วิจัยชี้ทำงานเกิน 55 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เปลี่ยนสมองให้คล้ายมีการบาดเจ็บเรื้อรัง


https://www.tnnthailand.com/health/216088/

ในยุคที่การแข่งขันทางอาชีพสูง หลายคนเลือก “อยู่ให้ได้มากกว่า” มากกว่าในด้านเวลา ทำงานเกินชั่วโมง และพักน้อยลง สิ่งเหล่านี้อาจดูเหมือนเป็นการแสดงความมุ่งมั่น แต่ล่าสุดมีงานวิจัยชี้ว่า การทำงานนานเกินไปไม่เพียงส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจเท่านั้น แต่อาจ “เปลี่ยนโครงสร้างสมอง” ให้คล้ายกับสมองที่ได้รับบาดเจ็บเรื้อรังอีกด้วย

เมื่อเวลาทำงานยาวนานเกินไป โดยเฉพาะมากกว่า 55 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ระบบร่างกายและสมองไม่สามารถพักฟื้นได้เพียงพอ ความเครียดสะสมจะกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสมองและฮอร์โมน ทำให้เกิดภาวะเหนื่อยล้า สมาธิลดลง และเกิด “brain fog” หรือสมองล้า ข้อมูลจากการศึกษาขนาดใหญ่ก่อนหน้านี้ยังพบว่าผู้ที่ทำงานมากกว่า 55 ชั่วโมงต่อสัปดาห์มีความเสี่ยงสูงขึ้นต่อโรคหลอดเลือดสมองและโรคหัวใจ

สรุปข่าว
เมื่อเวลาทำงานยาวนานเกินไป โดยเฉพาะมากกว่า 55 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ระบบร่างกายและสมองไม่สามารถพักฟื้นได้เพียงพอ ความเครียดสะสมจะกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสมองและฮอร์โมน ทำให้เกิดภาวะเหนื่อยล้า สมาธิลดลง และเกิด “brain fog” หรือสมองล้า แม้จะไม่ใช่การบาดเจ็บทางกายภาพแบบสมองกระแทก แต่ลักษณะการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมีความคล้ายคลึงกับ “การบาดเจ็บเรื้อรังของสมอง” เพราะการใช้งานหนักอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีเวลาพักฟื้น ส่งผลให้เขตสมองที่ควบคุมการคิด การตัดสินใจ และอารมณ์เกิดความล้าอย่างต่อเนื่อง ผลที่ตามมาอาจรวมถึงสมาธิสั้นลง ประสิทธิภาพการทำงานลดลง และอารมณ์ไม่คงที่

ที่น่าสนใจคือ งานวิจัยใหม่จากประเทศเกาหลีใต้ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Occupational & Environmental Medicine พบว่าการทำงานชั่วโมงมากอาจมีผลต่อโครงสร้างสมองจริงๆ โดยนักวิจัยทำการศึกษาในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ 110 คน แบ่งเป็นกลุ่มที่ทำงานมากกว่า 52 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และกลุ่มที่ทำงานปกติ แล้วนำข้อมูลมาวิเคราะห์ด้วยเทคนิค MRI พบว่ากลุ่มที่ทำงานนานมี “ปริมาตรสมองเพิ่มขึ้น” ในบางเขต เช่น ส่วน caudal middle frontal gyrus ด้านซ้าย เพิ่มขึ้นเฉลี่ยราว 19% เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ทำงานปกติ

เขตสมองที่เปลี่ยนแปลงมากที่สุด ได้แก่ middle frontal gyrus, superior frontal gyrus และ insula ซึ่งเกี่ยวข้องกับการวางแผน สมาธิ อารมณ์ และการตัดสินใจ ผู้วิจัยอธิบายว่า การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเป็นการตอบสนองของสมองต่อความเครียดสะสม (neuroadaptive response) ซึ่งไม่จำเป็นต้องหมายถึง “พัฒนา” แต่เป็น “การปรับตัวจากการใช้งานหนัก” ที่อาจบ่งชี้ถึงภาวะไม่ปกติ


แม้จะไม่ใช่การบาดเจ็บทางกายภาพแบบสมองกระแทก แต่ลักษณะการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมีความคล้ายคลึงกับ “การบาดเจ็บเรื้อรังของสมอง” เพราะเกิดจากการใช้งานหนักอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีเวลาพักฟื้น ส่งผลให้เขตสมองที่ควบคุมการคิด การตัดสินใจ และอารมณ์เกิดความล้าอย่างต่อเนื่อง ผลที่ตามมาอาจรวมถึงสมาธิสั้นลง ประสิทธิภาพการทำงานลดลง และอารมณ์ไม่คงที่

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าหากคุณทำงานมากกว่า 55 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ควรเริ่มสังเกตสัญญาณเตือน เช่น ความเหนื่อยเรื้อรัง สมาธิลดลง หรืออารมณ์แปรปรวน พยายามจัดเวลาพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และลดชั่วโมงการทำงานลงให้อยู่ในระดับสมดุล ไม่เกิน 40–45 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หากรู้สึกว่าสมองเริ่มทำงานไม่เหมือนเดิม ควรขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตหรือนักประสาทวิทยา


แม้การทำงานหนักจะดูเป็นเครื่องหมายของความทุ่มเท แต่ข้อมูลจากงานวิจัยใหม่ชี้ว่า การทำงานมากกว่า 55 ชั่วโมงต่อสัปดาห์อาจทำให้สมองของคุณ “เปลี่ยนแปลง” อย่างแท้จริง และอาจเปรียบได้กับภาวะบาดเจ็บเรื้อรังที่ค่อย ๆ สะสมโดยที่เราไม่รู้ตัว


    ผู้เชี่ยวชาญแนะ ลดภาระสมอง ด้วยการเลือกทำอย่างเดียว
    สมองเพาะจากห้องแล็บ ความหวัง หรือ อันตราย ?
    พบวิธีตรวจเลือด ที่สามารถบอกภาวะความเหนื่อยล้าเรื้อรัง
    ทำงานหนักแล้วขี้วีน เพราะสมองเหนื่อยล้า ควบคุมอารมณ์ยาก
    รู้หรือไม่? สมองต้องกินตัวเองทุกวัน เพื่อให้ความคิดเราเฉียบคมขึ้น

ที่มาข้อมูล : Jang W., Kim S., Kim Y., Lee S., Choi J.Y., Lee W. (2025). Overwork and changes in brain structure: a pilot study. Occupational & Environmental Medicine, 82(3):105-111. DOI: 10.1136/oemed-2025-110057. Virtanen M. et al. (2009). Long Working Hours and Cognitive Function. PMC. Ervasti J. et al. (2021). Long working hours and risk of 50 health conditions and mortality outcomes. ScienceDirect. Cleveland Clinic (2025). Overworked? Here’s How It Can Affect Your Health.

ที่มารูปภาพ : GEMINI
avatar

พรรณพิไล ปุกหุต
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่