พายุหมุนเขตร้อน (Tropical Cyclone) คือระบบพายุที่หมุนวนอย่างรวดเร็ว ก่อตัวขึ้นเหนือมหาสมุทรในเขตร้อนหรือกึ่งเขตร้อน คำว่า "เขตร้อน" หมายถึง บริเวณกำเนิดทางภูมิศาสตร์ของระบบเหล่านี้ซึ่งแทบทั้งหมดเกิดในทะเลเขตร้อน "พายุหมุน" หมายถึงลมที่เคลื่อนที่เป็นวงกลม โดยพัดรอบตาพายุ ณ ศูนย์กลางที่ปลอดลมและฝน และลมที่พัดในทิศทวมเข็มนาฬิกาในซีกโลกเหนือและตามเข็มนาฬิกาในซีกโลกใต้
โดยทั่วไป พายุหมุนเขตร้อนมักมีลักษณะสำคัญดังนี้
1. การหมุนวน - อากาศจะหมุนเข้าสู่ศูนย์กลางความกดอากาศต่ำ (ตาพายุ) ทวนเข็มนาฬิกาในซีกโลกเหนือ และตามเข็มนาฬิกาในซีกโลกใต้
2. แหล่งพลังงาน - ได้รับพลังงานจากความร้อนแฝงที่ปล่อยออกมาเมื่อไอน้ำควบแน่นกลายเป็นฝน (น้ำทะเลที่อุ่นเป็นเชื้อเพลิงสำคัญ)
3. ไม่มีแนวปะทะอากาศ - แตกต่างจากพายุในเขตอบอุ่นตรงที่ไม่ได้เกิดจากมวลอากาศเย็นปะทะมวลอากาศร้อน
4. ชื่อเรียกแตกต่างกัน - มีชื่อเรียกตามความรุนแรงและสถานที่เกิด เช่น เฮอริเคน (Hurricane) ในมหาสมุทรแอตแลนติก/ตะวันออกของแปซิฟิก, ไต้ฝุ่น (Typhoon) ในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือ, และไซโคลน (Cyclone) ในมหาสมุทรอินเดีย/แปซิฟิกใต้
สำหรับ 10 อันดับพายุหมุนเขตร้อนที่รุนแรงที่สุดในโลกตามความเร็วลมสูงสุดที่พัดต่อเนื่อง โดยใช้เกณฑ์การวัดแบบ 1 นาทีสหรัฐอเมริกา มีดังต่อไปนี้
1. เฮอริเคนแพทริเซีย (Hurricane Patricia, 2015)
ความเร็วลมสูงสุด - 345 กม./ชม. (215 ไมล์ต่อชั่วโมง - ระดับ Category 5)
เฮอริเคนแพทริเซียก่อตัวเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2015 เป็นพายุที่รุนแรงที่สุดในซีกโลกตะวันตกและในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก และมีสถิติความเร็วลมที่พัดต่อเนื่องสูงที่สุดในโลกตามการบันทึกอย่างเป็นทางการของ WMO (World Meteorological Organization)
2. ซูเปอร์ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน (Super Typhoon Haiyan/Yolanda, 2013)
ความเร็วลมสูงสุด - ประมาณ 315 กม./ชม. (195 ไมล์ต่อชั่วโมง)
ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนก่อตัวเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2013 เป็นพายุที่สร้างความเสียหายร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ฟิลิปปินส์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต กว่า 6,000 คน และถูกจัดว่าเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดที่พัดขึ้นฝั่ง (landfall) ในประวัติศาสตร์โลกอย่างไม่เป็นทางการ
3. ซูเปอร์ไต้ฝุ่นโคนี (Super Typhoon Goni, 2020)
ความเร็วลมสูงสุด - 315 กม./ชม. (195 ไมล์ต่อชั่วโมง)
ไต้ฝุ่นโคนีก่อตัวเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2020 เป็นพายุที่รุนแรงที่สุดของโลกในปี 2020 และเป็นหนึ่งในพายุที่รุนแรงที่สุดที่พัดขึ้นฝั่งในฟิลิปปินส์ โดยทิ้งความเสียหายเอาไว้มากมาย รวมถึงผู้เสียชีวิตประมาณ 30 คน
4. ไต้ฝุ่นเมอแรนตี (Typhoon Meranti, 2016)
