มาต่อกันจากตอนที่แล้วครับ มันยาวเลยต้องมาต่ออีกตอน..
วันที่24มีนาคม2566 วันสุดท้ายที่ต้องเลือกระหว่างไปจากที่นี้ ไม่ก็ตาย กับ ย้อนกลับไปกินมันอีก วันที่5ของการเลิกกระท่อมแบบหักดิบ วันนี้ก็หยุดงานอีกวันสภาพเหมือนลูกหมาใกล้ตาย ไม่มีอะไรเบาลงเลยจากวันแรกจนถึงวันนี้ ไม่ได้นอนเหมือนเคยเดินวนไปมาในบ้านเหมือนเคย วันนี้ความคิดย้อนกลับ ว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่ตาย ก็หายไปเลย จะไปไหนดีนะ จะตายยังไงละ จะกลับไปกินดีไหมนะ ไม่อยากอยู่แล้วอะ ในหัววนเวียนอยู่เท่านี้ กินเหล้าตั้งแต่เช้านอนไม่ได้เดินต่อในบ้านทำแบบนั้นตั้งแต่เช้า เดินๆนั่งๆสูบบุหรี่ วนเวียนอยู่แบบนั้น พูดง่ายๆไร้ค่าไปแล้ว แต่การเดินของผมที่ผ่านมามันช่วยให้จิตใจที่ล่องลอยมันลอยไปไม่ไกลเรายังสามรถดึงมันกับมาให้อยู่กับเราได้ เราแค่หลุดไปชั่วขณะที่เราเจ็บหนัก ทรมานหนัก แล้วเราหยุดเดินก็เลยจิตหลุดเพราะการอดนอนหลายวัน และเป็นคนจิตใจอ่อนไหวง่ายจึงถูกทำลายง่ายๆ จนถึงตอนบ่าย ความปวดทรมานยังไม่ลดลงก็ยังนอนไม่ได้พยามเท่าไหร่ก็ไม่ได้โดนความเจ็บปวดดึงไว้ไม่ให้นอน จนร้องไห้ออกมาอยู่คนเดียว พอร้องไห้ผมก็เดิน เดิน ยิ่งร้องก็ยิ่งเดินวนเวียนไปมาให้เร็วขึ้นเหมือนสติแตก เดินร้องเดินร้อง ในหัวคิดวนเวียนไปมากับตัวเลือกที่เหลืออยู่ ไม่รู้ว่าเป็นแบบนั้นอยู่นานแค่ไหน แต่ผมเดินจนไม่รู้ว่าตัวเองหยุดร้องไห้ไปตอนไหน เดินช้าลงจนมานั่งตอนไหนก็ไม่รู้ ความเจ็บปวดยังอยู่ แต่เหมือนได้พักให้ได้คิด ตอนนั้นใจเย็นลงมาก แต่ตัวเลือกที่เหลือกลับไม่ใช่แบบที่ผมเคยต้องการ……ครับ ผมแพ้ให้กับมัน ความคิดตอนนั้นคือไม่รู้ต้องทรมานไปอีกกี่วัน หากสติแตกกว่านี้การเดินไปมาจะช่วยได้ไหม สติแตกทำอะไรเลยเถิดไปจะทำไง มันคุ้มที่จะเสี่ยงไหมนะ ไอ้ความทรมานทางกายนะทนได้ แต่ทางใจและความคิดถ้าถูกทำลายมันไม่ไหวจริงๆ ผมตัดสินใจกลับไปกินมันอีกเดินไปที่บ้านน้องแฟนเด็ดใบมากิน1ใบ ทุกอย่างผ่อนคลายลงใน5นาที ผมได้ความคิดกลับคืน จิตใจกลับคืน ร้อยยิ้มกลับคืน โลกที่สดใสกลับคืน ร่างกายที่ทรมานมาตลอด5วันหายในทันทีที่กินใบที่2เข้าไป มันกำลังมอบรางวัลให้เราที่ไม่ทิ้งมันไป หรือ?