ฉันไปอ่านรายงานของ TTB แล้วช็อคไปเลย
มันคือรายงานที่พูดถึง “มนุษย์เงินเดือนยุคนี้” คนที่ทำงานหนัก แต่กลับเสี่ยงล้มที่สุดในระบบเศรษฐกิจไทย
ฉันอ่านแล้วต้องตั้งสติ
เพราะตัวเลขพวกนี้มันโหดเหลือเชื่อค่ะคุณ
8 ใน 10 มนุษย์เงินเดือนในไทย “มีหนี้”
และกว่า “ครึ่งหนึ่ง” จ่ายแค่ขั้นต่ำ
นั่นหมายความว่า คนส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้ชีวิตเพื่อเติบโต
แต่ใช้ชีวิตเพื่อ “จ่ายดอกเบี้ยให้ธนาคาร” ทุกเดือน
TTB เรียกมนุษย์เงินเดือนว่า “เดอะแบกตัวจริงของประเทศ”
เพราะเราคือคนที่ทำงาน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
แต่กลับเป็นคนที่เปราะบางที่สุดในระบบ
คิดตามไปด้วยกัน
ประเทศไทยมีมนุษย์เงินเดือนกว่า 12.5 ล้านคน
คิดเป็น 30% ของแรงงานทั้งหมด
และสร้างรายได้ภาษีบุคคลธรรมดามากถึง 90% ของประเทศ
แต่ในขณะเดียวกัน
82% มีหนี้
77% มีเงินออมน้อยกว่า 10% ของรายได้
70% ไม่มีเงินสำรองฉุกเฉิน
และ 80% ไม่มีความคุ้มครองหากเจ็บป่วยหนัก
พูดง่าย ๆ คือ…
คนที่ขับเคลื่อนประเทศทุกวัน กำลังใช้ชีวิตแบบ “สะดุดได้ทุกเมื่อ”
และสิ่งที่ช็อคกว่านั้นคือ
มันไม่ได้เกิดแค่กับคนเงินเดือนน้อย
TTB พบว่า แม้แต่คนที่มีรายได้ “เกิน 100,000 บาทต่อเดือน”
32% ยังใช้ชีวิตเดือนชนเดือน
และอีก 16% ใช้เงินเกินรายได้
อ่านถึงตรงนี้ ฉันเห็นชัดเลยว่า
มนุษย์เงินเดือนจำนวนมากของประเทศไทย
ซึ่งคือเสาหลักเพราะจ่ายภาษี
เค้าแค่ดูรวย…แต่เปราะบางกว่าที่คิด
ลองนึกภาพตามฉันค่ะคุณ
เช้าวันศุกร์ รถติดบนทางด่วนพระราม 9
คุณนั่งอยู่ในรถยุโรปคันหรู ราคา 3 ล้าน
แต่ในใจกลับแอบคำนวณว่า “เดือนนี้จะพอจ่ายบัตรมั้ย”
นี่แหละ มายาของความมั่นคง
รายได้สูง ทำให้คุณดูปลอดภัย
แต่จริง ๆ คุณแค่ อยู่ได้ ตราบใดที่เงินเดือนยังเข้า
หลายคนเข้าใจผิดว่า “เงินเดือนสูง = มั่นคง”
แต่ความจริงคือ “เงินเดือนสูง = เปราะบาง ถ้าไม่มีโครงสร้างการเงิน”
เพราะเงินเดือนคือรายได้ประเภท Active Income
คุณต้องทำงานถึงจะได้เงิน
ถ้าวันหนึ่งตกงาน ป่วย หรือบริษัทลดคน
รายได้คุณ = ศูนย์
คนเงินเดือน 200,000 ที่ไม่มีทรัพย์สินหรือรายได้เสริม
ก็เปราะบางพอ ๆ กับคนเงินเดือน 20,000
แค่ตัวเลขบนสลิปมันดูดีกว่าเท่านั้นเอง
ปัญหาที่ฝังลึกอีกอย่างคือ Lifestyle Inflation
