ในงานปาร์ตี้ หรืองานเลี้ยงต่าง ๆ แน่นอนว่าต้องมีอาหารและเครื่องดื่มแบบจัดเต็ม โดยเฉพาะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ขาดไม่ได้ แม้ว่าการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะสร้างความสนุกภายในงาน แต่การดื่มในปริมาณมากจนเกินไปและบ่อยครั้ง หรือดื่มติดต่อกันเป็นเวลานานๆ ย่อมส่งผลเสียต่อสุขภาพ และอาจทำให้อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายเกิดภาวะผิดปกติได้ โดยเฉพาะ “ตับ” ที่ทำหน้าที่กำจัดสารพิษที่เข้าสู่ร่างกาย ซึ่งแน่นอนว่าการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากหรือบ่อยเกินไป จะทำให้ตับทำงานหนักมีโอกาสจะเกิดภาวะตับอักเสบ ตับแข็ง และเป็นมะเร็งตับในอนาคตได้ ดังนั้นเราควรจะปาร์ตี้อย่างไรไม่ให้ตับพังดี มีคำแนะนำมาฝาก
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำให้ตับอักเสบ ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำในปริมาณมากเป็นระยะเวลานาน จะเสี่ยงเป็นโรคตับมากกว่าใคร เนื่องจากแอลกอฮอล์ส่งผลให้ตับอักเสบโดยตรง และทำให้ไขมันสะสมในตับ เกิดการอักเสบและเกิดพังผืดในตับ ก่อให้เกิดภาวะตับแข็งตามมาในระยะยาวได้
วิธีพักตับหลังปาร์ตี้
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาจส่งผลให้ ตับ ทำงานหนักมากขึ้นเป็นพิเศษในการกำจัดของเสีย หลังปาร์ตี้มาพักตับ ดูแลฟื้นฟู เริ่มต้นง่าย ๆ เพียง
1. ดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อย 8-10 แก้ว/วัน พร้อมกับการพักผ่อนให้เพียงพอ
2. หลีกเลี่ยงหรืองดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งจะทำให้ตับฟื้นฟูและสามารถกลับมาปกติได้ใน 4-6 สัปดาห์
3. การควบคุมอาหาร รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ มีไขมันต่ำ กากใยสูง และให้พลังงานต่ำ
4. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อย 150-200 นาที/สัปดาห์
5. การตรวจสุขภาพประจำปี พร้อมกับตรวจสุขภาพตับ ด้วยเครื่องไฟโบรสแกน (Fibroscan)
ตรวจสุขภาพตับด้วยเครื่องไฟโบรสแกน (Fibroscan)
เมื่อดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมากและต่อเนื่องจะส่งผลต่อการเกิดโรคตับ โดยระยะแรกเกิดภาวะไขมันพอกตับจากแอลกอฮอล์ ซึ่งระยะนี้มักไม่มีอาการ ฉะนั้นนอกจากการพักตับและฟื้นฟูตับแล้ว การเข้ารับการตรวจภาวะไขมันพอกตับด้วยเครื่องไฟโบรสแกน (Fibroscan) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในการตรวจโรคเกี่ยวกับตับโดยจะใช้เพื่อตรวจหาไขมันที่สะสมอยู่ในตับและภาวะพังผืดในเนื้อตับโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในการตรวจสุขภาพตับในผู้ที่มีความเสี่ยง แม้ไม่มีอาการ เพราะยิ่งตรวจก่อน ยิ่งทำให้การรักษาได้ทันและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ประโยชน์ของการตรวจไฟโบรสแกน (FibroScan)
