ถูกงูกัด ต้องทำยังไง? "5 ข้อห้าม" ที่หลายคนยังเข้าใจผิด อาจทำพิษวิ่งเข้าสู่ร่างกายเร็วขึ้น!










สวัสดีค่ะ ชาวพันทิปทุกคน! โดยเฉพาะคนที่ชอบทำกิจกรรมนอกบ้าน หรือมีบ้านพักอยู่ใกล้ธรรมชาติ โพสต์นี้สำคัญมาก!
เวลาพูดถึง "งูกัด" เชื่อว่าหลายคนยังมีความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นอยู่ เช่น การดูดพิษ หรือการขันชะเนาะ ซึ่งจริงๆ แล้วการกระทำเหล่านี้ อาจอันตรายกว่าที่คิด และทำให้ผลลัพธ์แย่ลงได้ค่ะ!
วันนี้เลยอยากมาแชร์ข้อมูลสำคัญที่ควรรู้ไว้ก่อนสายนะคะ:

🚫 5 ข้อห้าม! ที่ห้ามทำเด็ดขาดเมื่อถูกงูกัด 🚫

ห้ามรัดหรือขันชะเนาะแผล: การทำแบบนี้ไม่ได้ช่วยหยุดพิษ แต่จะทำให้เลือดคั่ง เนื้อเยื่อขาดเลือด และเสี่ยงต่อภาวะเนื้อตาย (Necrosis) แถมอาจทำให้พิษกระจายไปพร้อมกับเลือดที่กลับเข้าสู่ร่างกายเมื่อคลายออกค่ะ
ห้ามดูดพิษด้วยปาก: เสี่ยงที่พิษจะเข้าสู่ร่างกายเราผ่านทางแผลในช่องปาก หรือช่องเหงือกได้เลยค่ะ
ห้ามใช้แอลกอฮอล์/น้ำยาฆ่าเชื้อแรงๆ/ยาทาแผล: อาจทำให้แผลระคายเคืองและบางกรณีอาจเร่งการดูดซึมพิษด้วย
ห้ามใช้สมุนไพร พอก ทา หรือฝานหอมใส่แผล: เสี่ยงติดเชื้อสูงมาก ทำให้แพทย์รักษาได้ยากขึ้นค่ะ
ห้ามฉีดยาหรือให้ยาฆ่าเชื้อเอง: การดูแลทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น

✅ สิ่งที่ "ควรทำ" เมื่อถูกงูกัด (เน้นการชะลอพิษ)

อยู่นิ่งที่สุด: ไม่ขยับแขนขาที่ถูกกัด เพราะการขยับจะทำให้พิษกระจายเร็วขึ้น
ทำความสะอาด: ล้างแผลด้วยน้ำสะอาดอย่างเบามือ
พันแผลหลวมๆ: พันผ้าหรือใช้ผ้าสะอาดคลุมแผลแบบหลวมๆ
จดจำ/ถ่ายรูปงู: ถ้าทำได้อย่างปลอดภัย ให้สังเกตลักษณะงู เพื่อแจ้งแพทย์อย่างรวดเร็ว (สำคัญมากในการเลือกใช้เซรุ่ม!)
นำส่งโรงพยาบาลทันที! 🏥 (ย้ำว่าต้อง "ทันที")
งูกัดคือภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ค่ะ! อย่าพยายามรักษาตัวเองหรือใช้วิธีผิดๆ ที่ได้ยินมา เพราะทุกนาทีมีความหมายจริงๆ ค่ะ
ขอให้ทุกคนปลอดภัยนะคะ! 🙏
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่