หลายครั้งเรามักได้ยินคำพูดทำนองว่า
"ถ้าไม่ผิดจะกลัวอะไร"
ฟังดูเรียบง่าย แต่พอเอาเข้าจริง โลกไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป
ประวัติศาสตร์และสังคมเต็มไปด้วยเรื่องราวของ แพะรับบาป คนที่ต้องรับผลกระทบจากสิ่งที่ไม่ได้ทำ คนเหล่านี้ถูกตำหนิ ถูกลงโทษ หรือถูกตราหน้าเพียงเพราะใครสักคนต้องการหาคนรับผิดแทน
ความกลัวจึงไม่ได้เกิดจากความผิดของตัวเราเสมอไป
มันเกิดจาก แรงกดดันของสังคม ความอยุติธรรม และความไม่แน่นอนของโลก
ลองคิดดู…
คนที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิด แม้จะบริสุทธิ์ ก็ต้องทนกับสายตาและคำพูดของคนรอบข้าง
คนที่ทำผิดจริงบางครั้งกลับไม่ถูกลงโทษอย่างที่ควรเป็น
โลกจึงเต็มไปด้วยความขัดแย้งระหว่าง ความจริง กับ ความเชื่อ/อคติของสังคม
คำว่า “ถ้าไม่ผิด จะกลัวอะไร” จึงเป็นเพียง อุดมคติของผู้ที่อยู่เหนือความกลัว
ในโลกความจริง บ่อยครั้งคนที่ไม่ผิดก็ยังต้องกลัว
และบางครั้ง คนที่ทำผิดก็อาจรอดพ้นจากผลลัพธ์ที่ควรจะเป็น
เรื่องนี้ทำให้เราต้องถามตัวเองว่า
เรากำลังใช้ความกลัวเป็นตัวชี้นำชีวิตตัวเองอยู่หรือไม่?
เรากำลังยอมรับความไม่ยุติธรรมเพียงเพราะกลัวผลลัพธ์หรือเปล่า?
หรือเราพยายามทำตัว“ดี” เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดจริง ๆ หรือเพราะกลัวความไม่เป็นธรรมของโลก?
ชีวิตจริงไม่ใช่เรื่องถูก-ผิดแบบสมบูรณ์แบบ
บางครั้งคนถูกลากเข้าเรื่องที่ไม่ได้ทำ
บางครั้งคนผิดก็สามารถลอยนวล
สิ่งที่เราทำได้คือ เข้าใจความไม่แน่นอนนี้ และเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันอย่างมีสติ (และเรียนรู้กฎหมายด้วย)
ถ้าคำว่า "ถ้าไม่ผิดจะกลัวอะไร" สามารถใช้ได้จริง โลกคงไม่รู้จักคำว่า "แพะรับบาป"
ฟังดูเรียบง่าย แต่พอเอาเข้าจริง โลกไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป
ประวัติศาสตร์และสังคมเต็มไปด้วยเรื่องราวของ แพะรับบาป คนที่ต้องรับผลกระทบจากสิ่งที่ไม่ได้ทำ คนเหล่านี้ถูกตำหนิ ถูกลงโทษ หรือถูกตราหน้าเพียงเพราะใครสักคนต้องการหาคนรับผิดแทน
ความกลัวจึงไม่ได้เกิดจากความผิดของตัวเราเสมอไป
มันเกิดจาก แรงกดดันของสังคม ความอยุติธรรม และความไม่แน่นอนของโลก
ลองคิดดู…
คนที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิด แม้จะบริสุทธิ์ ก็ต้องทนกับสายตาและคำพูดของคนรอบข้าง
คนที่ทำผิดจริงบางครั้งกลับไม่ถูกลงโทษอย่างที่ควรเป็น
โลกจึงเต็มไปด้วยความขัดแย้งระหว่าง ความจริง กับ ความเชื่อ/อคติของสังคม
คำว่า “ถ้าไม่ผิด จะกลัวอะไร” จึงเป็นเพียง อุดมคติของผู้ที่อยู่เหนือความกลัว
ในโลกความจริง บ่อยครั้งคนที่ไม่ผิดก็ยังต้องกลัว
และบางครั้ง คนที่ทำผิดก็อาจรอดพ้นจากผลลัพธ์ที่ควรจะเป็น
เรื่องนี้ทำให้เราต้องถามตัวเองว่า
เรากำลังใช้ความกลัวเป็นตัวชี้นำชีวิตตัวเองอยู่หรือไม่?
เรากำลังยอมรับความไม่ยุติธรรมเพียงเพราะกลัวผลลัพธ์หรือเปล่า?
หรือเราพยายามทำตัว“ดี” เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดจริง ๆ หรือเพราะกลัวความไม่เป็นธรรมของโลก?
ชีวิตจริงไม่ใช่เรื่องถูก-ผิดแบบสมบูรณ์แบบ
บางครั้งคนถูกลากเข้าเรื่องที่ไม่ได้ทำ
บางครั้งคนผิดก็สามารถลอยนวล
สิ่งที่เราทำได้คือ เข้าใจความไม่แน่นอนนี้ และเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันอย่างมีสติ (และเรียนรู้กฎหมายด้วย)