ดำรงความดี มีความพอเพียง ยินดียอมรับ (การพัฒนานิสัยตนเอง แบบทำได้จริง ตอน14)

ดำรงความดี มีความพอเพียง ยินดียอมรับ

นิสัย 3 ข้อนี้ จะรักษาไว้ได้ ถ้ามีความเชื่อในโลกหน้า

- การรักษาความดี มุ่งมั่นทำความดี จะไม่ยึดติดกับโลกชั่วคราวใบนี้ ความดีที่ทำ ไม่ใช่แค่ได้รับผลตอบแทนในโลกนี้ แต่จะได้รับรางวัลในโลกหน้าด้วย การมองการณ์ไกลไปโลกหน้า ทำให้เราไม่ท้อง่ายๆ กับบททดสอบในโลกนี้ และจะใช้เวลาอย่างคุ้มค่า ไม่ใช้เวลาฟุ่มเฟือยไปกับสิ่งไร้สาระ บันเทิง

- การมีความพอเพียง เมื่อใจมุ่งไปโลกหน้า ก็จะใช้ชีวิตสมถะในโลกนี้ ไม่อะไรกับโลกนี้มาก ใช้จ่ายไม่เกินเงินที่มี เลือกซื้อของดีไม่แพง มีเงินเหลือเก็บใส่ธนาคารโลกหน้า หมายถึง บริจาคเป็นผลบุญบันทึกความดีสะสมโลกหน้า ผู้ที่ใช้ชีวิตสมถะ ไม่วิ่งตามดุนยาโลกนี้ ดุนยาจะไล่ตาม เช่น คนที่ไม่หวังชื่อเสียง มักได้รับการเชื่อถือ มีชื่อเสียง คนที่ไม่ต้องการตำแหน่งสูง มักจะได้รับตำแหน่งหน้าที่ความรับผิดชอบที่สูงขึ้น แต่ถ้าใจมุ่งอยากได้สิ่งชั่วคราว ก็มักจะรักษาไว้ได้ไม่นาน

- การยินดียอมรับในบททดสอบ รู้ว่าบททดสอบมาจากอัลลอฮฺ ผู้เป็นพระเจ้า เวลาเจอปัญหาอุปสรรค จะไม่บ่น จะไม่โทษคนอื่น แต่จะตรวจสอบตัวเองก่อนว่ามีอะไรผิดพลาดต้องแก้ไข ใจที่ยอมรับจะมองเห็นทางออก มีสติ แต่ถ้าบ่น โทษ จะมองเห็นทางออกยาก เพราะคิดไม่ดีก็ได้รับความไม่ดี คิดดีได้ดี พระองค์ตั้งกฎการคิดนี้ไว้

28. ดำรงไว้ซึ่งคุณงามความดี 

“ผู้ใดปฏิบัติความดีไม่ว่าจะเป็นเพศชายหรือเพศหญิงก็ตาม โดยที่เขาเป็นผู้ศรัทธา ดังนั้นเราจะให้เขาดำรงชีวิตที่ดี (ตัฟซีร: ในโลกนี้ เป็นการดำรงชีวิตด้วยความพอใจและริสกีที่ฮะลาล และความสำเร็จแห่งการงานที่ดี อัลหะซันกล่าวว่า การดำรงชีวิตของคนหนึ่งคนใดจะดีขึ้นไม่ได้ เว้นแต่ในสวนสวรรค์ เพราะมันเป็นการมีชีวิตอยู่ที่ไม่ตาย ความมั่งมีที่ไม่มีการจนลง ความสุขสบายที่ไม่มีการเจ็บป่วย และความสุขที่ไม่มีทุกข์) และแน่นอนเราจะตอบแทนพวกเขาซึ่งรางวัลของพวกเขา ที่ดียิ่งกว่าที่พวกเขาได้เคยกระทำไว้” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอันนะหฺลฺ 97 ตัฟซีรโดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ประเทศไทย)

“เมื่อเหตุการณ์ (วันกิยามะฮฺ) ได้เกิดขึ้น ไม่มีผู้ปฏิเสธคนใดปฏิเสธต่อเหตุการณ์ของมัน ต่อเหตุการณ์นั้นทำให้ชนกลุ่มหนึ่งต่ำต้อย ชนอีกกลุ่มหนึ่งสูงส่ง เมื่อแผ่นดินถูกสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และบรรดาภูเขาได้แตกสลาย และมันกลายเป็นผุยผงปลิวว่อน และพวกเจ้าจะแยกออกเป็นสามกลุ่ม คือกลุ่มทางขวา (ผู้ได้รับบันทึกด้วยมือขวา) เจ้ารู้ได้อย่างไรว่ากลุ่มทางขวาคือใคร? และกลุ่มทางซ้าย (ผู้ได้รับบันทึกด้วยมือซ้าย) เจ้ารู้ได้อย่างไรว่ากลุ่มทางซ้ายคือใคร? และกลุ่มแนวหน้า คือกลุ่มแนวหน้า” (ตัฟซีร: สำหรับกลุ่มแนวหน้า คือ บรรดาผู้ที่มีตำแหน่งชั้นสูงในสวรรค์ ส่วนกลุ่มทางขวา คือ บรรดาผู้ที่มีฐานะ หรือตำแหน่งรองลงมาของชาวสวรรค์ ส่วนกลุ่มทางซ้าย คือ ชาวนรก) และกลุ่มแนวหน้า คือกลุ่มแนวหน้า (ตัฟซีร: นี่คือกลุ่มที่สาม คือบรรดาผู้ที่รีบรุดไปสู่ความดี ความโปรดปราน และสวนสวรรค์) เขาเหล่านั้น คือบรรดาผู้ใกล้ชิด (ตัฟซีร: บุคคลเหล่านั้น คือบรรดาผู้ใกล้ชิด กับอัลลอฮฺ อยู่เคียงข้างพระองค์ ภายใต้บัลลังก์ของพระองค์ และคฤหาสน์อันมีเกียรติของพระองค์) ในสวนสวรรค์หลากหลายแห่งความสุขสำราญ เป็นกลุ่มชนจำนวนมาก จากชนรุ่นก่อนๆ และเป็นกลุ่มชนจำนวนน้อย จากชนรุ่นหลังๆ” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลวากิอะฮฺ 1-14 ตัฟซีรโดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับประเทศไทย)

