😊นี่คือข่าวดี: "ไมโทคอนเดรียสามารถสร้างใหม่ได้" ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า "mitochondrial biogenesis" ร่างกายของคุณสามารถสร้างไมโทคอนเดรียใหม่และแข็งแรงได้
แต่คุณต้องสร้างเงื่อนไขที่เหมาะสม นี่คือขั้นตอนที่แน่นอน:
🥩 ขั้นตอนที่ 1: รากฐานด้านอาหาร (กำจัดสารพิษ เพิ่มยา)
👉A. กำจัดน้ำมันจากเมล็ดพืช (สิ่งที่ต่อรองไม่ได้)
หยุดกิน:
* น้ำมันคาโนลา, น้ำมันถั่วเหลือง, น้ำมันข้าวโพด, น้ำมันดอกทานตะวัน, น้ำมันดอกคำฝอย, น้ำมันเมล็ดองุ่น
* อาหารทอดในร้านอาหาร (ปรุงด้วยน้ำมันจากเมล็ดพืช)
* อาหารแปรรูปที่มี "น้ำมันพืช" เป็นส่วนผสม
* มาร์การีน, สเปรดผัก
แทนที่ด้วย:
* เนย, ฆี (ghee), ไขมันวัว (tallow), น้ำมันหมู (lard) (ไขมันอิ่มตัวที่ช่วยให้เยื่อหุ้มไมโทคอนเดรียคงตัว)
* น้ำมันมะพร้าว (medium-chain triglycerides — เชื้อเพลิงไมโทคอนเดรียโดยตรง)
* น้ำมันมะกอก (สำหรับปรุงแต่ง ไม่ใช่สำหรับการปรุงอาหารที่ใช้ความร้อนสูง)
เหตุผล: PUFAs ถูกรวมเข้ากับเยื่อหุ้มไมโทคอนเดรียและทำให้เกิดความผิดปกติ การแทนที่ด้วยไขมันอิ่มตัวช่วยให้ไมโทคอนเดรียของคุณสามารถสร้างใหม่ด้วยเยื่อหุ้มที่ เสถียรและใช้งานได้
👉B. เน้นอาหารจากสัตว์ (Animal-Based) (สารอาหารไมโทคอนเดรียอยู่ในเนื้อสัตว์)
แหล่งสารอาหารที่ช่วยสนับสนุนไมโทคอนเดรียที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดคือ:
* เนื้อวัว (โดยเฉพาะเครื่องใน): CoQ10, วิตามิน B, ธาตุเหล็ก, คาร์นิทีน
* ไข่ (ไข่แดง): โคลีน (Choline), วิตามิน B, คอเลสเตอรอล (สารตั้งต้นของฮอร์โมน)
* ปลาที่มีไขมัน (แซลมอน, ปลาซาร์ดีน): โอเมก้า-3, CoQ10
* ตับ: อาหารที่มีสารอาหารหนาแน่นที่สุดในโลก (B12, B2, ธาตุเหล็ก, ทองแดง, วิตามิน A)
เป้าหมายรายวัน:
* โปรตีน 1.2-1.5 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
* แคลอรี 70-80% จากไขมัน (ไขมันสัตว์)
* เครื่องในสัตว์ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ (หรืออาหารเสริมเครื่องในสัตว์แบบแห้งถ้าคุณไม่สามารถทนกินได้)
👉C. ลดคาร์โบไฮเดรต (ฝึกไมโทคอนเดรียให้เผาผลาญไขมัน)
คุณจำเป็นต้องฟื้นฟู "ความยืดหยุ่นทางเมแทบอลิซึม" ซึ่งหมายถึงการสอนไมโทคอนเดรียของคุณให้เผาผลาญไขมันเป็นเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกครั้ง
ทำอย่างไร:
* คุมคาร์โบไฮเดรตให้ ต่ำกว่า 50 กรัมต่อวัน ในช่วง 4-6 สัปดาห์แรก (ระยะการปรับตัวที่เข้มงวด)