ความเร็วลมสูงสุด - 315 กม./ชม. (195 ไมล์ต่อชั่วโมง)
ไต้ฝุ่นเมอแรนตีก่อตัวเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2016 สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงในหลายพื้นที่ เช่น ฟิลิปปินส์ (โดยเฉพาะเกาะอิตบายัต), ไต้หวัน และจีนแผ่นดินใหญ่ (มณฑลฝูเจี้ยน และเป็นอีก 1 รายชื่อที่ถูกถอดออกจากรายชื่อพายุหมุนเขตร้อนถาวร เนื่องจากความรุนแรงของภัยพิบัติที่เกิดขึ้น)
5. ไต้ฝุ่นเมกี (Typhoon Megi, 2010) หรือซูเปอร์ไต้ฝุ่นฮวน (Super Typhoon Juan)
ความเร็วลมสูงสุด - 305 กม./ชม. (190 ไมล์ต่อชั่วโมง)
ไต้ฝุ่นเมกีก่อตัวเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2010 สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงเมื่อขึ้นฝั่งที่จังหวัดอิซาเบลา ทางตอนเหนือของเกาะลูซอนในฟิลิปปินส์ รวมถึงบางส่วนของไต้หวัน และจีนแผ่นดินใหญ่
6. ไต้ฝุ่นแนนซี่ (Typhoon Nancy, 1961)
ความเร็วลมสูงสุด - 305 กม./ชม. (190 ไมล์ต่อชั่วโมง)
ไต้ฝุ่นแนนซี่ก่อตัวเมื่อวันที่ 9 กันยายน 1961 เคยถูกบันทึกว่าเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดในโลก แต่ภายหลังมีการประเมินใหม่ว่าความเร็วลมที่รายงานไว้อาจสูงเกินจริงเนื่องจากวิธีการวัดในยุคนั้น มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 170 คน
7. เฮอริเคนอัลเลน (Hurricane Allen, 1980)
ความเร็วลมสูงสุด - 305 กม./ชม. (190 ไมล์ต่อชั่วโมง)
เฮอริเคนอัลเลนก่อตัวเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 1980 เป็นหนึ่งในเฮอริเคนแอตแลนติกที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยบันทึกมา สร้างความเสียหายอย่างหนักในทะเลแคริบเบียน เม็กซิโก และรัฐเทกซัส
8. เฮอริเคนคามิลล์ (Hurricane Camille, 1969)
ความเร็วลมสูงสุด - 305 กม./ชม. (190 ไมล์ต่อชั่วโมง)
เฮอริเคนคามิลล์ก่อตัวเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 1969 เป็นหนึ่งในเฮอริเคนที่รุนแรงที่สุดที่พัดเข้าชายฝั่งสหรัฐฯ บริเวณรัฐมิสซิสซิปปีลุยเซียนา และเวอร์จิเนีย รวมถึงประเทศคิวบา โดยมีรายงานผู้เสียชีวิตกว่า 250 คน
9. ไต้ฝุ่นไอดะ (Typhoon Ida, 1958) หรือไต้ฝุ่นคาโนกาวะ (Kanogawa Typhoon)
ความเร็วลมสูงสุด - 300 กม./ชม. (185 ไมล์ต่อชั่วโมง) แต่บางรายงานบอก 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือ 200 ไมล์ต่อชั่วโมง
ก่อตัวเมื่อวันที่ 20 กันยายน 1958 เป็นพายุที่เลวร้ายที่สุดที่พัดถล่มญี่ปุ่นในรอบ 24 ปีขณะนั้น (โดยเฉพาะคาบสมุทรอิซุและพื้นที่รอบโตเกียว) มีรายงานผู้เสียชีวิตสูงถึง 1,269 ราย และมีบ้านเรือนกว่า 500,000 หลังถูกน้ำท่วม
10. ไต้ฝุ่นไวลอเล็ต (Typhoon Violet, 1961)
ความเร็วลมสูงสุด - 300 กม./ชม. (185 ไมล์ต่อชั่วโมง) แต่บางรายงานบอก 335 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือ 205 ไมล์ต่อชั่วโมง