รายได้เพิ่มเมื่อไหร่ รายจ่ายก็ตามมาทันที
จากคอนโดเช่าเล็ก ๆ กลายเป็นบ้าน 2 ชั้นในหมู่บ้านหรู
จากรถญี่ปุ่น เป็นรถยุโรป
จากอาหารตามสั่ง เป็นมื้อไวน์แพร์ริ่งในโรงแรม
และสิ่งเหล่านี้จะกลายเป็น “มาตรฐานชีวิต” ใหม่
ที่คุณต้องรักษาไว้ให้ได้…แม้รายได้จะหายไป
นี่คือสิ่งที่ทำให้มนุษย์เงินเดือนเหนื่อยไม่รู้จบ
เพราะไม่ได้ทำงานเพื่อความมั่นคง
แต่ทำงานเพื่อ “รักษาภาพลักษณ์ของความมั่นคง”
ฉันเคยเห็นเพื่อนหลายคน
รายได้เดือนละสามแสน แต่ไม่มีเงินเก็บเลย
บางคนมีบ้านหลังใหญ่ รถสองคัน
แต่ต้องยืมเงินจากโบนัสปีหน้าเพื่อจ่ายบัตรปีนี้
ทั้งหมดนี้เกิดจาก กับดักสถานะ
เพราะเราถูกสอนให้ “ดูสมฐานะ” มากกว่าการ “มีฐานะจริง ๆ”
สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่ มีหนี้
แต่คือ ชินกับการมีหนี้
ชินกับการจ่ายขั้นต่ำ
ชินกับการบอกตัวเองว่า เดี๋ยวโบนัสมาก็โปะได้
ทั้งที่โบนัสปีนี้ก็ไปโปะหนี้ปีที่แล้ว
และนี่คือสิ่งที่ทำให้ประเทศนี้มีแรงงานที่ “ทำงานหนัก แต่ไม่รวยสักที”
ความมั่นคงไม่เคยมาจากรายได้สูงนะคะคุณ
ห้ามเข้าใจผิดเรื่องนี้
แต่มันมาจาก “โครงสร้างทางการเงินที่คุณสร้างไว้”
ลองถามตัวเองดู
ถ้าพรุ่งนี้คุณตกงาน คุณอยู่ได้กี่เดือน?
คุณมีรายได้อื่นนอกจากเงินเดือนหรือไม่?
ถ้าหยุดทำงานวันนี้ เงินยังไหลเข้าบัญชีไหม?
ถ้าคำตอบคือ “ไม่”
คุณไม่ได้มั่นคงเลย
คุณแค่ยังไม่ถูกทดสอบเท่านั้น
สิ่งที่ฉันอยากให้ทุกคนเริ่มทำ
ไม่ใช่ หาเงินให้มากขึ้น
แต่คือ “จัดระบบให้เงินที่คุณมีอยู่ ไม่หายไปเฉย ๆ”
เริ่มจากตรงนี้ก่อน
1. กันเงินเก็บ 20–30% ของรายได้ทุกเดือน
เงินเก็บไม่ใช่เงินเหลือ ต้องเป็นเงินที่กันไว้ก่อน
2. สร้าง Emergency Fund 6–12 เดือน
เพื่อไม่ต้องพึ่งหนี้ยามวิกฤต
3. ลงทุนในสินทรัพย์ที่งอกงามในระยะยาว
หุ้น กองทุน หรืออสังหาฯ ไม่ต้องรีบ แต่ต้องเริ่ม
4. ลดหนี้ที่ไม่สร้างรายได้
บ้านใหญ่เกินจำเป็น รถหรูที่ค่าใช้จ่ายสูง
พวกนี้คือ “เครื่องประดับของหนี้”
5. สร้างรายได้ที่ไม่ต้องทำงานเอง
เพราะรายได้ที่แท้จริง คือรายได้ที่ยังอยู่แม้คุณไม่อยู่
มนุษย์เงินเดือนยุคนี้เหนื่อยกว่าทุกยุค
เพราะเราทำงานแข่งกับเวลา แข่งกับดอกเบี้ย
และแข่งกับภาพลวงตาว่า “เรากำลังไปได้ดี”
แต่ในความจริง เราแค่ “อยู่รอดแบบเสี่ยงสะดุดทุกเดือน”
