สวัสดีวันสุข ครับ ศุกร์นี้มี เรื่องเล่าดีดี จากผู้ใหญ่มาฝากครับ 
ปล. หากพิมพ์ผิด พิมพ์ตกทำให้ความหมายเปลี่ยนต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าครับ เนื่องจากเป็นเรื่องเล่า นะครับ
     
 เด็กหนุ่มคนหนึ่ง เดินเข้าไปเลือกซื้อชามในร้านแห่งนึง เขาหยิบชามเก่าๆใบนึงขึ้นมา  เมื่อเห็นชามใบที่ถูกใจก็เอาชามที่อยู่ในมือเคาะไป ยังชามใบที่ถูกใจเพื่อฟังเสียงชามกระทบกัน  เมื่อชามทั้งสองใบกระทบกัน มันกลายเป็นเสียง หนักๆไม่ดังกังวานเหมือนที่เขาคิด ก็รู้สึกผิดหวัง  
 
     🥣 จากนั้นเขาก็เลือกชามใบใหม่ ใบแล้วใบเล่า ชามทุกใบก็ทำให้เขาส่ายหน้าและผิดหวัง  ไม่มีใบใดที่ทำให้เขาพอใจได้เลย แม้แต่ใบที่เถ้าแก่เลือกให้ ซึ่งเป็นชามเกรด เอ เขาก็ยังส่ายหน้าไม่พอใจอยู่ดี   แต่ด้วยความสงสัยของเถ้าแก่  ก็ถามชายหนุ่ม ว่าเอ๊ะคุณ เอาชามเคาะกันทำไม  เด็กหนุ่มนั้นก็บอก อาจารย์ท่านหนึ่งสอนผมว่าหากจะซื้อชามให้เอาชามมาเคาะกัน  หากเสียงดังกังวาน นั้นแสดงว่าชามใบนั้นอะมีคุณภาพครับ เออนั่นก็เป็นหลักการซื้ออะนะ  
     🕵️ เจ้าของร้านเค้าก็หยิบชามใบนึงขึ้นมาส่งให้เขา แล้วก็บอกเขาว่า  ถ้าอย่างนั้นคุณลองเอาชามใบนี้ ไปเคาะกับชามใบอื่นดูสิ  ผมเชื่อว่าคุณน่าจะได้ชามที่คุณพอใจนะ   ชายหนุ่มเขาก็รับชามใบนั้นมาแบบเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง (ไม่เกี่ยวกับคนฃะครึ่งพลัสนะครับ 55) ก็ลองมาทำตาม ซึ่งมันก็น่าแปลกครับท่านผู้ฟัง ไม่ว่าเค้าหยิบชามใบใดขึ้นมา พอเอามาเคาะกับชามที่เถ้าแก่หยิบให้นั้นน่ะ  ชามทุกใบก็เสียงดังกังวาน เหมือนที่อาจารย์สอนเอาไว้ตามตำราเลย  เออก็อดไม่ได้ มันแปลกจริงๆนะครับ ทำไมชามใบนี้ถึงพิเศษ แบบนี้ล่ะครับมันต่างจากชามที่ผมหยิบมาเมื่อสักครู่นี้ยังไง  
     😊 เถ้าแก่ ก็อมยิ้มชอบใจเฉลยให้ชายหนุ่มฟัง  ชามใบนี้ไม่ได้มีอะไรพิเศษกว่าชามอื่นหรอกครับ  แต่ที่ต่างกันเพราะว่าชามที่ คุณหยิบมาครั้งแรกเมื่อสักครู่อ่ะ ที่เอามันมาเป็นตัววัดชี้วัดน่ะมันเป็นชามที่มีรอยร้าวอยู่   เมื่อคุณเอาไปเคาะกับชามใบใดๆมันก็จะมีแต่เสียงหนักๆไม่กังวานนั่นแหละ  เสียงมันก็จะไม่เพราะแบบที่อาจารย์คุณสอนหรอก  เพราะฉะนั้นน่ะ  ถ้าคุณต้องการชามดีๆคุณก็ต้องมั่นใจก่อนว่า ไอ้ชามที่เลือกอยู่ในมือคุณน่ะที่เป็นตัวชี้วัดน่ะ มันก็ต้องดีแล้วเหมือนกัน  ถ้าไม่ดีแต่แรก เคาะไปมันจะออก มาดีได้ยังไง   
     เออ อันนี้มันก็เข้าถึงจะสัจธรรมสิครับ 