(วันกิยามะฮฺ คือวันฟื้นคืนชีพ หลังจากที่มนุษย์ตาย ไปพักชั่วคราวอยู่ในโลกแห่งความตาย หลังจากวันสิ้นโลก จะมีวันฟื้นคืนชีพ มนุษย์และสัตว์จะได้ฟื้นคืนชีพมาใหม่ รอการสืบสวน ตอบแทน ไปสวรรค์/นรก

29. มีความพอเพียง 

สมถะ พอเพียง พอดี พอประมาณ ไม่ฟุ่มเฟือย เช่น

1) ใช้เวลาอย่างคุ้มค่า ไม่ใช้เวลาฟุ่มเฟือยกับสิ่งไร้สาระ  

2) กินอย่างพอดี ไม่กินฟุ่มเฟือย เกินพอดี หรือกินของไม่มีประโยชน์จนเจ็บป่วย  เช่น หวานมาก มันมาก เค็มมาก เผ็ดจัด กินบ่อยมักเป็นโรค

3) ใช้อย่างพอประมาณ ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ใช้ของตามเหมาะสม เช่น ไม่จ่ายเกินเงินที่มี ไม่มีหนี้ ไม่ซื้อของผ่อน ไม่ซื้อของสะสม เช่น รองเท้า กระเป๋า มากไป ไม่ตามแฟชั่น เน้นคุ้มค่า และประหยัด แบ่งเงินไว้บริจาค ยิ่งให้ อัลลอฮฺยิ่งเพิ่มพูน อินชาอัลลอฮฺ (หากพระองค์ทรงประสงค์)

ใช้ชีวิตพอดี มักไม่เครียด เพราะไม่ฟุ่มเฟือยจนตัวเองมีปัญหาตามมา

ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “ใครก็ตามที่ละเว้นจากการขอคนอื่น อัลลอฮฺจะทรงให้เขาพอเพียง และใครก็ตามที่พยายามทำให้ตัวเองเพียงพอ อัลลอฮฺจะทรงทำให้เขาเพียงพอ และใครก็ตามที่ยังคงอดทน อัลลอฮฺจะทรงทำให้เขาอดทน ไม่มีใครได้รับความโปรดปรานอะไรที่ดีกว่าและยิ่งใหญ่กว่าความอดทน” (ส่วนหนึ่งจากหะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดย บุคอรี เลขที่ 1469 และมุสลิม เลขที่ 1053)

ท่านสะฮลฺ บินสะอดฺ อัสสาอิดีย์ กล่าวว่า : ชายคนหนึ่งได้มาหาท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม แล้วกล่าวว่า ‘ท่านรอซูลุลลอฮฺครับ โปรดแนะนำการงานหนึ่งแก่ผม ที่เมื่อผมทำมันแล้ว จะทำให้อัลลอฮฺรักผมและทำให้ผู้คนรักผมด้วย’ ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ตอบว่า “ท่านจงมีสมถะต่อโลกใบนี้ แล้วอัลลอฮฺจะรักท่าน และจงมีสมถะ (ไม่อยากได้) ต่อสิ่งที่อยู่ในมือ (การครอบครอง) ของผู้คน แล้วพวกเขาจะรักท่าน” (หะดีษหะสัน บันทึกโดยอิบนุมาญะฮฺ เลขที่ 4102)

ท่านรอซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า “แท้จริงอัลลอฮฺทรงรักบ่าวที่เป็นผู้มีความยำเกรง ผู้มีความพอเพียง ผู้ที่ซ่อนปิดบังตัวเอง”  (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยมุสลิม เลขที่ 2965)

(ผู้ที่ซ่อนปิดบังตัวเอง คือ ทำความดีไม่บอกใคร พระองค์รู้เท่านั้น)

30. ยอมรับในสิ่งที่อัลลอฮฺให้ (อัรริฎอ)

พอใจในสิ่งที่มี ยอมรับในบททดสอบ แต่ไม่ใช่แปลว่า ไม่ทำอะไร การพัฒนาตนเองจะเกิดเมื่อรู้ว่าเราอยู่จุดไหน จะรู้ว่าตัวเองเป็นน้ำครึ่งแก้ว ศึกษาความรู้เพิ่มเติม จะยอมรับในความผิดพลาด เพื่อปรับปรุงแก้ไข

ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “คนที่รับอิสลามคือผู้ได้รับความสำเร็จและได้รับปัจจัยที่เพียงพอ และอัลลอฮฺจะทรงทำให้เขาพอใจกับสิ่งที่พระองค์ประทานแก่เขา” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยมุสลิม เลขที่ 1054)