พาไปรู้จักเรื่องราวของ โทมัส เคราท์ ชายนอร์เวย์อายุ 60 ปี ถูกวินิจฉัยว่ามีภาวะน้ำหนักเกินมา 12 ปี
ลดน้ำหนักเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จ สุดท้าย หมอพบว่าเป็นคือก้อนเนื้องอกที่หนักกว่า 27 กิโลกรัม และได้รับการผ่าออกในที่สุด
เคราท์ อาศัยอยู่ที่เมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์ ใครๆ ต่างก็บอกว่าเขาอ้วนลงพุง
ซึ่งเจ้าตัวก็เชื่อเช่นนั้นมานาน กว่า 12 ปี แบกหน้าท้องใหญ่โต ที่เพิ่มขนาดขึ้นเรื่อยๆ
ด้วยความหวังว่าความพยายามในการลดน้ำหนักของตัวเองจะสำเร็จในสักวัน
ครั้งที่เริ่มมีปัญหาสุขภาพ คือเมื่อปี 2011 อยู่ๆ ท้องก็เริ่มบวมขึ้นเรื่อยๆ หนึ่งปีต่อมา เขาก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2
และโรคอ้วน ทำให้เขามุ่งมั่นเข้าเรียนหลักสูตรลดน้ำหนักและโภชนาการ เวลาผ่านไป หน้าท้องเขาก็ค่อยๆ บวมขยายใหญ่ขึ้น
แต่ก็ไม่รู้เลยว่า มะเร็งกำลังพัฒนาอยู่ในร่างกายของตัวเอง
เมื่อความพยายามในการลดน้ำหนักด้วยตัวเองไม่เป็นผล น้ำหนักที่เพิ่มไม่หยุด
ทำให้เกิดความกังวลว่าโรคอ้วนจะทำให้สุขภาพแย่ลง แพทย์ลงความเห็นให้เขาผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหาร
แก้ปัญหาโรคอ้วนที่เป็นอยู่ ในตอนนั้นเองความจริงถึงปรากฏ
เคราท์ บอกว่า ตลอดหลายปี เปลี่ยนหมอมาหลายคน จนในที่สุดปี 2019 ก็ได้รับอนุญาตให้ทำการผ่าตัดกระเพาะ
แม้การผ่าตัดกะเพราะจะทำให้น้ำหนักจะลดลง แต่ท้องของกลับยังคงขนาดใหญ่อย่างผิดปกติ
ในขณะที่ใบหน้าและแขนกลับซูบผอมลง ทำให้หมอนำตัวเขาเข้าสแกนด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ถึงได้เจอ เนื้องอกขนาดใหญ่ที่นอนอยู่ในท้องมานาน
จากนั้นกระบวนการรักษาและวินิจฉัยเปลี่ยนไปทันที แพทย์ใช้เวลานานถึงสองสัปดาห์กว่าจะวินิจฉัยได้ว่า เคราท์มีเนื้องอกชนิดหายาก ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อไขมันขนาดใหญ่ที่ภายในประกอบด้วยมะเร็งขนาดเล็กหลายจุดแทรกอยู่ท่ามกลางไขมันเหล่านั้น
ทำให้ต้องผ่าตัดเอาก้อนเนื้อนี้ออกโดยด่วน
การผ่าตัดกินเวลายาวนานถึง 10 ชั่วโมง เพื่อเอาเนื้องอกขนาดมหึมาจากช่องท้อง ซึ่งมีน้ำหนักถึง 27 กิโลกรัม
และมีเส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 52.3 เซนติเมตร
เนื้องอกนี้สร้างความเสียหายรุนแรงต่อร่างกายของเขา จนแพทย์ต้องตัดลำไส้เล็กบางส่วนออก รวมถึงไตข้างขวาด้วย และถึงแม้จะผ่านการผ่าตัดแล้ว เขาก็ยังคงมีเนื้อเยื่อมะเร็งที่กำลังเติบโตอยู่ภายในร่างกาย
แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่ได้ส่งผลต่อร่างกายอย่างเดียว แต่จิตใจของเขาก็กระทบกระเทือนหนัก
เพราะเคราท์ไม่เคยคิดมาก้อนว่าสิ่งที่อยู่กับเขาทุกวันคือก้อนเนื้อร้าย หลังจากเอาก้อนเนื้อขนาดใหญ่ออกแล้ว
จนถึงตอนนี้ เขาต้องพบจิตแพทย์ทุกๆ 2 สัปดาห์เพื่อทำจิตบำบัด แล้วก็ต้องไปหาหมอมะเร็งปีละ 2 ครั้ง
เพราะในตัวผมยังมีเนื้องอกที่หลงเหลือ หมอบอกว่ามันไม่สามารถเอาออกได้ เนื่องจากมันเชื่อมติดกับอวัยวะหลายส่วน
เคราท์และภรรยาได้ยื่นฟ้องแพทย์ที่เคยรักษาเขาในช่วงก่อนหน้านี้ ฐานละเลยไม่ตรวจพบเนื้องอกขนาดใหญ่ที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
แต่คดีนี้ถูกศาลยกฟ้องในเบื้องต้น เพราะแพทย์ให้เหตุผลว่า เนื้องอกชนิดนี้พบได้ยากมากจนไม่อาจกล่าวโทษได้ว่าพวกเขาละเลยในการตรวจพบ
สรุปข่าว
ชายนอร์เวย์ ถูกวินิจฉัยว่ามีภาวะน้ำหนักเกินมา 12 ปี ลดน้ำหนักเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จ
สุดท้าย หมอพบว่าเป็นคือก้อนเนื้องอกที่หนักกว่า 27 กิโลกรัม และได้รับการผ่าออกในที่สุด
แหล่งที่มา : TNN Thailand
คิดว่าตัวเองอ้วนมา 12 ปี ที่แท้คือเนื้องอกหนักกว่า 27 กก.