ฉันไม่ได้เขียนโพสต์นี้เพื่อทำให้คุณกลัว
แต่เพื่อให้คุณเห็นความจริงว่า
เรากำลังอยู่ในระบบที่ให้รางวัลกับการทำงานหนัก
แต่ลงโทษคนที่ไม่มีแผนทางการเงิน
อย่าปล่อยให้ชีวิตคุณกลายเป็น “ตึกสตง.หรูที่สร้างบนทราย”
สวยแค่ภายนอก แต่พร้อมถล่มได้ทุกเมื่อ
กลับมาไทยครั้งนี้ ฉันได้เห็นชัดขึ้นกว่าเดิม
ว่า “เงินเดือนสูง” มันคือมายา
มันทำให้คนรู้สึกมั่นใจ แต่ไม่ได้ทำให้เขามั่นคง
สิ่งที่คุณต้องมีไม่ใช่รายได้เพิ่ม
แต่คือ ระบบการเงินที่ทำให้คุณอยู่รอดได้ แม้ไม่มีรายได้
อย่าหลงตัวเลขในสลิปเงินเดือน
ให้ดูว่า ถ้ารายได้หายไป คุณยังรอดไหม
เพราะสุดท้าย ความมั่งคั่งไม่เคยมาจากสิ่งที่คุณหาได้
แต่มาจากสิ่งที่คุณ เก็บไว้ และจัดการเป็น
วันนี้คุณเป็นคนที่เงินเดือนสูงแต่เปราะบาง
หรือ “เงินเดือนธรรมดาแต่มั่นคง” ?
คำตอบนี้…จะเป็นตัวกำหนดทั้งชีวิตคุณ
Annabel – The Wealth Architect
CR
https://www.facebook.com/share/p/17Pfxpw2FF/?mibextid=wwXIfr
8 ใน 10 มนุษย์เงินเดือนในไทย “มีหนี้” และกว่า “ครึ่งหนึ่ง” จ่ายแค่ขั้นต่ำ💸
มันคือรายงานที่พูดถึง “มนุษย์เงินเดือนยุคนี้” คนที่ทำงานหนัก แต่กลับเสี่ยงล้มที่สุดในระบบเศรษฐกิจไทย
ฉันอ่านแล้วต้องตั้งสติ
เพราะตัวเลขพวกนี้มันโหดเหลือเชื่อค่ะคุณ
8 ใน 10 มนุษย์เงินเดือนในไทย “มีหนี้”
และกว่า “ครึ่งหนึ่ง” จ่ายแค่ขั้นต่ำ
นั่นหมายความว่า คนส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้ชีวิตเพื่อเติบโต
แต่ใช้ชีวิตเพื่อ “จ่ายดอกเบี้ยให้ธนาคาร” ทุกเดือน
TTB เรียกมนุษย์เงินเดือนว่า “เดอะแบกตัวจริงของประเทศ”
เพราะเราคือคนที่ทำงาน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
แต่กลับเป็นคนที่เปราะบางที่สุดในระบบ
คิดตามไปด้วยกัน
ประเทศไทยมีมนุษย์เงินเดือนกว่า 12.5 ล้านคน
คิดเป็น 30% ของแรงงานทั้งหมด
และสร้างรายได้ภาษีบุคคลธรรมดามากถึง 90% ของประเทศ
แต่ในขณะเดียวกัน
82% มีหนี้
77% มีเงินออมน้อยกว่า 10% ของรายได้
70% ไม่มีเงินสำรองฉุกเฉิน
และ 80% ไม่มีความคุ้มครองหากเจ็บป่วยหนัก
พูดง่าย ๆ คือ…
คนที่ขับเคลื่อนประเทศทุกวัน กำลังใช้ชีวิตแบบ “สะดุดได้ทุกเมื่อ”
และสิ่งที่ช็อคกว่านั้นคือ
มันไม่ได้เกิดแค่กับคนเงินเดือนน้อย
TTB พบว่า แม้แต่คนที่มีรายได้ “เกิน 100,000 บาทต่อเดือน”