* หลังจากการปรับตัว หากต้องการ คุณสามารถเพิ่มคาร์โบไฮเดรตเป็น 100-150 กรัม 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์
* เน้นเนื้อสัตว์ติดมัน, ไข่, ปลา, ทานพืชให้น้อยที่สุดหรือไม่รับประทานเลยในช่วงการปรับตัว
เหตุผล: การรับประทานอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำและไขมันสูงจะบังคับให้ไมโทคอนเดรียเพิ่มวิถีการออกซิเดชันของไขมัน สิ่งนี้จะกระตุ้นให้เกิด "mitochondrial biogenesis" (การสร้างไมโทคอนเดรียใหม่)
🏃 ขั้นตอนที่ 2: การเพิ่มประสิทธิภาพวิถีชีวิต (กระตุ้นการสร้างไมโทคอนเดรียใหม่)
👉A. การออกกำลังกาย (HIIT + การฝึกแรงต้าน)
เหตุผล: การออกกำลังกายเป็นตัวกระตุ้นที่ทรงพลังที่สุดสำหรับการสร้างไมโทคอนเดรียใหม่ โดยเฉพาะ:
* การฝึกแบบเว้นช่วงที่มีความเข้มข้นสูง (HIIT)
* การฝึกแรงต้านที่หนัก (Resistance training)
แนวปฏิบัติ:
* 3 ครั้งต่อสัปดาห์: ยกน้ำหนักแบบรวม (Heavy compound lifts) เช่น สควอท, เดดลิฟต์, และเพรส เพื่อสร้างกล้ามเนื้อและส่งสัญญาณให้ไมโทคอนเดรียเติบโต
* 2 ครั้งต่อสัปดาห์: HIIT (วิ่งสปรินต์, ปั่นจักรยานสปรินต์, พายเรือ) ใช้ความพยายามสูงสุด 20-30 วินาที, พัก 2-3 นาที, ทำซ้ำ 6-8 รอบ
* ทุกวัน: เดินด้วยความเข้มข้นต่ำ (20-40 นาที) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพไมโทคอนเดรียโดยไม่สร้างความเครียด
สิ่งสำคัญ: หากคุณอ่อนเพลียมาก ให้เริ่มต้นด้วยการเดินเท่านั้นเป็นเวลา 2-4 สัปดาห์แรก เพิ่มการฝึกแรงต้านเมื่อพลังงานดีขึ้น HIIT มาเป็นลำดับสุดท้าย
👉B. การสัมผัสความเย็น (Cold Exposure)
เหตุผล: ความเครียดจากความเย็นกระตุ้นการสร้างไมโทคอนเดรียใหม่ โดยเฉพาะในเนื้อเยื่อไขมันสีน้ำตาล (brown adipose tissue) ซึ่งเป็นไขมันที่มีการเผาผลาญสูง
แนวปฏิบัติ:
* จบการอาบน้ำทุกวันด้วยน้ำเย็น เป็นเวลา 2-3 นาที
* พัฒนาไปสู่อ่างน้ำแข็ง: 10-15 นาที ที่อุณหภูมิ 50-55°F (10-13°C), 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
* ทางเลือก: การแช่น้ำเย็น, การว่ายน้ำในน้ำเย็น
👉C. การอดอาหาร (Intermittent Fasting)
เหตุผล: การอดอาหารกระตุ้น "autophagy" (การทำความสะอาดเซลล์) และการสร้างไมโทคอนเดรียใหม่ มันบังคับให้ร่างกายของคุณซ่อมแซมไมโทคอนเดรียที่เสียหายและสร้างใหม่
แนวปฏิบัติ:
* ทุกวัน: การอดอาหารแบบเว้นช่วง 16:8 (กินอาหารภายในช่วง 8 ชั่วโมง)
* รายสัปดาห์: อดอาหาร 24 ชั่วโมง 1 ครั้งต่อสัปดาห์ (มื้อเย็นถึงมื้อเย็น)
* รายเดือน: อดอาหาร 48-72 ชั่วโมง 1 ครั้ง (หากทนได้) เพื่อรีเซ็ตไมโทคอนเดรียอย่างล้ำลึก
