“หมอเจด” แนะ 5 เคล็ดลับชะลอความเสื่อมกระดูก-ข้อ อยู่กับเราไปนาน ๆ
หยุดแก่! หมอเจดเตือน! ถ้าข้อเริ่มดัง กระดูกเริ่มบาง...คุณอาจกำลังทำผิด 5 ข้อนี้! เปิดเคล็ดลับ ชะลอความเสื่อมกระดูกฟรี! ด้วยวิธีง่ายๆ ที่คนส่วนใหญ่มองข้าม!
เมื่อวันที่ 21 พ.ย. นายแพทย์เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช จังหวัดนครราชสีมา และเจ้าของเพจสุขภาพชื่อดัง “หมอเจด” ออกมาเตือนเรื่องสุขภาพสำหรับผู้สูงวัยหลายคนที่เริ่มสังเกตอาการข้อดัง กระดูกบาง หรือปวดเมื่อยเมื่อต้องเดินนาน ๆ
คุณหมอเจษฎ์ชี้ว่า ความจริงไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงขั้นนั้น เพราะเราสามารถชะลอความเสื่อมของกระดูกและข้อได้ง่าย ๆ ด้วย 5 วิธีสำคัญ
1. รับแดดเช้า เพิ่มวิตามินดี-3 ฟรีจากธรรมชาติ
วิตามินดี-3 ช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดี แนะนำเดินรับแสงแดดอ่อน ๆ 10–15 นาที ช่วง 7–9 โมงเช้า แค่เปิดบ้านให้อากาศถ่ายเทก็เพียงพอ
2. ขยับร่างกายทุกชั่วโมง ป้องกันข้อฝืด
การนั่งนิ่งนานเป็นศัตรูของข้อ แนะนำลุกเดิน ยืดแขนขา หมุนข้อเท้า หรือหมุนไหล่เบา ๆ ทุก 1 ชั่วโมง
3. กินอาหารไทยครบสี บำรุงกระดูก-ข้อ
อาหารไทยใกล้ตัว เช่น ปลาเล็กปลาน้อย เต้าหู้ งาดำ ใบชะพลู ผักสด และสมุนไพรแก้ปวดอักเสบ ช่วยบำรุงกระดูกและชะลอการเสื่อม
4. ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่ารอให้หิวน้ำ
น้ำช่วยหล่อลื่นข้อ ควรดื่มวันละ 6–8 แก้ว โดยเฉพาะผู้สูงวัยที่อาจไม่รู้สึกกระหายน้ำ
5. นอนหลับให้เพียงพอ = เวลาทองของการซ่อมแซมกระดูก
โกรทฮอร์โมนที่ช่วยซ่อมแซมกระดูกหลั่งขณะหลับ แนะนำเข้านอนก่อน 4 ทุ่ม ลดแสงและเสียงรบกวน พร้อมงดใช้โทรศัพท์ก่อนนอน 30 นาที
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
ระวังหกล้ม แม้เพียงครั้งเดียว การนั่งผิดท่า เช่น นั่งยอง ๆ พับเพียบ ขัดสมาธิ หรือใช้ยาแก้ปวดลดอักเสบต่อเนื่องโดยไม่ปรึกษาแพทย์
การดูแลกระดูกและข้อให้แข็งแรงไม่ซับซ้อน เพียงขยับร่างกาย กินอาหารครบ ดื่มน้ำเพียงพอ และนอนหลับให้พอดี ก็สามารถช่วยให้กระดูกและข้ออยู่กับเราไปนาน ๆ
สามารถติดตามต่อได้ที่ :
https://www.dailynews.co.th/news/5321769/
หน้าหนาวทีไร หลายคนอาบน้ำแบบไม่ระวัง เพราะคิดว่าแค่น้ำอุ่น ๆ คงไม่มีผลอะไร แต่จริง ๆ แล้ว “พฤติกรรมตอนอาบน้ำ” ส่งผลกับหัวใจโดยตรง ที่เส้นเลือดหดตัวง่าย หัวใจตอบสนองต่ออุณหภูมิไว และเสี่ยงความดันเหวี่ยง การอาบน้ำผิดวิธีอาจทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ความดันพุ่ง หรือเวียนหัวจนเป็นลมได้ วันนี้ผมเลยรวม 5 พฤติกรรมตอนอาบน้ำหน้าหนาวที่ทำให้หัวใจทำงานหนัก พร้อมเหตุผลแบบเข้าใจง่าย เพื่อให้เลี่ยงและอาบน้ำได้ปลอดภัยครับ
