญ่ + สีเด่นชัด ที่เบื้องหลังคือวิทยาศาสตร์การมองเห็น + จิตวิทยาราคา ที่คำนวณมาหมดทุกเซนติเมตร

ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่า
✅ สีแดง 80% + เหลือง 15% + ดำ 5%
✅ ขนาดตัวเลขราคาต้องใหญ่กว่าชื่อสินค้า 3–5 เท่า
✅ การใส่ตัวเลขต้องเน้น “9” เสมอ
✅ คำกระตุ้น เช่น วันนี้วันเดียว , หมดแล้วหมดเลย , ลดพิเศษสุดในรอบปี
✅ ป้ายต้องติดสูงจากพื้น 1.4–1.8 เมตร
✅ ใช้ฟอนต์ตัวหนาแบบ “ฟอนต์ตลาดนัด”

5. "rén hǎi zhàn shù" (เหริน ไห่ จ้าน ซู่) 👥⚙️

หรือการเพิ่มพนักงาน = เพิ่มกำไร โมเดลนี้คือ พนักงาน 1 คน = ความเร็ว + ความประทับใจ + ยอดขายเพิ่ม เราจะเห็นร้านอาหารจีนมีพนักงานเยอะมาก แต่ทุกคนมี “เส้นทางเดิน” ของตัวเอง เดินไม่ชนกันเหมือนมด  เช่น

- คนเรียกคิว 2–3 คน
- คนเสิร์ฟ 4–5 คน
- คนเก็บโต๊ะ 2–3 คน
- ผู้จัดการภาคสนาม 1–2 คน

6. "yǐn xíng jiā dān" (อิ๋นสิงเจียตาน) 🛒

วิธีการขายเพิ่มแบบเนียน ๆ Upsell ที่มองไม่เห็น โดยใช้ประโยคสำคัญ เช่น
🗣 “ซื้อ 2 ถูกกว่าซื้อ 1 เยอะเลย”
🗣 “เพิ่มอีกนิดเดียวได้ส่วนลด/ของแถมทันที”

7. "bī dān xīn lǐ" (บีตานซินหลี่) ⚠️

สร้างความรู้สึกให้ลูกค้า “ต้องซื้อ” เป็นกลยุทธ์ที่เล่นกับความรู้สึกให้ลูกค้า “ต้องซื้อ” มีหลายรูปแบบที่ร้านค้าในจีนนำมาใช้เช่นแสดงตัวเลขเรียลไทม์หน้าร้าน หรือการทำป้ายที่เขียนว่า “เหลือน้อย + ตัวเลขลดลงต่อหน้าต่อตา” หรือการที่พนักงานตะโกนซ้ำ ๆ ทุก 2–3 นาที ว่าสินค้าใกล้หมด เหลือแก้วสุดท้าย หมดแล้วหมดเลย เป็นต้น

8. "gāo gǎn zhī jià zhí lǐ wù" 🎁

ของแถมที่ “ดูแพงแต่ต้นทุนถูก” หรือเป็นเทคนิคที่คนจีนเรียกว่าของขวัญที่รู้สึกคุ้มเกินราคา โดยมีของแถมน่าสนใจที่คนจีนใช้บ่อยและต้นทุนของแถมเหล่านี้ต่ำกว่า 25 บาท (ถ้าคิดเป็นเงินไทย) เช่น
✅ พวงกุญแจ
✅ ถุงผ้า
✅ พัดลม USB

9. "wǎng hóng dǎ kǎ diǎn" 📸✨

การจัดร้านให้ถ่ายรูปสวย หลักการคือไม่ทำร้านเพื่อ “ขายของ” ก่อน แต่ทำร้านเพื่อให้คนมาถ่ายรูปเพื่อให้ลูกค้าโพสต์ เพื่อดึงลูกค้าใหม่ และจะกลายเป็นการขายของได้โดยอัตโนมัติ รูปแบบหน้าร้านในมุมของคนจีนที่ต้องสวย

เช่น หน้าร้านแสงต้องสวย , มีกรอบรูป / เฟรม ให้ยืนได้พอดี , พื้นหลังมีโลโก้ร้านชัดเจน , มีพร็อพให้ยืมฟรีและมีโลโก้ร้าน , เปลี่ยนธีมทุก 1-2 เดือน เป็นต้น

10. “ยฺเหว่ คว่าย เยว่ จ้วน” ยิ่งเร็ว = ยิ่งได้กำไร
คนจีนเชื่อว่า ความเร็ว = เงิน และคนจีนเชื่อแบบสุดโต่งว่า ทุกวินาทีที่ช้า = เงินที่หายไปจริง ๆ”และเขาเอาจริงจนถึงระดับมิลลิวินาที

- คนจีนเชื่อว่า “ความเร็ว = เงิน”
- ร้านชานมต้องได้ใน 90 วินาที
- ร้านอาหารต้องมีจานแรกภายใน 4–5 นาที
- ช้า 10 วินาที = เสียเงิน 90 บาท

กลยุทธ์ทั้งหลายเหล่านี้ในอีกมุมหนึ่งอาจไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับคนไทยและหลายวิธีก็เป็นกลยุทธ์ที่ร้านค้าหรือธุรกิจในเมืองไทยได้เอามาใช้กันแพร่หลาย แต่สิ่งที่แตกต่างคือความเอาใจใส่และการปฏิบัติอย่างจริงจัง

สังเกตว่าคนจีนจะกระตือรือร้นในการขายมากๆ ต่างกับคนไทยที่ไม่ค่อยกระตือรือร้นหนัก ทั้งที่ความจริงหากใช้เทคนิคเหล่านี้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพจะเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายได้ดีมาก
.
.
ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ รวบรวมข้อมูล
Cr : https://www.facebook.com/share/p/15P7W4pyN5N/

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่