เคล็ดลับ: การอดอาหารร่วมกับการออกกำลังกาย (การฝึกในขณะท้องว่าง) จะช่วยขยายการปรับตัวของไมโทคอนเดรีย
👉D. การนอนหลับ (สิ่งที่ต่อรองไม่ได้)
จ่ายให้ตัวเองเพื่อได้นอนหลับ (Pay Yourself to Sleep)
เหตุผล: การซ่อมแซมไมโทคอนเดรียเกิดขึ้นระหว่าง "การนอนหลับลึก" หากคุณนอนหลับอย่างมีคุณภาพไม่ได้ 7-9 ชั่วโมง คุณก็ไม่สามารถรักษาตัวเองได้
แนวปฏิบัติ:
* เข้านอนภายใน 22:00 น., ตื่นนอนภายใน 6:00-7:00 น. (การเพิ่มประสิทธิภาพจังหวะชีวิต)
* ห้องนอน: อุณหภูมิ 60-67°F (15-19°C), มืดสนิท, ไม่มี EMF (โหมดเครื่องบิน)
* ไม่ใช้หน้าจอ 1 ชั่วโมงก่อนนอน
👉E. แสงแดด (เช้า + กลางวัน)
เหตุผล: แสงสีแดงและแสงใกล้อินฟราเรดจากดวงอาทิตย์ให้พลังงานแก่ไมโทคอนเดรียโดยตรง (ผ่าน cytochrome c oxidase ในสายใยขนส่งอิเล็กตรอน)
แนวปฏิบัติ:
* สัมผัส แสงแดดยามเช้า 10-20 นาที (ภายใน 30 นาทีหลังตื่นนอน, ไม่สวมแว่นกันแดด)
* สัมผัส แสงแดดตอนกลางวัน 20-30 นาที (ให้ผิวหนังได้รับแสงเพื่อสร้างวิตามิน D)
* ดูพระอาทิตย์ตกในตอนเย็น (สนับสนุนจังหวะชีวิต)
👉F. ลดการสัมผัสสารพิษ
เหตุผล: การสัมผัสสารพิษอย่างต่อเนื่องจะขัดขวางการรักษาไมโทคอนเดรีย
ขั้นตอนการดำเนินการ:
* กรองน้ำ ของคุณ (กำจัดคลอรีน, ฟลูออไรด์, โลหะหนัก)
* กินอาหารออร์แกนิก (หรืออย่างน้อยที่สุดคือ carnivore — ผลิตภัณฑ์จากสัตว์มีสารกำจัดศัตรูพืชต่ำกว่า)
* ใช้ แก้ว/สเตนเลสสตีล (ห้ามใช้ขวดหรือภาชนะพลาสติก)
* เปลี่ยนไปใช้ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ไม่เป็นพิษ
* ทดสอบบ้านของคุณหาเชื้อรา (ทำการทดสอบ ERMI หากสงสัย)
⏱️ ลำดับเวลา: สิ่งที่คาดหวัง
👉สัปดาห์ที่ 1-2 ระยะปรับตัว: (อาจมีอาการอ่อนเพลีย, ปวดศีรษะ, หงุดหงิด ขณะที่ร่างกายเปลี่ยนจากกลูโคสไปใช้ไขมัน) "พลังงานยังไม่คงที่" การนอนหลับอาจดีขึ้น
👉สัปดาห์ที่ 3-4 พลังงานเริ่มคงที่ ความอ่อนเพลียยามเช้าลดลง อาการสมองตื้อ (Brain fog) ดีขึ้นชัดเจนอย่างเห็นได้ชัด ความทนทานต่อการออกกำลังกายดีขึ้น
👉สัปดาห์ที่ 6-8 พลังงานดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สามารถออกกำลังกายได้โดยไม่หมดแรง ความชัดเจนทางจิตใจคงอยู่ตลอดทั้งวัน ไม่มีอาการพลังงานตกในช่วงบ่ายอีกต่อไป
👉สัปดาห์ที่ 12 ขึ้นไป การสร้างไมโทคอนเดรียใหม่เต็มรูปแบบ รู้สึกว่าพลังงานมีเหลือเฟือ ไม่ใช่การฝืนใช้ ความยืดหยุ่นต่อความเครียดดีขึ้น สามารถรับมือกับการฝึกแบบอดอาหารและการสัมผัสความเย็นได้โดยไม่มีปัญหา
😊😊😊
CR
