สวัสดีครับเพื่อน ๆ พันทิป 🙏
หลังจากนั่งทำงานหนัก ๆ จนหลังแข็งเหมือนกระดาน ผมก็คิดว่าต้องพักตัวเองบ้าง เลยจองตั๋วเชียงรายแบบสายฟ้าแลบ 3 วัน 2 คืน
🌄 Day 1 – ถึงสนามบิน → เช็คอิน → เดินเล่นไนท์บาซาร์
ลงเครื่องแล้วเจออากาศเย็น ๆ คือดีมาก
แต่ทันทีที่ลากกระเป๋าเดินเข้าตัวเมือง…ไหล่เริ่มตึงเลยครับ เดินไปร้านกาแฟก่อนเข้าโรงแรมก็รู้สึกได้ว่าแบกกล้องกับกระเป๋าหนักเกินไปหน่อย
ระหว่างเดินผ่านร้านเล็ก ๆ ที่ขายของงานฝีมือ ผมหยิบขวดเล็ก ๆ ที่พกติดตัวแบบไม่ได้คิดอะไรออกมาฉีดแค่พอคลายรัด ๆ
แปลกดีนะ รู้สึกสบายขึ้นทันที แถมไม่มีกลิ่นฉุนอะไรด้วย เดินต่อแบบไม่รู้สึกเกร็งเหมือนตอนก่อนหน้านี้
หลังจากนั้นก็เลยพกมันติดตัวตลอดวัน เป็นเหมือน “เพื่อนร่วมทางเงียบ ๆ” ที่ช่วยให้เดินสบายขึ้นโดยไม่รู้ตัว
🛵 Day 2 – วัดร่องขุ่น → คาเฟ่กลางทาง → จุดชมวิวม่วงชมพู
วันนี้เช่ามอเตอร์ไซค์ขับไปวัดร่องขุ่น ขับไปหลายสิบกิโลไหล่ก็เริ่มเกร็งอีกละ
พอพักที่คาเฟ่กลางทาง ผมก็แอบหยิบขวดเล็ก ๆ เดิมฉีดนิดเดียว
มันไม่ได้เว่อร์แบบว้าว แต่พอทำให้ไหล่ผ่อนคลายและขับต่อได้เรื่อย ๆ โดยไม่ต้องพักยาว
ระหว่างทางก็สังเกตว่า เพื่อนร่วมทางหลายคนมีท่าทีเหมือนกำลังนวดคอหรือขยับไหล่บ่อย ๆ
ทำให้รู้สึกว่าของบางอย่างแค่ติดตัวไว้ก็ช่วยให้เดินทางสบายขึ้นโดยไม่ต้องคิดมาก
🌤️ Day 3 – วันชิล ๆ ก่อนกลับ
วันสุดท้ายไม่มีแพลนอะไรมาก นั่งคาเฟ่ จิบกาแฟ มองคนเดินผ่านไปมา
กระเป๋าพกของเล็ก ๆ ไว้หลายชิ้น รวมถึงขวดนั่นด้วย
พอไหล่เริ่มตึงเล็กน้อยก็หยิบออกมาใช้แบบอัตโนมัติ เหมือนมันเป็นส่วนหนึ่งของกระเป๋าที่พกติดตัวอยู่แล้ว
สรุปทริปนี้
เดินเยอะ ลุยหลายที่ แต่สิ่งเล็ก ๆ ที่เราพกติดตัวโดยไม่คิดอะไรมาก กลับช่วยให้ทริปไม่เหนื่อยเกินไป
มันไม่ได้เกี่ยวกับแบรนด์ หรือใครจะต้องใช้หรือไม่ แต่สำหรับผม…มันทำให้การเดินทางราบรื่นขึ้นโดยไม่รู้ตัวเลย
ทริปเชียงราย 3 วัน 2 คืน – เดินทางคนเดียว พักใจ และเดินเยอะจนเกือบเป็นตะคริว
หลังจากนั่งทำงานหนัก ๆ จนหลังแข็งเหมือนกระดาน ผมก็คิดว่าต้องพักตัวเองบ้าง เลยจองตั๋วเชียงรายแบบสายฟ้าแลบ 3 วัน 2 คืน
🌄 Day 1 – ถึงสนามบิน → เช็คอิน → เดินเล่นไนท์บาซาร์
ลงเครื่องแล้วเจออากาศเย็น ๆ คือดีมาก
แต่ทันทีที่ลากกระเป๋าเดินเข้าตัวเมือง…ไหล่เริ่มตึงเลยครับ เดินไปร้านกาแฟก่อนเข้าโรงแรมก็รู้สึกได้ว่าแบกกล้องกับกระเป๋าหนักเกินไปหน่อย
ระหว่างเดินผ่านร้านเล็ก ๆ ที่ขายของงานฝีมือ ผมหยิบขวดเล็ก ๆ ที่พกติดตัวแบบไม่ได้คิดอะไรออกมาฉีดแค่พอคลายรัด ๆ
แปลกดีนะ รู้สึกสบายขึ้นทันที แถมไม่มีกลิ่นฉุนอะไรด้วย เดินต่อแบบไม่รู้สึกเกร็งเหมือนตอนก่อนหน้านี้
หลังจากนั้นก็เลยพกมันติดตัวตลอดวัน เป็นเหมือน “เพื่อนร่วมทางเงียบ ๆ” ที่ช่วยให้เดินสบายขึ้นโดยไม่รู้ตัว
🛵 Day 2 – วัดร่องขุ่น → คาเฟ่กลางทาง → จุดชมวิวม่วงชมพู
วันนี้เช่ามอเตอร์ไซค์ขับไปวัดร่องขุ่น ขับไปหลายสิบกิโลไหล่ก็เริ่มเกร็งอีกละ
พอพักที่คาเฟ่กลางทาง ผมก็แอบหยิบขวดเล็ก ๆ เดิมฉีดนิดเดียว
มันไม่ได้เว่อร์แบบว้าว แต่พอทำให้ไหล่ผ่อนคลายและขับต่อได้เรื่อย ๆ โดยไม่ต้องพักยาว
ระหว่างทางก็สังเกตว่า เพื่อนร่วมทางหลายคนมีท่าทีเหมือนกำลังนวดคอหรือขยับไหล่บ่อย ๆ
ทำให้รู้สึกว่าของบางอย่างแค่ติดตัวไว้ก็ช่วยให้เดินทางสบายขึ้นโดยไม่ต้องคิดมาก
🌤️ Day 3 – วันชิล ๆ ก่อนกลับ
วันสุดท้ายไม่มีแพลนอะไรมาก นั่งคาเฟ่ จิบกาแฟ มองคนเดินผ่านไปมา
กระเป๋าพกของเล็ก ๆ ไว้หลายชิ้น รวมถึงขวดนั่นด้วย
พอไหล่เริ่มตึงเล็กน้อยก็หยิบออกมาใช้แบบอัตโนมัติ เหมือนมันเป็นส่วนหนึ่งของกระเป๋าที่พกติดตัวอยู่แล้ว
สรุปทริปนี้
เดินเยอะ ลุยหลายที่ แต่สิ่งเล็ก ๆ ที่เราพกติดตัวโดยไม่คิดอะไรมาก กลับช่วยให้ทริปไม่เหนื่อยเกินไป
มันไม่ได้เกี่ยวกับแบรนด์ หรือใครจะต้องใช้หรือไม่ แต่สำหรับผม…มันทำให้การเดินทางราบรื่นขึ้นโดยไม่รู้ตัวเลย