32% ยังใช้ชีวิตเดือนชนเดือน
และอีก 16% ใช้เงินเกินรายได้
อ่านถึงตรงนี้ ฉันเห็นชัดเลยว่า
มนุษย์เงินเดือนจำนวนมากของประเทศไทย
ซึ่งคือเสาหลักเพราะจ่ายภาษี
เค้าแค่ดูรวย…แต่เปราะบางกว่าที่คิด
ลองนึกภาพตามฉันค่ะคุณ
เช้าวันศุกร์ รถติดบนทางด่วนพระราม 9
คุณนั่งอยู่ในรถยุโรปคันหรู ราคา 3 ล้าน
แต่ในใจกลับแอบคำนวณว่า “เดือนนี้จะพอจ่ายบัตรมั้ย”
นี่แหละ มายาของความมั่นคง
รายได้สูง ทำให้คุณดูปลอดภัย
แต่จริง ๆ คุณแค่ อยู่ได้ ตราบใดที่เงินเดือนยังเข้า
หลายคนเข้าใจผิดว่า “เงินเดือนสูง = มั่นคง”
แต่ความจริงคือ “เงินเดือนสูง = เปราะบาง ถ้าไม่มีโครงสร้างการเงิน”
เพราะเงินเดือนคือรายได้ประเภท Active Income
คุณต้องทำงานถึงจะได้เงิน
ถ้าวันหนึ่งตกงาน ป่วย หรือบริษัทลดคน
รายได้คุณ = ศูนย์
คนเงินเดือน 200,000 ที่ไม่มีทรัพย์สินหรือรายได้เสริม
ก็เปราะบางพอ ๆ กับคนเงินเดือน 20,000
แค่ตัวเลขบนสลิปมันดูดีกว่าเท่านั้นเอง
ปัญหาที่ฝังลึกอีกอย่างคือ Lifestyle Inflation
รายได้เพิ่มเมื่อไหร่ รายจ่ายก็ตามมาทันที
จากคอนโดเช่าเล็ก ๆ กลายเป็นบ้าน 2 ชั้นในหมู่บ้านหรู
จากรถญี่ปุ่น เป็นรถยุโรป
จากอาหารตามสั่ง เป็นมื้อไวน์แพร์ริ่งในโรงแรม
และสิ่งเหล่านี้จะกลายเป็น “มาตรฐานชีวิต” ใหม่
ที่คุณต้องรักษาไว้ให้ได้…แม้รายได้จะหายไป
นี่คือสิ่งที่ทำให้มนุษย์เงินเดือนเหนื่อยไม่รู้จบ
เพราะไม่ได้ทำงานเพื่อความมั่นคง
แต่ทำงานเพื่อ “รักษาภาพลักษณ์ของความมั่นคง”
ฉันเคยเห็นเพื่อนหลายคน
รายได้เดือนละสามแสน แต่ไม่มีเงินเก็บเลย
บางคนมีบ้านหลังใหญ่ รถสองคัน
แต่ต้องยืมเงินจากโบนัสปีหน้าเพื่อจ่ายบัตรปีนี้
ทั้งหมดนี้เกิดจาก กับดักสถานะ
เพราะเราถูกสอนให้ “ดูสมฐานะ” มากกว่าการ “มีฐานะจริง ๆ”
สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่ มีหนี้
แต่คือ ชินกับการมีหนี้
ชินกับการจ่ายขั้นต่ำ
ชินกับการบอกตัวเองว่า เดี๋ยวโบนัสมาก็โปะได้
ทั้งที่โบนัสปีนี้ก็ไปโปะหนี้ปีที่แล้ว
และนี่คือสิ่งที่ทำให้ประเทศนี้มีแรงงานที่ “ทำงานหนัก แต่ไม่รวยสักที”
ความมั่นคงไม่เคยมาจากรายได้สูงนะคะคุณ
ห้ามเข้าใจผิดเรื่องนี้
แต่มันมาจาก “โครงสร้างทางการเงินที่คุณสร้างไว้”
ลองถามตัวเองดู
ถ้าพรุ่งนี้คุณตกงาน คุณอยู่ได้กี่เดือน?
