อิสราเอลในอดีต แท้จริงนับถือศาสนาอิสลาม และความจริงของอิสราเอลในยุคปัจจุบัน (ศาสนายิว)

ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราฟังเรื่องเล่าจากสื่อหลักที่ตะวันตกคอยสนับสนุน คราวนี้สื่อเล็กๆ ผ่านมือถือเข้าถึงเราแล้ว เนื้อหาในนี้ เรียบเรียงจากการบรรยายของนักวิชาการมุสลิมไทยที่ศึกษาข้อเท็จจริงของทั้งสองประเทศ

อิสราเอลในอดีต แท้จริงนับถือศาสนาอิสลาม 
อิสราเอลเป็นวงศ์วานที่อัลลอฮฺทรงเมตตาให้มีบรรพบุรุษเป็นศาสดาหลายท่าน แต่เพราะเขาอธรรมต่อตัวเอง ไม่ได้ชูโกร (ขอบคุณ) อัลลอฮฺที่ทรงช่วยเขาหลายครั้ง เมื่อไม่สำนึกในความเมตตาของพระองค์ จึงทะนงตน

1. บนีอิสรออีลเป็นลูกหลานนบียะกู๊บ  
ชื่อ “อิสรอเอล” เป็นฉายานามของนบียะกู๊บ (เป็นหลานนบีอิบรอฮีม ซึ่งมีลูกเป็นนบีอิสฮากและนบีอิสรออีล) มีลูก 12 คน หนึ่งในนั้นเป็นนบียูซุฟ  ลูกๆ ให้คำสัญญากับพ่อ (นบียะกู๊บ) ว่าจะนับถือศาสนาของพ่อ ปู่ คือ ศาสนาอิสลาม ต่อมาหลานๆ ผิดสัญญา ถูกลงโทษ เป็นทาสในอียิปต์ ลูกหลานนบียะกู๊บเรียกในคัมภีร์อัลกุรอานว่า “บนีอิสรออีล” (วงศ์วานอิสรอเอล)

2. อัลลอฮฺทรงช่วยให้บนีอิสรออีลรอดพ้นจากฟิรเอาน์ (ฟาโรห์)
บนีอีสรออีล ขอดุอาอฺต่ออัลลอฮฺให้ส่งคนมาช่วย อัลลอฮฺให้นบีมูซา (โมเสส) มาช่วย เอาไม้เท้าฟาดทะเลแหวกออก (ทะเลแดงในปัจจุบัน) บนีอิสรออีลเดินข้ามไปได้ ฟิร์เอาน์ (ฟาโรห์ ที่เป็นศพลอยขึ้นมาเป็นหลักฐานให้เห็นในปัจจุบัน)) และทหารจมน้ำตาย

3. กลับไปเคารพรูปปั้นรูปวัว
ระหว่างที่รอนบีมูซารับบัญญัติ 10 ประการ บนีอิสรออีลทรยศต่อนบีมูซา อัลลอฮฺจึงให้พเนจรอยู่ในทะเลทรายมากกว่า 40 ปี

4. อัลลอฮฺทรงประทานของหวานและนกคุ่มจากฟากฟ้า ให้อิสรออีล แต่ไม่พอใจ 
ระหว่างที่บนีอิสรออีลอยู่ในทะเลทราย อัลลอฮฺทรงให้เมฆเป็นร่มเงา และประทานอัล-มันนะ (ของหวานคล้ายน้ำผึ้ง) และอัส-ซัลวา (นกคุ่ม) แต่กลับขอพืชผักแทน ดังอัลกุรอานระบุไว้
- “และจงรำลึกถึงขณะที่พวกเจ้ากล่าวว่า โอ้มูซา ! เราไม่สามารถจะอดทนต่ออาหารชนิดเดียวอีกต่อไปได้ ดังนั้นจงวิงวอนต่อพระเจ้าของท่านให้แก่เราเถิด พระองค์จะทรงให้ออกมาแก่เราจากสิ่งที่แผ่นดินให้งอกเงยขึ้น อันได้แก่พืชผัก แตงกวา กระเทียม ถั่ว และหัวหอม มูซาได้กล่าวว่าพวกท่านจะขอเปลี่ยนเอาสิ่งที่มันเลวกว่า ดัวยสิ่งที่มันดีกว่ากระนั้นหรือ? พวกท่านจงลงไปอยู่ในเมืองเถิด แล้วสิ่งที่พวกท่านขอก็จะเป็นของพวกท่าน และความอัปยศ และความขัดสนก็ถูกกระหน่ำลงบนพวกเขา” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัล-บะเกาะเราะฮฺ 61)