ไต้ฝุ่นไวลอเล็ตก่อตัวเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 1961 เป็นหนึ่งในพายุที่รุนแรงที่สุดในมหาสมุทร สร้างความเสียหายให้แก่เกาะกวม, โอกินาวา, และญี่ปุ่นแผ่นดินใหญ่ (โดยเฉพาะคาบสมุทรโบโซ ใกล้กรุงโตเกียว) แต่โชคดีที่ไต้ฝุ่นได้ลดความเร็วลงแล้วขณะขึ้นฝั่ง
หมายเหตุ การจัดอันดับความรุนแรงของพายุตามความเร็วลมสูงสุดนั้นมีความซับซ้อน เนื่องจากหน่วยงานด้านอุตุนิยมวิทยาในแต่ละพื้นที่ใช้เกณฑ์การวัดที่แตกต่างกัน เช่น การวัดความเร็วลมที่พัดต่อเนื่อง 1 นาที (ที่นิยมใช้ในสหรัฐอเมริกา) หรือ 10 นาที (ที่นิยมใช้ในเอเชีย) ดังนั้นราบงานแต่ละแหล่งอาจมีการจัดอันดับที่แตกต่างกัน
ที่มา : Wikipedia, Google, Gemini, ChatGPT
ความรู้รอบตัว - EP2 : 10 อันดับ พายุหมุนเขตร้อนที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์
โดยทั่วไป พายุหมุนเขตร้อนมักมีลักษณะสำคัญดังนี้
1. การหมุนวน - อากาศจะหมุนเข้าสู่ศูนย์กลางความกดอากาศต่ำ (ตาพายุ) ทวนเข็มนาฬิกาในซีกโลกเหนือ และตามเข็มนาฬิกาในซีกโลกใต้
2. แหล่งพลังงาน - ได้รับพลังงานจากความร้อนแฝงที่ปล่อยออกมาเมื่อไอน้ำควบแน่นกลายเป็นฝน (น้ำทะเลที่อุ่นเป็นเชื้อเพลิงสำคัญ)
3. ไม่มีแนวปะทะอากาศ - แตกต่างจากพายุในเขตอบอุ่นตรงที่ไม่ได้เกิดจากมวลอากาศเย็นปะทะมวลอากาศร้อน
4. ชื่อเรียกแตกต่างกัน - มีชื่อเรียกตามความรุนแรงและสถานที่เกิด เช่น เฮอริเคน (Hurricane) ในมหาสมุทรแอตแลนติก/ตะวันออกของแปซิฟิก, ไต้ฝุ่น (Typhoon) ในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือ, และไซโคลน (Cyclone) ในมหาสมุทรอินเดีย/แปซิฟิกใต้
สำหรับ 10 อันดับพายุหมุนเขตร้อนที่รุนแรงที่สุดในโลกตามความเร็วลมสูงสุดที่พัดต่อเนื่อง โดยใช้เกณฑ์การวัดแบบ 1 นาทีสหรัฐอเมริกา มีดังต่อไปนี้
1. เฮอริเคนแพทริเซีย (Hurricane Patricia, 2015)
ความเร็วลมสูงสุด - 345 กม./ชม. (215 ไมล์ต่อชั่วโมง - ระดับ Category 5)
เฮอริเคนแพทริเซียก่อตัวเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2015 เป็นพายุที่รุนแรงที่สุดในซีกโลกตะวันตกและในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก และมีสถิติความเร็วลมที่พัดต่อเนื่องสูงที่สุดในโลกตามการบันทึกอย่างเป็นทางการของ WMO (World Meteorological Organization)
ความเร็วลมสูงสุด - ประมาณ 315 กม./ชม. (195 ไมล์ต่อชั่วโมง)
ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนก่อตัวเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2013 เป็นพายุที่สร้างความเสียหายร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ฟิลิปปินส์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต กว่า 6,000 คน และถูกจัดว่าเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดที่พัดขึ้นฝั่ง (landfall) ในประวัติศาสตร์โลกอย่างไม่เป็นทางการ
ความเร็วลมสูงสุด - 315 กม./ชม. (195 ไมล์ต่อชั่วโมง)
ไต้ฝุ่นโคนีก่อตัวเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2020 เป็นพายุที่รุนแรงที่สุดของโลกในปี 2020 และเป็นหนึ่งในพายุที่รุนแรงที่สุดที่พัดขึ้นฝั่งในฟิลิปปินส์ โดยทิ้งความเสียหายเอาไว้มากมาย รวมถึงผู้เสียชีวิตประมาณ 30 คน