มันจะมอบโอกาสให้ผมได้เอาชนะมันอีกในครั้งต่อไป มันเอาชนะผมด้วยการทรมานทางร่างกายจนผมนอนไม่ได้เลย ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืนเมื่อนอนไม่ได้ขั้นตอนต่อไปก็ทำงานทันทีเมื่อการพักผ่อนไม่เพียงพอก็อาการหลอนจิตหลุด สติหลุด หากไม่เดินวนไปวนมาในบ้าน มัวแต่นอนทรมาน ผมคงเอามีดปาดคอตัวเองตายไปแล้ว มันคงเป็นการแก้ตัวที่ผมไม่สามารถชนะตัวเองได้ อ้างคิดแบบนั้นแบบนี่ อ้างว่ากระท่อมมันให้เราเลือกได้เท่านั่นเท่านี่ แท้ที่จริงแล้วเราแพ้เราเองต่างหาก ตกเย็นผมก็ยอมรับกับแฟนผมตรงๆว่าผมทนไม่ไหวเลิกไม่ได้ ขอโทษนางที่ผมทำตามสัญญาไม่ได้ นางบอกผมว่า(เลิกไม่ได้แล้วสภาพนี้) ผมจึงให้คำมั่นสัญญาว่าจะเลิกให้ได้ต้องเลิกให้ได้แต่ขอเวลาหน่อย แฟนผมก็เลยบอกแน่นะได้จะรอดู…….
หลังจากล้มเหลวในการเลิกแบบหักดิบผมก็กลับมาต้มกระท่อมกินต่อ ทีนี้กินมากกว่าเก่าต้มกินเองด้วยซื้อด้วย ในระหว่างที่กินมาตลอด แฟนก็ถามผมตลอดว่าจะเลิกได้ยังไหนสัญญาว่าจะเลิก ผมก็พูดคำเดิมตลอดว่า เออขอเวลาอีกนิดจนหลังๆมาช่วงกลางปี2567แฟนก็เริ่มพูดเรื่องสมรรถภาพทางเพศ อย่างที่ผมเคยเขียนไว้ในข้อเสียของกระท่อมข้อที่2.(สมรรถภาพทางเพศเสื่อม)นี้แหละครับสาเหตุที่ผมต้องพิจารณาตนเองอีกครั้ง หลังจากที่หักดิบไม่สำเร็จพูดตรงๆเลยว่าผมไม่คิดเลิกกินกระท่อมเลย ไอ้ที่อ้างขอเวลาก็อ้างไปงั้น เพราะกลัวความเจ็บปวดที่เคยเจอมาเมื่อตอนหักดิบ แต่หลังๆมาทะเลาะกับแฟนเรื่องไม่ส่งการบ้าน ส่งก็ส่งไม่ถึง อ่อนซะก่อน 1เดือนมีครั้งเดียวบ้าง2เดือนครั้งบ้าง ถึงขั้นทะเลาะกันบ่อยมาก ทุกครั้งที่ทะเลาะกันผมรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของนาง แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังไม่คิดจะเลิก พูดมานี้ไม่อายเลยครับผมไม่หายาปลุกไอ้จ้อมาใช้เพื่อทดแทนจุดเสียจุดนี้ แหมผมนี้มันมึนสุดๆยังไงก็ไม่ยอมเลิกกระท่อม ที่แรกซื้อยาปลุกมามันก็ได้ผลดีถึงจะแพงแต่อย่างน้อยก็ช่วยได้ แต่แค่เดือนเดียวครับ พอเดือนที่2-3มันไม่ลุกอีกละเหมือนดื้อยาทั้งที่ราคาก็แพงแต่ไม่ได้ผล ที่นี้จะหาที่แรงกว่าก็แพงเกินไป จนวาระจนมุมของผมมาถึง แฟนผมถามผมแบบสิ้นหวังว่าถามจริงๆจะเลิกได้ไหม ถ้าแบบนี้จะอยู่ไปกันยังไง เขาบอกเขาห่วงผมมาตลอดปรึกษาคนนั้นคนนี้มาตลอด กลัวผมจะเป็นเหมือนในข่าวต่อให้ผมเถียงยกข้ออ้างอะไรเขาก็ยังห่วงผมเสมอชีวิตผมก็สำคัญกับเขา ไอ้เรื่องการบ้านมันก็สำคัญจะให้เขาไปพูดกับใครก็ไม่ได้นอกจากผม จะให้ไปลงที่คนอื่นหรือไง (กูมีคนนะกุไม่อยากมีใครอีก) จบคำพูดในวงเล็บ..ผมพูดกลับไปว่า..ก่อนปีใหม่ที่เราจะไปเที่ยวเหนือผมสัญญาว่าจะเลิกให้ได้ก่อนปีใหม่ รอบนี่จะทำให้ได้ตายเป็นตาย หลังจากนั้นผมก็ยังไม่ได้เลิกแต่เริ่มศึกษาหาวิธีที่จะเลิกมันโดยทรมานน้อยที่สุด ทั้งที่ผมควรจะศึกษาแต่ปีที่แล้วแท้ๆ หลังผ่านเหตุการณ์นั้นมา เดือนกันยายน2567ผมก็พร้อมที่จะเลิกกระท่อมแบบค่อยๆลดปริมาณการกินลง….ตอนต่อไปคงเป็นตอนสุดท้ายแล้วผมจะลงทุกรายละเอียดเกี่ยวกับการเลิกกระท่อมแบบค่อยๆลดปริมาณลง ตอนนี้ขอจบลงเพียงเท่านี้ครับ ตอนที่3นี่มันอาจดูน้ำเน่าแต่ทุกอย่างเกิดขึ้นจริงๆกับตัวผมบางทีไอ้น้ำเน่าในละครมันก็มีจริงครับ..หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย..ขอบคุณครับ🙏🏻🙏🏻
ข้อดีข้อเสียและการเลิกกระท่อม ตอนที่3.1 เลิกแบบหักดิบ
วันที่24มีนาคม2566 วันสุดท้ายที่ต้องเลือกระหว่างไปจากที่นี้ ไม่ก็ตาย กับ ย้อนกลับไปกินมันอีก วันที่5ของการเลิกกระท่อมแบบหักดิบ วันนี้ก็หยุดงานอีกวันสภาพเหมือนลูกหมาใกล้ตาย ไม่มีอะไรเบาลงเลยจากวันแรกจนถึงวันนี้ ไม่ได้นอนเหมือนเคยเดินวนไปมาในบ้านเหมือนเคย วันนี้ความคิดย้อนกลับ ว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่ตาย ก็หายไปเลย จะไปไหนดีนะ จะตายยังไงละ จะกลับไปกินดีไหมนะ ไม่อยากอยู่แล้วอะ ในหัววนเวียนอยู่เท่านี้ กินเหล้าตั้งแต่เช้านอนไม่ได้เดินต่อในบ้านทำแบบนั้นตั้งแต่เช้า เดินๆนั่งๆสูบบุหรี่ วนเวียนอยู่แบบนั้น พูดง่ายๆไร้ค่าไปแล้ว แต่การเดินของผมที่ผ่านมามันช่วยให้จิตใจที่ล่องลอยมันลอยไปไม่ไกลเรายังสามรถดึงมันกับมาให้อยู่กับเราได้ เราแค่หลุดไปชั่วขณะที่เราเจ็บหนัก ทรมานหนัก แล้วเราหยุดเดินก็เลยจิตหลุดเพราะการอดนอนหลายวัน และเป็นคนจิตใจอ่อนไหวง่ายจึงถูกทำลายง่ายๆ จนถึงตอนบ่าย ความปวดทรมานยังไม่ลดลงก็ยังนอนไม่ได้พยามเท่าไหร่ก็ไม่ได้โดนความเจ็บปวดดึงไว้ไม่ให้นอน จนร้องไห้ออกมาอยู่คนเดียว พอร้องไห้ผมก็เดิน เดิน ยิ่งร้องก็ยิ่งเดินวนเวียนไปมาให้เร็วขึ้นเหมือนสติแตก เดินร้องเดินร้อง ในหัวคิดวนเวียนไปมากับตัวเลือกที่เหลืออยู่ ไม่รู้ว่าเป็นแบบนั้นอยู่นานแค่ไหน แต่ผมเดินจนไม่รู้ว่าตัวเองหยุดร้องไห้ไปตอนไหน เดินช้าลงจนมานั่งตอนไหนก็ไม่รู้ ความเจ็บปวดยังอยู่ แต่เหมือนได้พักให้ได้คิด ตอนนั้นใจเย็นลงมาก แต่ตัวเลือกที่เหลือกลับไม่ใช่แบบที่ผมเคยต้องการ……ครับ ผมแพ้ให้กับมัน ความคิดตอนนั้นคือไม่รู้ต้องทรมานไปอีกกี่วัน หากสติแตกกว่านี้การเดินไปมาจะช่วยได้ไหม สติแตกทำอะไรเลยเถิดไปจะทำไง มันคุ้มที่จะเสี่ยงไหมนะ ไอ้ความทรมานทางกายนะทนได้ แต่ทางใจและความคิดถ้าถูกทำลายมันไม่ไหวจริงๆ ผมตัดสินใจกลับไปกินมันอีกเดินไปที่บ้านน้องแฟนเด็ดใบมากิน1ใบ ทุกอย่างผ่อนคลายลงใน5นาที ผมได้ความคิดกลับคืน จิตใจกลับคืน ร้อยยิ้มกลับคืน โลกที่สดใสกลับคืน ร่างกายที่ทรมานมาตลอด5วันหายในทันทีที่กินใบที่2เข้าไป มันกำลังมอบรางวัลให้เราที่ไม่ทิ้งมันไป หรือ?มันจะมอบโอกาสให้ผมได้เอาชนะมันอีกในครั้งต่อไป มันเอาชนะผมด้วยการทรมานทางร่างกายจนผมนอนไม่ได้เลย ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืนเมื่อนอนไม่ได้ขั้นตอนต่อไปก็ทำงานทันทีเมื่อการพักผ่อนไม่เพียงพอก็อาการหลอนจิตหลุด สติหลุด หากไม่เดินวนไปวนมาในบ้าน มัวแต่นอนทรมาน ผมคงเอามีดปาดคอตัวเองตายไปแล้ว มันคงเป็นการแก้ตัวที่ผมไม่สามารถชนะตัวเองได้ อ้างคิดแบบนั้นแบบนี่ อ้างว่ากระท่อมมันให้เราเลือกได้เท่านั่นเท่านี่ แท้ที่จริงแล้วเราแพ้เราเองต่างหาก ตกเย็นผมก็ยอมรับกับแฟนผมตรงๆว่าผมทนไม่ไหวเลิกไม่ได้ ขอโทษนางที่ผมทำตามสัญญาไม่ได้ นางบอกผมว่า(เลิกไม่ได้แล้วสภาพนี้) ผมจึงให้คำมั่นสัญญาว่าจะเลิกให้ได้ต้องเลิกให้ได้แต่ขอเวลาหน่อย แฟนผมก็เลยบอกแน่นะได้จะรอดู…….
