กฎหมายคุ้มครองแรงงานฉบับที่ 9 เพิ่มสิทธิลาเหตุจำเป็นของครอบครัว แยกการลาตรวจสุขภาพออกจากวันลาป่วย และกำหนดให้นายจ้างคงสถานภาพการจ้างระหว่างการลาตามสิทธิ
ราชกิจจานุเบกษาได้ประกาศพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2568 เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 โดยเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ในประเด็นสิทธิการลาหยุดและการคุ้มครองสถานภาพการจ้างของลูกจ้าง
สาระสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ คือการแยกสิทธิการลาตรวจสุขภาพและพักฟื้นของลูกจ้างหญิงที่ตั้งครรภ์ออกจากวันลาป่วย ซึ่งก่อนหน้านี้ต้องใช้โควตาวันลาป่วยจำนวน 30 วันตามสิทธิเดิม โดยการแก้ไขครั้งนี้ระบุให้สามารถลาหยุดตามคำแนะนำแพทย์ได้โดยไม่นับรวมกับวันลาป่วย
นอกจากนี้ กฎหมายฉบับใหม่ยังเพิ่มเติมสิทธิการลาหยุดเพื่อดูแลบุคคลในครอบครัวที่มีเหตุจำเป็น เช่น คู่สมรส บุตร หรือบุพการี โดยกำหนดให้สถานประกอบการต้องคงสถานภาพการจ้างระหว่างการลาตามสิทธิ ทั้งนี้ จำนวนวันลาประเภทดังกล่าวจะกำหนดโดยประกาศของกระทรวงแรงงานต่อไป ซึ่งต้องไม่น้อยกว่ามาตรฐานขั้นต่ำที่กำหนดในพระราชบัญญัตินี้
กล่าวคือ หญิงมีครรภ์สามารถลาคลอดได้ไม่เกิน 120 วัน จากเดิม 98 วัน คู่สมรสมีสิทธิลาช่วยดูแลหลังคลอดได้ไม่เกิน 15 วัน โดยกฎหมายใหม่จะมีผลเมื่อพ้น 30 วันนับแต่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา หรือวันที่ 7 ธันวาคม 2568
สำหรับหน่วยงานของรัฐและรัฐวิสาหกิจ ยังคงใช้หลักเกณฑ์เฉพาะของแต่ละหน่วยงานได้ แต่ต้องไม่ต่ำกว่าหลักเกณฑ์ขั้นต่ำในกฎหมายฉบับนี้
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ :
https://www.prachachat.net/sd-plus/sdplus-hr/news-1916898
เปิดสิทธิ พ.ร.บ.แรงงานฉบับใหม่ เพิ่มรับรองการลาเพื่อดูแลครอบครัว
ราชกิจจานุเบกษาได้ประกาศพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2568 เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 โดยเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ในประเด็นสิทธิการลาหยุดและการคุ้มครองสถานภาพการจ้างของลูกจ้าง
สาระสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ คือการแยกสิทธิการลาตรวจสุขภาพและพักฟื้นของลูกจ้างหญิงที่ตั้งครรภ์ออกจากวันลาป่วย ซึ่งก่อนหน้านี้ต้องใช้โควตาวันลาป่วยจำนวน 30 วันตามสิทธิเดิม โดยการแก้ไขครั้งนี้ระบุให้สามารถลาหยุดตามคำแนะนำแพทย์ได้โดยไม่นับรวมกับวันลาป่วย
นอกจากนี้ กฎหมายฉบับใหม่ยังเพิ่มเติมสิทธิการลาหยุดเพื่อดูแลบุคคลในครอบครัวที่มีเหตุจำเป็น เช่น คู่สมรส บุตร หรือบุพการี โดยกำหนดให้สถานประกอบการต้องคงสถานภาพการจ้างระหว่างการลาตามสิทธิ ทั้งนี้ จำนวนวันลาประเภทดังกล่าวจะกำหนดโดยประกาศของกระทรวงแรงงานต่อไป ซึ่งต้องไม่น้อยกว่ามาตรฐานขั้นต่ำที่กำหนดในพระราชบัญญัตินี้
กล่าวคือ หญิงมีครรภ์สามารถลาคลอดได้ไม่เกิน 120 วัน จากเดิม 98 วัน คู่สมรสมีสิทธิลาช่วยดูแลหลังคลอดได้ไม่เกิน 15 วัน โดยกฎหมายใหม่จะมีผลเมื่อพ้น 30 วันนับแต่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา หรือวันที่ 7 ธันวาคม 2568
สำหรับหน่วยงานของรัฐและรัฐวิสาหกิจ ยังคงใช้หลักเกณฑ์เฉพาะของแต่ละหน่วยงานได้ แต่ต้องไม่ต่ำกว่าหลักเกณฑ์ขั้นต่ำในกฎหมายฉบับนี้
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.prachachat.net/sd-plus/sdplus-hr/news-1916898