5. วางแผนสังหารนบีซะกะรียา นบียะห์ยา

6. อาณาจักรอิสราเอลถูกตั้งขึ้นมา 
นบีดาวูดได้เป็นกษัตริย์ปกครองอาณาจักรอิสรอเอล เมื่อนบีดาวูด นบีสุไลมานจากไป อิสราเอลก็แตกเป็น 2 อาณาจักร ถูกชาติอื่นๆ ทำลาย และได้รับการปลดปล่อยให้กลับไปอยู่ในเยรูซาเล็มอีกครั้ง

7. ศาสนายูดาย (ยิว) เป็นดาว 6 แฉก (ดาวเดวิด) เกิดขึ้นในสมัยกษัตริย์เดวิด (นบีดาวุด) 
ได้สร้างเมืองเยรูซาเล็ม (ส่วนหนึ่งในพื้นที่ปาเลสไตน์) ขึ้นมา  พวกเขาเชื่อว่ามีวิหารโซโลมอน (ของนบีสุไลมาน)อยู่ที่นี่ จึงคิดทำลายมัสยิดอัล-อักซอ เพราะเคยคิดว่าเดิมวิหารอยู่ใต้มัสยิดแห่งนี้ แต่ล่าสุดพิสูจน์แล้ว ไม่พบสิ่งใด

8. เข้าใจผิด คิดว่าฆ่านบีอีซาได้ 
ในคัมภีร์ซะบูร สมัยนบีดาวูด ได้กล่าวไว้ว่า จะมีผู้นำคนสุดท้าย บนีอิสรออีลคิดว่าเป็นนบีอีซา(เยซู) นบีอีซาบอกว่าไม่ใช่ จริงๆ คือ นบีมุฮัมมัด ที่จะมาเป็นผู้นำของประชาชาติยุคสุดท้าย พวกบนีอิสรออีลไม่เชื่อและวางแผนกำจัดนบีอีซา (เยซู) แต่คนที่ตายไม่ใช่นบีอีซา เป็นสาวกที่หน้าคล้ายท่านชื่อยะฮูซา ถูกฆ่าและตรึงไม้กางเขนแทน

9. เมื่อนบีมุฮัมมัดมาเป็นนบีคนสุดท้าย เขาไม่ยอมรับ 
เพราะเข้าใจผิดว่าไม่ใช่ลูกหลานนบียะกู๊บ ทั้งที่จริงเป็นเชื้อสายของนบีอิบรอฮีม เมื่อนบีมุฮัมมัดประกาศอิสลาม อพยพไปมหานครยัษริบ (ปัจจุบันคือเมืองมาดีนะห์) ซึ่งตอนนั้นบนีอิสรอีลคุมเศรษฐกิจ การเมือง ชาวมาดีนะห์รับอิสลาม พอนบีมุฮัมมัดออกรบ บนีอิสรออีลร่วมด้วยแต่หนีกลับหลายครั้ง จึงขับไล่ออกไปอยู่ที่คอยบัร เกิดสงครามคอยบัร บนีอิสราอีลพ่ายแพ้ ค่ายถูกทำลาย บนีอิสราอีลได้รับการอภัยไม่ประหารชีวิตทั้งหมด กระจัดกระจายไปอยู่ในยุโรป


- - -
ความจริงของอิสราเอลในยุคปัจจุบัน (ศาสนายิว) 
1. ชาวอิสราเอล (ยิว) ไปอยู่ยุโรป สร้างปัญหาในประเทศต่างๆ
– ยุยงให้ล้มล้างระบบกษัตริย์ (ตอนนั้นกษัตริย์เป็นเจ้าของที่ดิน) จนเกิดการปฏิวัติ รัฐประหารและยึดอำนาจกษัตริย์ แจกที่ดินให้ชาวนา ชาวนาขายที่ดินให้ชาวยิว ใช้เวลาสะสมความมั่งคั่ง ให้ประเทศต่างๆ กู้เงินไม่เอาคืน แต่ขอเก็บภาษีเพิ่ม (ระบบแบงค์ให้กู้ คืนพร้อมดอกเบี้ย ไม่มีคืนยึดทรัพย์ มาจากยิว)
– ฝึกให้คนยิวมีพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ นาน 300 ปี คือ ฝึกให้เป็นคนช่างสงสัย ช่างวิเคราะห์ ช่างถาม ไม่เชื่อตามข้อมูลเดิม ประวัติศาสตร์เขียนใหม่ เขียนตามข้อมูลจากการตรวจสอบทางวัตถุ