https://www.facebook.com/share/p/1Kh9Hg5KNG/?mibextid=wwXIfr
ภาพจากWiki
⚡ แนวทางการแก้ไข: วิธีสร้างไมโทคอนเดรียของคุณใหม่🎉
แต่คุณต้องสร้างเงื่อนไขที่เหมาะสม นี่คือขั้นตอนที่แน่นอน:
🥩 ขั้นตอนที่ 1: รากฐานด้านอาหาร (กำจัดสารพิษ เพิ่มยา)
👉A. กำจัดน้ำมันจากเมล็ดพืช (สิ่งที่ต่อรองไม่ได้)
หยุดกิน:
* น้ำมันคาโนลา, น้ำมันถั่วเหลือง, น้ำมันข้าวโพด, น้ำมันดอกทานตะวัน, น้ำมันดอกคำฝอย, น้ำมันเมล็ดองุ่น
* อาหารทอดในร้านอาหาร (ปรุงด้วยน้ำมันจากเมล็ดพืช)
* อาหารแปรรูปที่มี "น้ำมันพืช" เป็นส่วนผสม
* มาร์การีน, สเปรดผัก
แทนที่ด้วย:
* เนย, ฆี (ghee), ไขมันวัว (tallow), น้ำมันหมู (lard) (ไขมันอิ่มตัวที่ช่วยให้เยื่อหุ้มไมโทคอนเดรียคงตัว)
* น้ำมันมะพร้าว (medium-chain triglycerides — เชื้อเพลิงไมโทคอนเดรียโดยตรง)
* น้ำมันมะกอก (สำหรับปรุงแต่ง ไม่ใช่สำหรับการปรุงอาหารที่ใช้ความร้อนสูง)
เหตุผล: PUFAs ถูกรวมเข้ากับเยื่อหุ้มไมโทคอนเดรียและทำให้เกิดความผิดปกติ การแทนที่ด้วยไขมันอิ่มตัวช่วยให้ไมโทคอนเดรียของคุณสามารถสร้างใหม่ด้วยเยื่อหุ้มที่ เสถียรและใช้งานได้
👉B. เน้นอาหารจากสัตว์ (Animal-Based) (สารอาหารไมโทคอนเดรียอยู่ในเนื้อสัตว์)
แหล่งสารอาหารที่ช่วยสนับสนุนไมโทคอนเดรียที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดคือ:
* เนื้อวัว (โดยเฉพาะเครื่องใน): CoQ10, วิตามิน B, ธาตุเหล็ก, คาร์นิทีน
* ไข่ (ไข่แดง): โคลีน (Choline), วิตามิน B, คอเลสเตอรอล (สารตั้งต้นของฮอร์โมน)
* ปลาที่มีไขมัน (แซลมอน, ปลาซาร์ดีน): โอเมก้า-3, CoQ10
* ตับ: อาหารที่มีสารอาหารหนาแน่นที่สุดในโลก (B12, B2, ธาตุเหล็ก, ทองแดง, วิตามิน A)
เป้าหมายรายวัน:
* โปรตีน 1.2-1.5 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
* แคลอรี 70-80% จากไขมัน (ไขมันสัตว์)
* เครื่องในสัตว์ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ (หรืออาหารเสริมเครื่องในสัตว์แบบแห้งถ้าคุณไม่สามารถทนกินได้)
👉C. ลดคาร์โบไฮเดรต (ฝึกไมโทคอนเดรียให้เผาผลาญไขมัน)
คุณจำเป็นต้องฟื้นฟู "ความยืดหยุ่นทางเมแทบอลิซึม" ซึ่งหมายถึงการสอนไมโทคอนเดรียของคุณให้เผาผลาญไขมันเป็นเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกครั้ง
ทำอย่างไร:
* คุมคาร์โบไฮเดรตให้ ต่ำกว่า 50 กรัมต่อวัน ในช่วง 4-6 สัปดาห์แรก (ระยะการปรับตัวที่เข้มงวด)
* หลังจากการปรับตัว หากต้องการ คุณสามารถเพิ่มคาร์โบไฮเดรตเป็น 100-150 กรัม 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์
