ความคิดเห็นจาก Expert Account
ความคิดเห็นที่ 6

เดาว่า น่าจะเป็น สันหน้าแข้งอักเสบ (Shin splint syndrome)
มีความเจ็บปวดบริเวณหน้าแข้งด้านในตอนล่าง เป็นโรคที่เกิดจากการใช้งานมากเกินไป จนบริเวณนั้นทนไม่ได้ เช่น ไม่นึกถึงสังขาร ซึ่งฟิตไม่พอสำหรับการวิ่งนั้นๆ
มักพบในพวก ที่เริ่มหัดวิ่งใหม่ๆ นักวิ่งที่วิ่งบนพื้นแข็ง หรือใส่รองเท้าที่พื้นรองรับเท้าแข็ง และพบในนักวิ่ง ที่โครงสร้างของเท้า เป็นแบบคว่ำบิดออกนอก จะทำให้เกิดแรงกระแทก หรือบิดที่บริเวณหน้าแข้ง มีผลต่อกล้ามเนื้อ และเยื่อหุ้มกระดูกบริเวณนั้น ทำให้เกิดการอักเสบขึ้น
ถ้ายังฝืนวิ่งต่อไปอีก ทั้งที่มีอาการแล้ว จะด้วยสาเหตุใดก็ตาม จะมีอาการรุนแรง ถึงกับมีการร้าวแตกของกระดูกบริเวณนั้นได้
อาการที่เกิดขึ้นนี้ จะค่อยเป็นค่อยไป เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อาจจะเกิดภายหลังการหยุดพักวิ่งแล้วก็ได้
ฉะนั้นเมื่อทราบอาการเช่นนี้แล้ว จึงควรพักรักษาตัว อย่าฝืนวิ่ง หรือฝึกต่อไปอีก
บาดเจ็บจากการวิ่ง....ตอนที่ 3 เจ็บขา.... โดย ศ.นพ. ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์
https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=04-02-2009&group=6&gblog=24

เดาว่า น่าจะเป็น สันหน้าแข้งอักเสบ (Shin splint syndrome)
มีความเจ็บปวดบริเวณหน้าแข้งด้านในตอนล่าง เป็นโรคที่เกิดจากการใช้งานมากเกินไป จนบริเวณนั้นทนไม่ได้ เช่น ไม่นึกถึงสังขาร ซึ่งฟิตไม่พอสำหรับการวิ่งนั้นๆ
มักพบในพวก ที่เริ่มหัดวิ่งใหม่ๆ นักวิ่งที่วิ่งบนพื้นแข็ง หรือใส่รองเท้าที่พื้นรองรับเท้าแข็ง และพบในนักวิ่ง ที่โครงสร้างของเท้า เป็นแบบคว่ำบิดออกนอก จะทำให้เกิดแรงกระแทก หรือบิดที่บริเวณหน้าแข้ง มีผลต่อกล้ามเนื้อ และเยื่อหุ้มกระดูกบริเวณนั้น ทำให้เกิดการอักเสบขึ้น
ถ้ายังฝืนวิ่งต่อไปอีก ทั้งที่มีอาการแล้ว จะด้วยสาเหตุใดก็ตาม จะมีอาการรุนแรง ถึงกับมีการร้าวแตกของกระดูกบริเวณนั้นได้
อาการที่เกิดขึ้นนี้ จะค่อยเป็นค่อยไป เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อาจจะเกิดภายหลังการหยุดพักวิ่งแล้วก็ได้
ฉะนั้นเมื่อทราบอาการเช่นนี้แล้ว จึงควรพักรักษาตัว อย่าฝืนวิ่ง หรือฝึกต่อไปอีก
บาดเจ็บจากการวิ่ง....ตอนที่ 3 เจ็บขา.... โดย ศ.นพ. ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์
https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=04-02-2009&group=6&gblog=24
แสดงความคิดเห็น
วิ่งแล้วปวดที่เดิมตลอด