1. เปิดน้ำร้อนจัดทันที
ใครที่ชอบอาบน้ำร้อนจัดต้องระวังไว้เลยครับ เพราะอุณหภูมิร้อนจัดทำให้เส้นเลือดขยายตัวเร็วเกินไป ส่งผลให้หัวใจต้องสูบฉีดเลือดแรงขึ้นเพื่อปรับสมดุลทันที ถ้าเปลี่ยนจากอากาศเย็นไปเจอความร้อนเร็ว ๆ จะยิ่งทำให้หัวใจเต้นเร็ว ความดันแกว่ง และอาจเวียนหัวได้ โดยเฉพาะคนความดันสูงหรือมีโรคหัวใจ แนะนำวให้เปิดน้ำอุ่น “ระดับกลาง” ก่อน แล้วค่อย ๆ ปรับให้ร้อนขึ้นทีละนิดจะดีกว่าครับ
2. อาบน้ำทันทีหลังออกกำลังกาย
หลังออกกำลังกายมาหนัก ๆ หัวใจเต้นเร็วอยู่แล้วครับ ถ้ารีบอาบน้ำทันที โดยเฉพาะเจอน้ำร้อน ๆ จะทำให้เส้นเลือดขยายเร็วและหัวใจต้องทำงานหนักกว่าเดิม อาจเกิดหน้ามืดหรือหัวใจเต้นแรงผิดปกติได้ เพราะร่างกายยังไม่กลับสู่โหมดพัก แนะนำให้พักก่อน อย่างน้อย 15–20 นาที ให้ชีพจรลดลงแล้วค่อยอาบน้ำครับ
3. อาบตอนหิวจัดหรือหลังไม่ได้กินอะไรมานาน
ตอนหิวมาก ๆ ร่างกายเราจะมีน้ำตาลต่ำ เลือดไปเลี้ยงสมองน้อยอยู่แล้ว พอเจอน้ำร้อนทำให้เส้นเลือดขยาย ช่วงนี้หัวใจต้องสูบฉีดเพิ่มเพื่อรักษาความดัน เลยเกิดอาการหน้ามืด ใจสั่น หรือแม้กระทั่งเป็นลมในห้องน้ำได้ง่ายมาก ก่อนอาบน้ำควรจิบอะไรเบา ๆ รองท้องก่อน เช่น ขนมปังโฮลวีต 1–2 คำ เป็นต้น
4. อาบน้ำนานเกินไป (เกิน 15–20 นาที)
ใครที่ชอบแช่น้ำ หรืออาบน้ำนาน ๆ โดยเฉพาะน้ำอุ่น ทำให้เส้นเลือดขยายตัวต่อเนื่อง หัวใจต้องเร่งปั๊มเลือดเพื่อรักษาความดันให้คงที่ ความร้อนนานเกินไปยังทำให้เหนื่อยง่าย ใจสั่น และเกิดอาการมึนเพราะเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ ลองกำหนดเวลาอาบน้ำประมาณ 10–15 นาทีจะดีกว่าครับ
5. อาบน้ำทันทีหลังตื่นนอนตอนเช้า
ตอนตื่นใหม่ ๆ ความดันยังอยู่ในระดับต่ำและหัวใจยังไม่ตื่นเต็มที่ พอเจอน้ำอุ่นหรือร้อนทันทีจะทำให้หลอดเลือดขยายอย่างรวดเร็ว หัวใจต้องเร่งสูบฉีดทันที อาจทำให้หน้ามืด วิงเวียน หรือเต้นเร็วผิดจังหวะได้ โดยเฉพาะหน้าหนาวที่อุณหภูมิต่างกันมาก ควรลุกจากเตียงช้า ๆ ยืดตัว แล้วรอ 5–10 นาทีให้ระบบไหลเวียนปรับตัวครับ
หน้าหนาวเป็นช่วงที่ร่างกายตอบสนองต่ออุณหภูมิไวมาก พฤติกรรมตอนอาบน้ำหลายอย่างอาจทำให้หัวใจทำงานหนักแบบที่ไม่รู้ตัว เพียงปรับเล็กน้อย เช่น ไม่เปิดน้ำร้อนทันที ไม่อาบตอนหิวหรือหลังออกกำลังกาย และไม่อาบน้ำนานเกินไปด้วย แค่เลี่ยงตามนี้ก็ช่วยลดความเสี่ยงเวียนหัว ใจสั่น และลดภาวะแทรกซ้อนเกี่ยวกับหัวใจได้อย่างมากครับ
“หมอเจด” แนะ 5 เคล็ดลับชะลอความเสื่อมกระดูก-ข้อ อยู่กับเราไปนาน ๆ และ 5 อย่างอาบน้ำหน้าหนาวเพิ่มภาระหัวใจ
หยุดแก่! หมอเจดเตือน! ถ้าข้อเริ่มดัง กระดูกเริ่มบาง...คุณอาจกำลังทำผิด 5 ข้อนี้! เปิดเคล็ดลับ ชะลอความเสื่อมกระดูกฟรี! ด้วยวิธีง่ายๆ ที่คนส่วนใหญ่มองข้าม!