* เน้นเนื้อสัตว์ติดมัน, ไข่, ปลา, ทานพืชให้น้อยที่สุดหรือไม่รับประทานเลยในช่วงการปรับตัว
เหตุผล: การรับประทานอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำและไขมันสูงจะบังคับให้ไมโทคอนเดรียเพิ่มวิถีการออกซิเดชันของไขมัน สิ่งนี้จะกระตุ้นให้เกิด "mitochondrial biogenesis" (การสร้างไมโทคอนเดรียใหม่)
🏃 ขั้นตอนที่ 2: การเพิ่มประสิทธิภาพวิถีชีวิต (กระตุ้นการสร้างไมโทคอนเดรียใหม่)
👉A. การออกกำลังกาย (HIIT + การฝึกแรงต้าน)
เหตุผล: การออกกำลังกายเป็นตัวกระตุ้นที่ทรงพลังที่สุดสำหรับการสร้างไมโทคอนเดรียใหม่ โดยเฉพาะ:
* การฝึกแบบเว้นช่วงที่มีความเข้มข้นสูง (HIIT)
* การฝึกแรงต้านที่หนัก (Resistance training)
แนวปฏิบัติ:
* 3 ครั้งต่อสัปดาห์: ยกน้ำหนักแบบรวม (Heavy compound lifts) เช่น สควอท, เดดลิฟต์, และเพรส เพื่อสร้างกล้ามเนื้อและส่งสัญญาณให้ไมโทคอนเดรียเติบโต
* 2 ครั้งต่อสัปดาห์: HIIT (วิ่งสปรินต์, ปั่นจักรยานสปรินต์, พายเรือ) ใช้ความพยายามสูงสุด 20-30 วินาที, พัก 2-3 นาที, ทำซ้ำ 6-8 รอบ
* ทุกวัน: เดินด้วยความเข้มข้นต่ำ (20-40 นาที) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพไมโทคอนเดรียโดยไม่สร้างความเครียด
สิ่งสำคัญ: หากคุณอ่อนเพลียมาก ให้เริ่มต้นด้วยการเดินเท่านั้นเป็นเวลา 2-4 สัปดาห์แรก เพิ่มการฝึกแรงต้านเมื่อพลังงานดีขึ้น HIIT มาเป็นลำดับสุดท้าย
👉B. การสัมผัสความเย็น (Cold Exposure)
เหตุผล: ความเครียดจากความเย็นกระตุ้นการสร้างไมโทคอนเดรียใหม่ โดยเฉพาะในเนื้อเยื่อไขมันสีน้ำตาล (brown adipose tissue) ซึ่งเป็นไขมันที่มีการเผาผลาญสูง
แนวปฏิบัติ:
* จบการอาบน้ำทุกวันด้วยน้ำเย็น เป็นเวลา 2-3 นาที
* พัฒนาไปสู่อ่างน้ำแข็ง: 10-15 นาที ที่อุณหภูมิ 50-55°F (10-13°C), 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
* ทางเลือก: การแช่น้ำเย็น, การว่ายน้ำในน้ำเย็น
👉C. การอดอาหาร (Intermittent Fasting)
เหตุผล: การอดอาหารกระตุ้น "autophagy" (การทำความสะอาดเซลล์) และการสร้างไมโทคอนเดรียใหม่ มันบังคับให้ร่างกายของคุณซ่อมแซมไมโทคอนเดรียที่เสียหายและสร้างใหม่
แนวปฏิบัติ:
* ทุกวัน: การอดอาหารแบบเว้นช่วง 16:8 (กินอาหารภายในช่วง 8 ชั่วโมง)
* รายสัปดาห์: อดอาหาร 24 ชั่วโมง 1 ครั้งต่อสัปดาห์ (มื้อเย็นถึงมื้อเย็น)
* รายเดือน: อดอาหาร 48-72 ชั่วโมง 1 ครั้ง (หากทนได้) เพื่อรีเซ็ตไมโทคอนเดรียอย่างล้ำลึก