ความเร็วลมสูงสุด - 315 กม./ชม. (195 ไมล์ต่อชั่วโมง)
ไต้ฝุ่นเมอแรนตีก่อตัวเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2016 สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงในหลายพื้นที่ เช่น ฟิลิปปินส์ (โดยเฉพาะเกาะอิตบายัต), ไต้หวัน และจีนแผ่นดินใหญ่ (มณฑลฝูเจี้ยน และเป็นอีก 1 รายชื่อที่ถูกถอดออกจากรายชื่อพายุหมุนเขตร้อนถาวร เนื่องจากความรุนแรงของภัยพิบัติที่เกิดขึ้น)
ความเร็วลมสูงสุด - 305 กม./ชม. (190 ไมล์ต่อชั่วโมง)
ไต้ฝุ่นเมกีก่อตัวเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2010 สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงเมื่อขึ้นฝั่งที่จังหวัดอิซาเบลา ทางตอนเหนือของเกาะลูซอนในฟิลิปปินส์ รวมถึงบางส่วนของไต้หวัน และจีนแผ่นดินใหญ่
ความเร็วลมสูงสุด - 305 กม./ชม. (190 ไมล์ต่อชั่วโมง)
ไต้ฝุ่นแนนซี่ก่อตัวเมื่อวันที่ 9 กันยายน 1961 เคยถูกบันทึกว่าเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดในโลก แต่ภายหลังมีการประเมินใหม่ว่าความเร็วลมที่รายงานไว้อาจสูงเกินจริงเนื่องจากวิธีการวัดในยุคนั้น มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 170 คน
ความเร็วลมสูงสุด - 305 กม./ชม. (190 ไมล์ต่อชั่วโมง)
เฮอริเคนอัลเลนก่อตัวเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 1980 เป็นหนึ่งในเฮอริเคนแอตแลนติกที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยบันทึกมา สร้างความเสียหายอย่างหนักในทะเลแคริบเบียน เม็กซิโก และรัฐเทกซัส
ความเร็วลมสูงสุด - 305 กม./ชม. (190 ไมล์ต่อชั่วโมง)
เฮอริเคนคามิลล์ก่อตัวเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 1969 เป็นหนึ่งในเฮอริเคนที่รุนแรงที่สุดที่พัดเข้าชายฝั่งสหรัฐฯ บริเวณรัฐมิสซิสซิปปีลุยเซียนา และเวอร์จิเนีย รวมถึงประเทศคิวบา โดยมีรายงานผู้เสียชีวิตกว่า 250 คน
ความเร็วลมสูงสุด - 300 กม./ชม. (185 ไมล์ต่อชั่วโมง) แต่บางรายงานบอก 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือ 200 ไมล์ต่อชั่วโมง
ก่อตัวเมื่อวันที่ 20 กันยายน 1958 เป็นพายุที่เลวร้ายที่สุดที่พัดถล่มญี่ปุ่นในรอบ 24 ปีขณะนั้น (โดยเฉพาะคาบสมุทรอิซุและพื้นที่รอบโตเกียว) มีรายงานผู้เสียชีวิตสูงถึง 1,269 ราย และมีบ้านเรือนกว่า 500,000 หลังถูกน้ำท่วม
ความเร็วลมสูงสุด - 300 กม./ชม. (185 ไมล์ต่อชั่วโมง) แต่บางรายงานบอก 335 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือ 205 ไมล์ต่อชั่วโมง
ไต้ฝุ่นไวลอเล็ตก่อตัวเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 1961 เป็นหนึ่งในพายุที่รุนแรงที่สุดในมหาสมุทร สร้างความเสียหายให้แก่เกาะกวม, โอกินาวา, และญี่ปุ่นแผ่นดินใหญ่ (โดยเฉพาะคาบสมุทรโบโซ ใกล้กรุงโตเกียว) แต่โชคดีที่ไต้ฝุ่นได้ลดความเร็วลงแล้วขณะขึ้นฝั่ง
ที่มา : Wikipedia, Google, Gemini, ChatGPT