เมื่อวันที่ 21 พ.ย. นายแพทย์เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช จังหวัดนครราชสีมา และเจ้าของเพจสุขภาพชื่อดัง “หมอเจด” ออกมาเตือนเรื่องสุขภาพสำหรับผู้สูงวัยหลายคนที่เริ่มสังเกตอาการข้อดัง กระดูกบาง หรือปวดเมื่อยเมื่อต้องเดินนาน ๆ
คุณหมอเจษฎ์ชี้ว่า ความจริงไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงขั้นนั้น เพราะเราสามารถชะลอความเสื่อมของกระดูกและข้อได้ง่าย ๆ ด้วย 5 วิธีสำคัญ
1. รับแดดเช้า เพิ่มวิตามินดี-3 ฟรีจากธรรมชาติ
วิตามินดี-3 ช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดี แนะนำเดินรับแสงแดดอ่อน ๆ 10–15 นาที ช่วง 7–9 โมงเช้า แค่เปิดบ้านให้อากาศถ่ายเทก็เพียงพอ
2. ขยับร่างกายทุกชั่วโมง ป้องกันข้อฝืด
การนั่งนิ่งนานเป็นศัตรูของข้อ แนะนำลุกเดิน ยืดแขนขา หมุนข้อเท้า หรือหมุนไหล่เบา ๆ ทุก 1 ชั่วโมง
3. กินอาหารไทยครบสี บำรุงกระดูก-ข้อ
อาหารไทยใกล้ตัว เช่น ปลาเล็กปลาน้อย เต้าหู้ งาดำ ใบชะพลู ผักสด และสมุนไพรแก้ปวดอักเสบ ช่วยบำรุงกระดูกและชะลอการเสื่อม
4. ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่ารอให้หิวน้ำ
น้ำช่วยหล่อลื่นข้อ ควรดื่มวันละ 6–8 แก้ว โดยเฉพาะผู้สูงวัยที่อาจไม่รู้สึกกระหายน้ำ
5. นอนหลับให้เพียงพอ = เวลาทองของการซ่อมแซมกระดูก
โกรทฮอร์โมนที่ช่วยซ่อมแซมกระดูกหลั่งขณะหลับ แนะนำเข้านอนก่อน 4 ทุ่ม ลดแสงและเสียงรบกวน พร้อมงดใช้โทรศัพท์ก่อนนอน 30 นาที
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
ระวังหกล้ม แม้เพียงครั้งเดียว การนั่งผิดท่า เช่น นั่งยอง ๆ พับเพียบ ขัดสมาธิ หรือใช้ยาแก้ปวดลดอักเสบต่อเนื่องโดยไม่ปรึกษาแพทย์
การดูแลกระดูกและข้อให้แข็งแรงไม่ซับซ้อน เพียงขยับร่างกาย กินอาหารครบ ดื่มน้ำเพียงพอ และนอนหลับให้พอดี ก็สามารถช่วยให้กระดูกและข้ออยู่กับเราไปนาน ๆ
สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/5321769/