หลังจากล้มเหลวในการเลิกแบบหักดิบผมก็กลับมาต้มกระท่อมกินต่อ ทีนี้กินมากกว่าเก่าต้มกินเองด้วยซื้อด้วย ในระหว่างที่กินมาตลอด แฟนก็ถามผมตลอดว่าจะเลิกได้ยังไหนสัญญาว่าจะเลิก ผมก็พูดคำเดิมตลอดว่า เออขอเวลาอีกนิดจนหลังๆมาช่วงกลางปี2567แฟนก็เริ่มพูดเรื่องสมรรถภาพทางเพศ อย่างที่ผมเคยเขียนไว้ในข้อเสียของกระท่อมข้อที่2.(สมรรถภาพทางเพศเสื่อม)นี้แหละครับสาเหตุที่ผมต้องพิจารณาตนเองอีกครั้ง หลังจากที่หักดิบไม่สำเร็จพูดตรงๆเลยว่าผมไม่คิดเลิกกินกระท่อมเลย ไอ้ที่อ้างขอเวลาก็อ้างไปงั้น เพราะกลัวความเจ็บปวดที่เคยเจอมาเมื่อตอนหักดิบ แต่หลังๆมาทะเลาะกับแฟนเรื่องไม่ส่งการบ้าน ส่งก็ส่งไม่ถึง อ่อนซะก่อน 1เดือนมีครั้งเดียวบ้าง2เดือนครั้งบ้าง ถึงขั้นทะเลาะกันบ่อยมาก ทุกครั้งที่ทะเลาะกันผมรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของนาง แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังไม่คิดจะเลิก พูดมานี้ไม่อายเลยครับผมไม่หายาปลุกไอ้จ้อมาใช้เพื่อทดแทนจุดเสียจุดนี้ แหมผมนี้มันมึนสุดๆยังไงก็ไม่ยอมเลิกกระท่อม ที่แรกซื้อยาปลุกมามันก็ได้ผลดีถึงจะแพงแต่อย่างน้อยก็ช่วยได้ แต่แค่เดือนเดียวครับ พอเดือนที่2-3มันไม่ลุกอีกละเหมือนดื้อยาทั้งที่ราคาก็แพงแต่ไม่ได้ผล ที่นี้จะหาที่แรงกว่าก็แพงเกินไป จนวาระจนมุมของผมมาถึง แฟนผมถามผมแบบสิ้นหวังว่าถามจริงๆจะเลิกได้ไหม ถ้าแบบนี้จะอยู่ไปกันยังไง เขาบอกเขาห่วงผมมาตลอดปรึกษาคนนั้นคนนี้มาตลอด กลัวผมจะเป็นเหมือนในข่าวต่อให้ผมเถียงยกข้ออ้างอะไรเขาก็ยังห่วงผมเสมอชีวิตผมก็สำคัญกับเขา ไอ้เรื่องการบ้านมันก็สำคัญจะให้เขาไปพูดกับใครก็ไม่ได้นอกจากผม จะให้ไปลงที่คนอื่นหรือไง (กูมีคนนะกุไม่อยากมีใครอีก) จบคำพูดในวงเล็บ..ผมพูดกลับไปว่า..ก่อนปีใหม่ที่เราจะไปเที่ยวเหนือผมสัญญาว่าจะเลิกให้ได้ก่อนปีใหม่ รอบนี่จะทำให้ได้ตายเป็นตาย หลังจากนั้นผมก็ยังไม่ได้เลิกแต่เริ่มศึกษาหาวิธีที่จะเลิกมันโดยทรมานน้อยที่สุด ทั้งที่ผมควรจะศึกษาแต่ปีที่แล้วแท้ๆ หลังผ่านเหตุการณ์นั้นมา เดือนกันยายน2567ผมก็พร้อมที่จะเลิกกระท่อมแบบค่อยๆลดปริมาณการกินลง….ตอนต่อไปคงเป็นตอนสุดท้ายแล้วผมจะลงทุกรายละเอียดเกี่ยวกับการเลิกกระท่อมแบบค่อยๆลดปริมาณลง ตอนนี้ขอจบลงเพียงเท่านี้ครับ ตอนที่3นี่มันอาจดูน้ำเน่าแต่ทุกอย่างเกิดขึ้นจริงๆกับตัวผมบางทีไอ้น้ำเน่าในละครมันก็มีจริงครับ..หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย..ขอบคุณครับ🙏🏻🙏🏻