1. ใช้ในการตรวจวินิจฉัยสภาพการแข็งตัวของตับและระดับความรุนแรงของไขมันเกาะตับ โดยไม่ต้องเจาะชิ้นเนื้อตับเพื่อลดความเสี่ยงต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นโดยผู้ป่วยจะไม่ได้รับความเจ็บปวดใดๆ
2. ใช้ในการติดตามระยะของโรคตับ เพื่อแพทย์ใช้ประเมินและวางแผนการรักษา ซึ่งได้รับผลตรวจ ที่รวดเร็วและแม่นยำ
3. สามารถใช้แทนการเจาะตับในผู้ป่วยที่มีข้อห้ามหรือปฏิเสธการเจาะตับ ทำให้ลดภาวะแทรกซ้อนและลดอัตราการเข้าพักฟื้นในโรงพยาบาลได้
ขั้นตอนการตรวจไฟโบรสแกน เรียบง่าย ไม่ยุ่งยาก
1. งดอาหารอย่างน้อย 4 ชั่วโมง ก่อนทำการตรวจ
2. ผู้เข้ารับการตรวจจะต้องนอนหงายลงบนเตียงที่ทางโรงพยาบาลเตรียมไว้ โดยให้ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นไว้เหนือศีรษะของตนเอง
3. แพทย์จะทาเจลที่หัวตรวจหรือผิวหนังของผู้เข้ารับการตรวจเล็กน้อย ซึ่งเป็นตัวช่วยที่จะทำให้ผลในการตรวจมีประสิทธิภาพมากขึ้น
4. ใช้เครื่องมือตรวจไฟโบรสแกนตรวจวัดที่บริเวณกลางเนื้อตับ ประมาณ 10 ครั้งในจุดเดียวกัน
5. ขณะตรวจผู้ป่วยจะรุ้สึกสั่นสะเทือนบริเวณผิวหนังเล็กน้อย ไม่เกิดความเจ็บปวดใดๆ
6. ใช้เวลาตรวจประมาร 10-15 นาที
7. รอผลที่ได้ โดยแพทย์จะแปลข้อมูลจากผลให้ผู้รับการตรวจทราบ พร้อมให้คำแนะนำ ซึ่งหากพบว่ามีภาวะพังผืดและไขมันในตับสูง ก็จะส่งตัวเข้าสู่กระบวนการรักษาต่อ
ข้อห้ามในการตรวจไฟโบรสแกน
- ห้ามใช้ตรวจอวัยวะอื่นๆ
- ห้ามใช้กับผู้ที่มีภาวะท้องมาน
- ห้ามใช้กับหญิงตั้งครรภ์
- ห้ามใช้กับผู้ป่วยที่ติดอุปกรณ์ในร่างกาย
สำหรับการตรวจรักษาด้วยเครื่องไฟโบรสแกนไม่มีอาการเจ็บปวดหรืออันตรายใดๆ ทั้งสิ้น โดยจะใช้เวลาเพียงไม่นาน แต่ในขณะตรวจอาจจะรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนบริเวณผิวหนังที่สัมผัสกับปลายหัวตรวจเล็กน้อย เพราะฉะนั้นสำหรับใครที่ต้องตรวจเช็คสุขภาพตับด้วยเครื่องไฟโบรสแกนก็หมดกังวลไปได้เลย แถมยังสามารถตรวจซ้ำได้หลายครั้งโดยไม่เป็นอันตรายอีกด้วย
ปาร์ตี้หนัก มาพักตับกันไหม พร้อมกับตรวจสุขภาพตับด้วยไฟโบรสแกน (Fibroscan)
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำให้ตับอักเสบ ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำในปริมาณมากเป็นระยะเวลานาน จะเสี่ยงเป็นโรคตับมากกว่าใคร เนื่องจากแอลกอฮอล์ส่งผลให้ตับอักเสบโดยตรง และทำให้ไขมันสะสมในตับ เกิดการอักเสบและเกิดพังผืดในตับ ก่อให้เกิดภาวะตับแข็งตามมาในระยะยาวได้
วิธีพักตับหลังปาร์ตี้
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาจส่งผลให้ ตับ ทำงานหนักมากขึ้นเป็นพิเศษในการกำจัดของเสีย หลังปาร์ตี้มาพักตับ ดูแลฟื้นฟู เริ่มต้นง่าย ๆ เพียง
1. ดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อย 8-10 แก้ว/วัน พร้อมกับการพักผ่อนให้เพียงพอ
2. หลีกเลี่ยงหรืองดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งจะทำให้ตับฟื้นฟูและสามารถกลับมาปกติได้ใน 4-6 สัปดาห์
3. การควบคุมอาหาร รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ มีไขมันต่ำ กากใยสูง และให้พลังงานต่ำ
4. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อย 150-200 นาที/สัปดาห์
5. การตรวจสุขภาพประจำปี พร้อมกับตรวจสุขภาพตับ ด้วยเครื่องไฟโบรสแกน (Fibroscan)
ตรวจสุขภาพตับด้วยเครื่องไฟโบรสแกน (Fibroscan)
เมื่อดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมากและต่อเนื่องจะส่งผลต่อการเกิดโรคตับ โดยระยะแรกเกิดภาวะไขมันพอกตับจากแอลกอฮอล์ ซึ่งระยะนี้มักไม่มีอาการ ฉะนั้นนอกจากการพักตับและฟื้นฟูตับแล้ว การเข้ารับการตรวจภาวะไขมันพอกตับด้วยเครื่องไฟโบรสแกน (Fibroscan) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในการตรวจโรคเกี่ยวกับตับโดยจะใช้เพื่อตรวจหาไขมันที่สะสมอยู่ในตับและภาวะพังผืดในเนื้อตับโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในการตรวจสุขภาพตับในผู้ที่มีความเสี่ยง แม้ไม่มีอาการ เพราะยิ่งตรวจก่อน ยิ่งทำให้การรักษาได้ทันและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ประโยชน์ของการตรวจไฟโบรสแกน (FibroScan)
1. ใช้ในการตรวจวินิจฉัยสภาพการแข็งตัวของตับและระดับความรุนแรงของไขมันเกาะตับ โดยไม่ต้องเจาะชิ้นเนื้อตับเพื่อลดความเสี่ยงต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นโดยผู้ป่วยจะไม่ได้รับความเจ็บปวดใดๆ
2. ใช้ในการติดตามระยะของโรคตับ เพื่อแพทย์ใช้ประเมินและวางแผนการรักษา ซึ่งได้รับผลตรวจ ที่รวดเร็วและแม่นยำ
3. สามารถใช้แทนการเจาะตับในผู้ป่วยที่มีข้อห้ามหรือปฏิเสธการเจาะตับ ทำให้ลดภาวะแทรกซ้อนและลดอัตราการเข้าพักฟื้นในโรงพยาบาลได้
ขั้นตอนการตรวจไฟโบรสแกน เรียบง่าย ไม่ยุ่งยาก
1. งดอาหารอย่างน้อย 4 ชั่วโมง ก่อนทำการตรวจ
2. ผู้เข้ารับการตรวจจะต้องนอนหงายลงบนเตียงที่ทางโรงพยาบาลเตรียมไว้ โดยให้ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นไว้เหนือศีรษะของตนเอง
3. แพทย์จะทาเจลที่หัวตรวจหรือผิวหนังของผู้เข้ารับการตรวจเล็กน้อย ซึ่งเป็นตัวช่วยที่จะทำให้ผลในการตรวจมีประสิทธิภาพมากขึ้น
4. ใช้เครื่องมือตรวจไฟโบรสแกนตรวจวัดที่บริเวณกลางเนื้อตับ ประมาณ 10 ครั้งในจุดเดียวกัน
5. ขณะตรวจผู้ป่วยจะรุ้สึกสั่นสะเทือนบริเวณผิวหนังเล็กน้อย ไม่เกิดความเจ็บปวดใดๆ
6. ใช้เวลาตรวจประมาร 10-15 นาที
7. รอผลที่ได้ โดยแพทย์จะแปลข้อมูลจากผลให้ผู้รับการตรวจทราบ พร้อมให้คำแนะนำ ซึ่งหากพบว่ามีภาวะพังผืดและไขมันในตับสูง ก็จะส่งตัวเข้าสู่กระบวนการรักษาต่อ
ข้อห้ามในการตรวจไฟโบรสแกน
- ห้ามใช้ตรวจอวัยวะอื่นๆ
- ห้ามใช้กับผู้ที่มีภาวะท้องมาน
- ห้ามใช้กับหญิงตั้งครรภ์
- ห้ามใช้กับผู้ป่วยที่ติดอุปกรณ์ในร่างกาย
สำหรับการตรวจรักษาด้วยเครื่องไฟโบรสแกนไม่มีอาการเจ็บปวดหรืออันตรายใดๆ ทั้งสิ้น โดยจะใช้เวลาเพียงไม่นาน แต่ในขณะตรวจอาจจะรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนบริเวณผิวหนังที่สัมผัสกับปลายหัวตรวจเล็กน้อย เพราะฉะนั้นสำหรับใครที่ต้องตรวจเช็คสุขภาพตับด้วยเครื่องไฟโบรสแกนก็หมดกังวลไปได้เลย แถมยังสามารถตรวจซ้ำได้หลายครั้งโดยไม่เป็นอันตรายอีกด้วย