เอกสารลับ แฉ เมต้า มีรายได้ปีเดียว 5 แสนล้าน จากโฆษณาหลอกหลวง ผู้ใช้เจอ 1.5 หมื่นล้านครั้งต่อวัน 🙄

รอยเตอร์เปิดเอกสาร เผยปีที่แล้ว ‘เมต้า’ มีรายได้กว่า 5 แสนล้านจากโฆษณาหลอกลวงและสินค้าต้องห้าม ด้านเมต้าออกมาโต้ ตัวเลขดังกล่าวยังไม่อัพเดต

เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า เมต้า ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ของเครือข่ายสังคมออนไลน์ชื่อดัง อย่างเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และวอทส์แอพพ์ เปิดเผยเอกสารภายในของบริษัท ที่แสดงให้เห็นถึงการคาดการณ์เป็นการภายในเมื่อปลายปีที่แล้วว่า เมต้า จะมีรายได้ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ต่อปีโดยรวม หรือคิดเป็น 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 518,400 ล้านบาท) จากการลงโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวง (สแกม) และสินค้าต้องห้าม

รอยเตอร์รายงานว่า เอกสารชุดหนึ่งซึ่งไม่เคยมีการรายงานมาก่อน และถูกตรวจสอบโดยสำนักข่าวรอยเตอร์ ยังแสดงให้เห็นว่า เป็นเวลาอย่างน้อยถึง 3 ปี ที่ยักษ์ใหญ่สื่อสังคมออนไลน์รายนี้ ล้มเหลวในการตรวจจับและหยุดยั้งโฆษณาจำนวนมหาศาล ที่ได้เผยแพร่แก่ผู้ใช้ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และวอทส์แอพพ์ ที่มีอยู่หลายพันล้านคนทั่วโลก ให้ต้องได้พบกับการหลอกลวงด้านอีคอมเมิร์ซและแผนการลงทุนฉ้อโกง กาสิโนออนไลน์ผิดกฎหมาย และการขายผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ต้องห้าม

เอกสารฉบับหนึ่ง เมื่อเดือนธันวาคม 2024 ระบุว่า โดยเฉลี่ยแล้ว บริษัทได้แสดงโฆษณาหลอกลวงที่มีความเสี่ยงสูง คือโฆษณาที่แสดงสัญญาณการฉ้อโกงอย่างชัดเจน แก่ผู้ใช้แพลตฟอร์มของตนประมาณ 15,000 ล้านครั้งต่อวัน และเอกสารอีกฉบับเมื่อปลายปี 2024 ระบุว่า เมต้ามีรายได้ต่อปีประมาณ 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากโฆษณาฉ้อโกงประเภทนี้ โดยการฉ้อโกงส่วนใหญ่มาจากนักการตลาดที่แสดงพฤติกรรมน่าสงสัยมากพอจนถูกระบบเตือนภัยภายในของเมต้าตรวจจับได้ แต่เอกสารแสดงให้เห็นว่า บริษัทจะสั่งแบนนักโฆษณาก็ต่อเมื่อระบบอัตโนมัติของพวกเขาคาดการณ์ว่า นักการตลาดเหล่านั้น แน่ใจอย่างน้อย 95 เปอร์เซ็นต์ว่า กำลังกระทำการฉ้อโกง

ตามเอกสารระบุไว้ว่า หากบริษัทมีความแน่ใจน้อยกว่านั้น แต่เชื่อว่านักโฆษณาน่าจะเป็นสแกมเมอร์ เมต้าก็จะเรียกเก็บอัตราค่าโฆษณาที่สูงขึ้นเพื่อเป็นการลงโทษ โดยมีแนวคิดคือการยับยั้งนักโฆษณาที่น่าสงสัยไม่ให้ลงโฆษณา


เอกสารระบุเพิ่มเติมด้วยว่า ผู้ใช้ที่คลิกบนโฆษณาหลอกลวงมีแนวโน้มที่จะเห็นโฆษณาประเภทนี้เพิ่มขึ้น เนื่องจากระบบการปรับเปลี่ยนโฆษณาตามความสนใจของผู้ใช้ของเมต้า ที่พยายามนำเสนอโฆษณาตามความสนใจของพวกเขา

“รายละเอียดของการประเมินตนเองที่เป็นความลับของเมต้าเหล่านี้ ได้มาจากเอกสารที่จัดทำขึ้นระหว่างปี 2021 จนถึงปีนี้ จากหลายแผนกของเมต้า ได้แก่ การเงิน การล็อบบี้ วิศวกรรม และความปลอดภัย โดยรวมแล้วเอกสารเหล่านี้สะท้อนถึงความพยายามของเมต้าในการประเมินปริมาณของการละเมิดบนแพลตฟอร์มของตน และความไม่เต็มใจของบริษัทที่จะปราบปรามอย่างจริงจังในลักษณะที่อาจส่งผลเสียต่อผลประโยชน์ทางธุรกิจของตนเอง