เคล็ดลับ: การอดอาหารร่วมกับการออกกำลังกาย (การฝึกในขณะท้องว่าง) จะช่วยขยายการปรับตัวของไมโทคอนเดรีย
👉D. การนอนหลับ (สิ่งที่ต่อรองไม่ได้)
จ่ายให้ตัวเองเพื่อได้นอนหลับ (Pay Yourself to Sleep)
เหตุผล: การซ่อมแซมไมโทคอนเดรียเกิดขึ้นระหว่าง "การนอนหลับลึก" หากคุณนอนหลับอย่างมีคุณภาพไม่ได้ 7-9 ชั่วโมง คุณก็ไม่สามารถรักษาตัวเองได้
แนวปฏิบัติ:
* เข้านอนภายใน 22:00 น., ตื่นนอนภายใน 6:00-7:00 น. (การเพิ่มประสิทธิภาพจังหวะชีวิต)
* ห้องนอน: อุณหภูมิ 60-67°F (15-19°C), มืดสนิท, ไม่มี EMF (โหมดเครื่องบิน)
* ไม่ใช้หน้าจอ 1 ชั่วโมงก่อนนอน
👉E. แสงแดด (เช้า + กลางวัน)
เหตุผล: แสงสีแดงและแสงใกล้อินฟราเรดจากดวงอาทิตย์ให้พลังงานแก่ไมโทคอนเดรียโดยตรง (ผ่าน cytochrome c oxidase ในสายใยขนส่งอิเล็กตรอน)
แนวปฏิบัติ:
* สัมผัส แสงแดดยามเช้า 10-20 นาที (ภายใน 30 นาทีหลังตื่นนอน, ไม่สวมแว่นกันแดด)
* สัมผัส แสงแดดตอนกลางวัน 20-30 นาที (ให้ผิวหนังได้รับแสงเพื่อสร้างวิตามิน D)
* ดูพระอาทิตย์ตกในตอนเย็น (สนับสนุนจังหวะชีวิต)
👉F. ลดการสัมผัสสารพิษ
เหตุผล: การสัมผัสสารพิษอย่างต่อเนื่องจะขัดขวางการรักษาไมโทคอนเดรีย
ขั้นตอนการดำเนินการ:
* กรองน้ำ ของคุณ (กำจัดคลอรีน, ฟลูออไรด์, โลหะหนัก)
* กินอาหารออร์แกนิก (หรืออย่างน้อยที่สุดคือ carnivore — ผลิตภัณฑ์จากสัตว์มีสารกำจัดศัตรูพืชต่ำกว่า)
* ใช้ แก้ว/สเตนเลสสตีล (ห้ามใช้ขวดหรือภาชนะพลาสติก)
* เปลี่ยนไปใช้ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ไม่เป็นพิษ
* ทดสอบบ้านของคุณหาเชื้อรา (ทำการทดสอบ ERMI หากสงสัย)
⏱️ ลำดับเวลา: สิ่งที่คาดหวัง
👉สัปดาห์ที่ 1-2 ระยะปรับตัว: (อาจมีอาการอ่อนเพลีย, ปวดศีรษะ, หงุดหงิด ขณะที่ร่างกายเปลี่ยนจากกลูโคสไปใช้ไขมัน) "พลังงานยังไม่คงที่" การนอนหลับอาจดีขึ้น
👉สัปดาห์ที่ 3-4 พลังงานเริ่มคงที่ ความอ่อนเพลียยามเช้าลดลง อาการสมองตื้อ (Brain fog) ดีขึ้นชัดเจนอย่างเห็นได้ชัด ความทนทานต่อการออกกำลังกายดีขึ้น
👉สัปดาห์ที่ 6-8 พลังงานดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สามารถออกกำลังกายได้โดยไม่หมดแรง ความชัดเจนทางจิตใจคงอยู่ตลอดทั้งวัน ไม่มีอาการพลังงานตกในช่วงบ่ายอีกต่อไป
👉สัปดาห์ที่ 12 ขึ้นไป การสร้างไมโทคอนเดรียใหม่เต็มรูปแบบ รู้สึกว่าพลังงานมีเหลือเฟือ ไม่ใช่การฝืนใช้ ความยืดหยุ่นต่อความเครียดดีขึ้น สามารถรับมือกับการฝึกแบบอดอาหารและการสัมผัสความเย็นได้โดยไม่มีปัญหา
😊😊😊
CR https://www.facebook.com/share/p/1Kh9Hg5KNG/?mibextid=wwXIfr
ภาพจากWiki