สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 20
โชคดีที่ผมตัดสินใจถูก ไม่ซื่อบ้าน และเปลี่ยนมาเช่าบ้านแทน ตั้งแต่เริ่มทำงานใหม่ๆ ไม่ซื้อรถ แล้วมานั่งรถเมล์ แทน เลยสามารถเก็บเงินได้ 1 ล้านแรกตอนอายุ 31 พอเกิดวิกฤต Hamburger Crisis ปี 2009 เอาเงินก้อนที่เก็บได้ ใส่เข้าไปในตลาดหุ้น ปัจจุบันปั้น port จนโตได้ 8 หลัก จะขายหุ้น แล้วซื้อบ้านเงินสด ตอนนี้เลยก็ยังได้ แต่เสียดายเงินปันผลลดลงเลยเก็บ หุ้นในport ไว้อย่างนั้น เพราะปกติได้ปันผลมา หลายแสนอยู่ จะเอามา reinvestได้อีก
ทุกวันนี้เช่าบ้านอยู่ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ล่าสุดเช่าบ้านอยู่มา 8 ปีแล้วเดิม เช่าเดือนละ 9,500 แต่ เจ้าของบ้านคงกลัวผมจะย้ายออก เลยรถค่าเช่า เหลือ 8,500 ซึ่ง 8 ปีอยู่มาค่าเช่าบ้านลดลง ถ้ามองใน ทาง financial เหมือนผมได้ discount เพราะโดยปกติ อส้งหาริมทรัพย์ ควรเพิ่มค่าเช่าทุกปี เท่าๆ กับเงินเฟ้อ
ทุกวันนี้เช่าบ้านอยู่ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ล่าสุดเช่าบ้านอยู่มา 8 ปีแล้วเดิม เช่าเดือนละ 9,500 แต่ เจ้าของบ้านคงกลัวผมจะย้ายออก เลยรถค่าเช่า เหลือ 8,500 ซึ่ง 8 ปีอยู่มาค่าเช่าบ้านลดลง ถ้ามองใน ทาง financial เหมือนผมได้ discount เพราะโดยปกติ อส้งหาริมทรัพย์ ควรเพิ่มค่าเช่าทุกปี เท่าๆ กับเงินเฟ้อ
แสดงความคิดเห็น
ถามคุณน้า คุณอาวัยเกษียณ มีใครที่เช่าบ้านวัยทำงาน เก็บเงิน แล้วก็ซื้อบ้านตอนเกษียณเงินสดไหมครับ?
ผมก็เลยสงสัยครับว่ามีใครมั้ยที่สมัยทำงานเช่าบ้านเอาใกล้ๆที่ทำงานเพื่อความยืดหยุ่น หนีปัญหาด้านบน แล้วก็เปลี่ยนงานได้ง่ายเมื่อมีโอกาสที่ดี มันก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ไม่เลวไหมครับ?
ถ้าสมมติเปรียบเทียบบ้านเหมือนกันสองที่เช่ากับซื้อ ผมคิดว่าค่าใช้จ่ายต่อเดือนของการเช่าบ้านน่าจะถูกกว่าซื้อ เพราะซื้อก็ต้องมีดูแลรักษาอะไรอีก นี่ยังไม่รวมเวลาที่ได้เพิ่มมาแต่ละวันด้วยเพราะสามารถเช่าใกล้ที่ทำงานหนีรถติด แล้วก็เอาส่วนต่างของค่าใช้จ่ายไปลงทุนได้ผลตอบแทน 3-5% ต่อปีระยะยาว (หลังหักเงินเฟ้อ) ในกองทุนรวมดัชนีผสมกับทอง 30 ปีดอกเบี้ยทบต้น ก็น่าจะพอซื้อบ้านเงินสด โดยเฉพาะต่างจังหวัด
คิดเห็นอย่างไรลองคุยกันนะครับ ขอมุมมองในมุมของมนุษย์เงินเดือนทั่วไปนะครับไม่ใช่นักลงทุน