สันทีป อับราฮัม ผู้ตรวจสอบการทุจริตและอดีตนักสืบความปลอดภัยของเมต้า ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้บริหารบริษัทที่ปรึกษาชื่อ ริสกี้ บิสเนส โซลูชั่นส์ ให้สัมภาษณ์รอยเตอร์ ว่า การที่เมต้ายอมรับรายได้จากแหล่งที่บริษัทสงสัยว่ากำลังกระทำการฉ้อโกง เป็นการเน้นย้ำให้เห็นถึงการขาดการกำกับดูแลด้านกฎระเบียบในอุตสาหกรรมโฆษณา หากหน่วยงานกำกับดูแลทนไม่ได้ที่ธนาคารจะแสวงหากำไรจากการฉ้อโกง พวกเขาก็ไม่ควรจะทนต่อการกระทำดังกล่าวที่เกิดขึ้นในบริษัทเทคโนโลยี

ด้านนายแอนดี สโตน โฆษกของเมต้า กล่าวในแถลงการณ์ว่า เอกสารที่รอยเตอร์เห็นนั้น เป็นการนำเสนอแบบเลือกบางส่วนที่บิดเบือนแนวทางของเมต้า ในการจัดการกับการฉ้อโกงและการหลอกลวง

สโตนกล่าวด้วยว่า การประเมินภายในของบริษัท ที่ระบุว่า จะมีรายได้ 10.1 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ในปี 2024 มาจากโฆษณาหลอกลวงและโฆษณาต้องห้ามอื่นๆนั้น เป็นข้อมูลที่ยังไม่สมบูรณ์และนับรวมข้อมูลมากเกินไป ซึ่งในเวลาต่อมา บริษัทได้พิจารณาแล้วว่า ตัวเลขที่แท้จริงนั้นต่ำกว่า เนื่องจากในการประมาณการดังกล่าวมีการรวมโฆษณาที่ถูกผิดกฎหมายไว้ด้วย เป็นจำนวนมาก แต่เขาปฏิเสธที่จะให้ตัวเลขที่มีการอัพเดตมาแล้ว

การประเมินดังกล่าวทำขึ้นเพื่อยืนยันความถูกต้องของการลงทุนด้านความโปร่งใสที่บริษัทวางแผนไว้ ซึ่งรวมถึงการต่อสู้กับการฉ้อโกงและการหลอกลวง ซึ่งเมต้าได้ดำเนินการไปแล้ว และว่า “เราต่อสู้กับการฉ้อโกงและการหลอกลวงอย่างแข็งขัน เพราะผู้คนบนแพลตฟอร์มของเราไม่ต้องการเนื้อหาเหล่านี้ ผู้โฆษณาที่สุจริตไม่ต้องการ และเราเองก็ไม่ต้องการเช่นกัน”

สโตน กล่าวอีกว่า ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา บริษัทได้ลดจำนวนรายงานจากผู้ใช้เกี่ยวกับโฆษณาหลอกลวงทั่วโลกลงถึง 58 เปอร์เซ็นต์ และจนถึงตอนนี้ ในปี 2025 เราได้ลบเนื้อหาโฆษณาฉ้อโกงออกไปแล้วกว่า 134 ล้านชิ้น

อย่างไรก็ตาม ในเอกสารบางชิ้น แสดงให้เห็นว่า เมต้าได้ประกาศที่จะเดินหน้าปราบปรามสแกมให้มากขึ้น โดยเอกสารเมื่อปี 2024 ระบุว่า เมต้ามีเป้าหมายใหญ่ในการลดโฆษณาฉ้อโกง ในปี 2025 และเมต้าหวังว่าจะลดโฆษณาเหล่านั้นในตลาดแต่ละตลาดในได้มากถึง 50 เปอร์เซ็นต์

อย่างไรก็ตาม ขณะเดียวกัน มีเอกสารที่ระบุว่า งานวิจัยของเมต้าเอง ชี้ให้เห็นว่า ผลิตภัณฑ์ของบริษัท ได้กลายเป็นเสาหลักสำคัญของระบบเศรษฐกิจการฉ้อโกงทั่วโลก โดยข้อมูลจากการนำเสนอของเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยในเดือนพฤษภาคม 2025 ประเมินว่า แพลตฟอร์มของบริษัทมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงที่ประสบความสำเร็จในสหรัฐถึง 1 ใน 3

นอกจากนี้ เมต้ายังยอมรับในเอกสารภายในอื่นๆว่า คู่แข่งหลักบางรายของตนสามารถจัดการและคัดกรองการฉ้อโกงบนแพลตฟอร์มของตนได้ดีกว่า

“จากการตรวจสอบภายในของเมต้าในเดือนเมษายน 2025 จากกลุ่มชุมชนออนไลน์ที่นักฉ้อโกงแลกเปลี่ยนความรู้กัน ได้สรุปว่า การโฆษณาฉ้อโกงบนแพลตฟอร์มของเมต้านั้น ง่ายกว่าบนกูเกิล แต่เอกสารดังกล่าวไม่ได้ระบุถึงสาเหตุที่อยู่เบื้องหลังข้อสรุปนี้... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/foreign/news_5445512

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่