2. ความลับถูกเปิดเผย กษัตริย์รู้ความจริง
– มีม้าเร็วจากโบลิเวียที่มีสาส์นลับแผนของยิวถูกฟ้าผ่าตายระหว่างขี่ม้า ความลับถูกเปิดเผย กษัตริย์รู้ความจริง
– ยิวถูกขับไล่ ถูกฆ่า จากทุกประเทศ ใครไม่ถูกขับไล่ ต้องเปลี่ยนศาสนา ปลอมเป็นชาวยุโรป จึงเป็นที่มาของหมวกกะปิเยาะห์ที่เล็กลง ใส่ไว้ใต้หมวกปีกที่ฝรั่งกำหนดให้ใส่ ยุยงให้แค้นชาวคริสต์ มีแผนให้ชาวยุโรปอยู่ภายใต้คำสั่งของยิว จนเป็นที่มาของไซออนนิสต์

3. สร้างอเมริกา จนกลายเป็นมหาอำนาจ
– พ่อค้าชาวยิว 5 คน ให้เงินสนับสนุนและไปกับโคลัมบัสในการหาดินแดนใหม่ (ทวีปอเมริกาเหนือปัจจุบัน) จึงตัดสินใจไม่กลับพร้อมโคลัมบัส ชาวอินเดียนแดงไม่ยอมเป็นทาส ถูกกักขังเหมือนกาซา
– อยู่ต่อสร้างอาณาจักร ตั้งหลักแหล่งในนิวยอร์ค สร้างอเมริกา เมื่อมีสงครามโลก อเมริกาไม่ยุ่ง แต่พอสุดท้ายเข้าไปช่วย อเมริกาจึงขึ้นมามีอำนาจ กลายเป็นมหาอำนาจครอบครองยุโรป ที่สนับสนุนประเทศอิสราเอล ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่ได้รับแต่งตั้งต้องสนับสนุนอิสราเอลเท่านั้น

4. ต้องการครอบครองพื้นที่ปาเลสไตน์
– จนปี 1947 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ชาวยิวอพยพหนีมาจากยุโรป ถูกขับไล่โดยฮิตเลอร์ มาตั้งหลักแหล่งที่ปาเลสไตน์ ชาวปาเลสไตน์จึงดูแลช่วยเหลือชาวยิว (ยิวรุ่นนี้เป็นยิวที่ดี ไม่คิดร้ายต่อปาเลสไตน์)
– ชาวยิวเข้ามาตั้งถิ่นฐานโดยผิดกฎหมาย เริ่มจากขอซื้อที่ดิน ที่เป็นหิน ชาวปาเลสไตน์คิดว่าที่ดินไม่มีประโยชน์ จนถูกกว้านซื้อไปเยอะ

5. ขอให้อังกฤษ ให้พื้นที่สำหรับอิสราเอล (ไม่ต้องซื้อ)
– สมัยนั้นปาเลสไตน์เป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ ยิวจึงไปเจรจาอังกฤษ ขอแบ่งพื้นที่รัฐอิสราเอล โดยอ้างว่า เคยเป็นพื้นที่ของบรรพบุรุษ
– ยิวตั้งกองกำลังป้องกันของอิสราเอลปะทะกองกำลังติดอาวุธปาเลสไตน์ อังกฤษปราบปราม
– อังกฤษเสนอสหประชาชาติพิจารณา ซึ่งสมาชิก UN มีหลายประเทศที่เพิ่งได้เอกราช เห็นด้วยให้มีรัฐอิสราเอล ปกครองโดยไม่ชอบธรรม

6. อิสราเอลครอบครองระบบสื่อสารมวลชนและปลูกฝังความคิดทุนนิยม
– อิสราเอลคุมสื่อกระแสหลัก 99% เป็นข่าวที่ถูกปั้นแต่งให้กับชาวโลก (แต่ยังไม่สามารถควบคุมสื่อเล็กที่แชร์ผ่านมือถือได้)
– อิสราเอลสนับสนุนนักศึกษาต่างประเทศให้ไปศึกษาด้านการเกษตรที่นั่น ความรู้เกษตรเขาก้าวหน้าก็จริง แต่เขาปลูกฝังแนวคิดของการยึดครองพื้นที่ทำการเกษตร และมีความคิดว่าตัวเองดีที่สุด


วัลลอฮุอะอฺลัม
อัลลอฮฺเท่านั้นทรงรู้ดีที่สุด
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่