พาไปรู้จักเรื่องราวของ โทมัส เคราท์ ชายนอร์เวย์อายุ 60 ปี ถูกวินิจฉัยว่ามีภาวะน้ำหนักเกินมา 12 ปี
ลดน้ำหนักเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จ สุดท้าย หมอพบว่าเป็นคือก้อนเนื้องอกที่หนักกว่า 27 กิโลกรัม และได้รับการผ่าออกในที่สุด
เคราท์ อาศัยอยู่ที่เมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์ ใครๆ ต่างก็บอกว่าเขาอ้วนลงพุง
ซึ่งเจ้าตัวก็เชื่อเช่นนั้นมานาน กว่า 12 ปี แบกหน้าท้องใหญ่โต ที่เพิ่มขนาดขึ้นเรื่อยๆ
ด้วยความหวังว่าความพยายามในการลดน้ำหนักของตัวเองจะสำเร็จในสักวัน
ครั้งที่เริ่มมีปัญหาสุขภาพ คือเมื่อปี 2011 อยู่ๆ ท้องก็เริ่มบวมขึ้นเรื่อยๆ หนึ่งปีต่อมา เขาก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2
และโรคอ้วน ทำให้เขามุ่งมั่นเข้าเรียนหลักสูตรลดน้ำหนักและโภชนาการ เวลาผ่านไป หน้าท้องเขาก็ค่อยๆ บวมขยายใหญ่ขึ้น
แต่ก็ไม่รู้เลยว่า มะเร็งกำลังพัฒนาอยู่ในร่างกายของตัวเอง
เมื่อความพยายามในการลดน้ำหนักด้วยตัวเองไม่เป็นผล น้ำหนักที่เพิ่มไม่หยุด
ทำให้เกิดความกังวลว่าโรคอ้วนจะทำให้สุขภาพแย่ลง แพทย์ลงความเห็นให้เขาผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหาร
แก้ปัญหาโรคอ้วนที่เป็นอยู่ ในตอนนั้นเองความจริงถึงปรากฏ
เคราท์ บอกว่า ตลอดหลายปี เปลี่ยนหมอมาหลายคน จนในที่สุดปี 2019 ก็ได้รับอนุญาตให้ทำการผ่าตัดกระเพาะ
แม้การผ่าตัดกะเพราะจะทำให้น้ำหนักจะลดลง แต่ท้องของกลับยังคงขนาดใหญ่อย่างผิดปกติ
ในขณะที่ใบหน้าและแขนกลับซูบผอมลง ทำให้หมอนำตัวเขาเข้าสแกนด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ถึงได้เจอ เนื้องอกขนาดใหญ่ที่นอนอยู่ในท้องมานาน
จากนั้นกระบวนการรักษาและวินิจฉัยเปลี่ยนไปทันที แพทย์ใช้เวลานานถึงสองสัปดาห์กว่าจะวินิจฉัยได้ว่า เคราท์มีเนื้องอกชนิดหายาก ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อไขมันขนาดใหญ่ที่ภายในประกอบด้วยมะเร็งขนาดเล็กหลายจุดแทรกอยู่ท่ามกลางไขมันเหล่านั้น
ทำให้ต้องผ่าตัดเอาก้อนเนื้อนี้ออกโดยด่วน
การผ่าตัดกินเวลายาวนานถึง 10 ชั่วโมง เพื่อเอาเนื้องอกขนาดมหึมาจากช่องท้อง ซึ่งมีน้ำหนักถึง 27 กิโลกรัม
และมีเส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 52.3 เซนติเมตร
เนื้องอกนี้สร้างความเสียหายรุนแรงต่อร่างกายของเขา จนแพทย์ต้องตัดลำไส้เล็กบางส่วนออก รวมถึงไตข้างขวาด้วย และถึงแม้จะผ่านการผ่าตัดแล้ว เขาก็ยังคงมีเนื้อเยื่อมะเร็งที่กำลังเติบโตอยู่ภายในร่างกาย
แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่ได้ส่งผลต่อร่างกายอย่างเดียว แต่จิตใจของเขาก็กระทบกระเทือนหนัก
เพราะเคราท์ไม่เคยคิดมาก้อนว่าสิ่งที่อยู่กับเขาทุกวันคือก้อนเนื้อร้าย หลังจากเอาก้อนเนื้อขนาดใหญ่ออกแล้ว
จนถึงตอนนี้ เขาต้องพบจิตแพทย์ทุกๆ 2 สัปดาห์เพื่อทำจิตบำบัด แล้วก็ต้องไปหาหมอมะเร็งปีละ 2 ครั้ง
เพราะในตัวผมยังมีเนื้องอกที่หลงเหลือ หมอบอกว่ามันไม่สามารถเอาออกได้ เนื่องจากมันเชื่อมติดกับอวัยวะหลายส่วน
เคราท์และภรรยาได้ยื่นฟ้องแพทย์ที่เคยรักษาเขาในช่วงก่อนหน้านี้ ฐานละเลยไม่ตรวจพบเนื้องอกขนาดใหญ่ที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
แต่คดีนี้ถูกศาลยกฟ้องในเบื้องต้น เพราะแพทย์ให้เหตุผลว่า เนื้องอกชนิดนี้พบได้ยากมากจนไม่อาจกล่าวโทษได้ว่าพวกเขาละเลยในการตรวจพบ