     ❤️🩹 ไอ้ชามที่ร้าวแล้วมันก็เหมือนใจที่มีรอย มันก็เปรียบเหมือนกับการที่เราคบคนนะครับ  หากคุณมีความจริงใจในการคบคน  มีความเป็นมิตรสหาย นี่มันก็เหมือนชามที่กระทบกัน ชามก็ดังกังวาน ชามร้าวจะกังวานได้ยังไง  เมื่ออยู่ร่วมคบหากับใครถ้าใจของเราเนี่ย มันเต็มไปเรื่องความคลางแคลงสงสัย  จิดใจเรามันไม่ได้เชื่อมั่นที่จะคบกับใคร ไม่บริสุทธิ์ใจแล้วเนี่ย  บางทีเนี่ยเราก็ยากที่เราจะได้มิตรที่ดี  หรือว่ายากที่เราจะไปคบหาสมาคมกับคนได้มากๆ คือที่จริงแล้วทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเนี่ยนะฮะ เงื่อนไขสำคัญที่สุดเนี่ยไม่ใช่ว่าเราไปวัดตัวเขาคนเดียวครับ มันก็เหมือนชามที่ผมบอก  มันต้องวัดที่ ตัวเราด้วยเราจะคบกับใคร ไปดูเขาว่าเขาดีหรือเปล่าเราถึงค่อยคบนั้นน่ะไม่ถูกต้องหรอก  มันต้องถามตัวเราเองก่อนว่าเราดีพอดีที่จะคบกับเขาได้ด้วยหรือเปล่า
     
     🌷 คุณมีความจริงใจ  ให้เขาไหมถ้าคุณมีความจริงใจคุณก็จะต้อง ได้รับความไว้วางใจตอบกลับมา  
     🎁เมื่อคุณมี ความรักและความเอื้ออาทร คุณก็จะได้ ความรักความเอื้ออาทรกลับมา  
     🤡 ถ้าหากว่าคุณเสแสร้ง อิจฉาหรือชิงชัง สิ่งที่คุณได้รับจากการคบหามันก็คือกำแพงสูงกั้นของความ อิจฉาความเย็นชา  
     💮🌸💐 เพราะฉะนั้นท่านผู้ฟังครับในชีวิตเราต่างมีชาม 1 ใบฮะ  ชามใบนั้น ใส่ความดีความไว้ใจ  การให้อภัย ความจริงใจ หรือจะใส่ความชั่วร้ายความเสแสร้ง ความคับแค้น ความสงสัย ความเห็นแก่ตัว   สุดท้ายมันก็สุดแท้แต่ท่าน สุดแท้แต่เรา  ทำชามของเราให้ดีซะก่อน จากนั้นเราจึงจะมีชามดีๆเข้ามา กระทบกับเรามากมาย  จากนั้นเราจะมีคนดีๆมาสู่ชีวิตของเราอย่างมากมาย  นิทานเรื่องนี้ ก็สอนให้รู้ว่า  คบหากับใคร จงคบกันด้วยความจริงใจ นะครับ
 
 
เรื่องเล่าจาก ถิรชัย
Cr. บิ๊กแป๊ะ ถิรชัย วุฒิธรรม  รายการ Morning Talk FM.99
แล้วพบกันใหม่ในตอนหน้านะครับ
 つづく																																	
  
							 
						
📣 เรื่องเล่า จากผู้ใหญ่ใจดี ตอนที่ 11 ว่ากันด้วยเรื่อง ชามที่ร้าว...ก็เหมือนใจที่มีรอย
เรื่องเล่าจาก ถิรชัย
Cr. บิ๊กแป๊ะ ถิรชัย วุฒิธรรม รายการ Morning Talk FM.99
แล้วพบกันใหม่ในตอนหน้านะครับ
つづく