คุณมีรายได้อื่นนอกจากเงินเดือนหรือไม่?
ถ้าหยุดทำงานวันนี้ เงินยังไหลเข้าบัญชีไหม?
ถ้าคำตอบคือ “ไม่”
คุณไม่ได้มั่นคงเลย
คุณแค่ยังไม่ถูกทดสอบเท่านั้น
สิ่งที่ฉันอยากให้ทุกคนเริ่มทำ
ไม่ใช่ หาเงินให้มากขึ้น
แต่คือ “จัดระบบให้เงินที่คุณมีอยู่ ไม่หายไปเฉย ๆ”
เริ่มจากตรงนี้ก่อน
1. กันเงินเก็บ 20–30% ของรายได้ทุกเดือน
เงินเก็บไม่ใช่เงินเหลือ ต้องเป็นเงินที่กันไว้ก่อน
2. สร้าง Emergency Fund 6–12 เดือน
เพื่อไม่ต้องพึ่งหนี้ยามวิกฤต
3. ลงทุนในสินทรัพย์ที่งอกงามในระยะยาว
หุ้น กองทุน หรืออสังหาฯ ไม่ต้องรีบ แต่ต้องเริ่ม
4. ลดหนี้ที่ไม่สร้างรายได้
บ้านใหญ่เกินจำเป็น รถหรูที่ค่าใช้จ่ายสูง
พวกนี้คือ “เครื่องประดับของหนี้”
5. สร้างรายได้ที่ไม่ต้องทำงานเอง
เพราะรายได้ที่แท้จริง คือรายได้ที่ยังอยู่แม้คุณไม่อยู่
มนุษย์เงินเดือนยุคนี้เหนื่อยกว่าทุกยุค
เพราะเราทำงานแข่งกับเวลา แข่งกับดอกเบี้ย
และแข่งกับภาพลวงตาว่า “เรากำลังไปได้ดี”
แต่ในความจริง เราแค่ “อยู่รอดแบบเสี่ยงสะดุดทุกเดือน”
ฉันไม่ได้เขียนโพสต์นี้เพื่อทำให้คุณกลัว
แต่เพื่อให้คุณเห็นความจริงว่า
เรากำลังอยู่ในระบบที่ให้รางวัลกับการทำงานหนัก
แต่ลงโทษคนที่ไม่มีแผนทางการเงิน
อย่าปล่อยให้ชีวิตคุณกลายเป็น “ตึกสตง.หรูที่สร้างบนทราย”
สวยแค่ภายนอก แต่พร้อมถล่มได้ทุกเมื่อ
กลับมาไทยครั้งนี้ ฉันได้เห็นชัดขึ้นกว่าเดิม
ว่า “เงินเดือนสูง” มันคือมายา
มันทำให้คนรู้สึกมั่นใจ แต่ไม่ได้ทำให้เขามั่นคง
สิ่งที่คุณต้องมีไม่ใช่รายได้เพิ่ม
แต่คือ ระบบการเงินที่ทำให้คุณอยู่รอดได้ แม้ไม่มีรายได้
อย่าหลงตัวเลขในสลิปเงินเดือน
ให้ดูว่า ถ้ารายได้หายไป คุณยังรอดไหม
เพราะสุดท้าย ความมั่งคั่งไม่เคยมาจากสิ่งที่คุณหาได้
แต่มาจากสิ่งที่คุณ เก็บไว้ และจัดการเป็น
วันนี้คุณเป็นคนที่เงินเดือนสูงแต่เปราะบาง
หรือ “เงินเดือนธรรมดาแต่มั่นคง” ?
คำตอบนี้…จะเป็นตัวกำหนดทั้งชีวิตคุณ
Annabel – The Wealth Architect
CR https://www.facebook.com/share/p/17Pfxpw2FF/?mibextid=wwXIfr