เงาโต๊ะเก่าเงียบงันในเช้าว่าง
ที่เคยนั่งเคียงข้างกลับอ้างว้าง
คำแนะนำเคยก้องดังกังวานกลาง
กลับเงียบพรางเหลือเพียงเสียงหัวใจ
ปากกาวางทับแฟ้มที่เธอเคยเปิด
กลิ่นกาแฟยังเลอะโต๊ะเหมือนเคยไว้
เธอไม่อยู่แต่ร่องรอยยังฝังใน
เหมือนลมหายใจแผ่วอยู่รอบตัว
ใครจะชี้เมื่อต้องเดินทางไม่รู้
แผนที่เก่าถูกพับอยู่ในหัว
ทุกคำสอนแทรกฝังดังแสงกลัว
ให้ก้าวต่อแม้มัวในสายลม
วันนี้ฟ้าเหมือนจะเศร้าไปพร้อมฉัน
เมฆปกวันหม่นหมองเหมือนอกขม
แต่ในหมอกมีแสงพร่าระคนกลม
ราวคำปลอบลอยลมจากเธอมา
“อย่ากลัวเลย” เสียงนั้นเหมือนพลิ้วผ่าน
ในคืนงานเลือนดับไม่กลับหา
แม้ไม่มีเธออยู่ตรงข้างกายา
แต่ศรัทธายังอยู่ในทุกทาง
โลกยังหมุน งานยังเดินไม่หยุดนิ่ง
ถึงใจจริงจะหวั่นอยู่บ้างกลางทาง
ขอเพียงแรงแห่งศรัทธาที่เคยวาง
พาใจฝันข้ามคืนสู่อรุณใหม่
“ใต้แสงเดิม…ที่ไม่มีเธอ”
เงาโต๊ะเก่าเงียบงันในเช้าว่าง
ที่เคยนั่งเคียงข้างกลับอ้างว้าง
คำแนะนำเคยก้องดังกังวานกลาง
กลับเงียบพรางเหลือเพียงเสียงหัวใจ
ปากกาวางทับแฟ้มที่เธอเคยเปิด
กลิ่นกาแฟยังเลอะโต๊ะเหมือนเคยไว้
เธอไม่อยู่แต่ร่องรอยยังฝังใน
เหมือนลมหายใจแผ่วอยู่รอบตัว
ใครจะชี้เมื่อต้องเดินทางไม่รู้
แผนที่เก่าถูกพับอยู่ในหัว
ทุกคำสอนแทรกฝังดังแสงกลัว
ให้ก้าวต่อแม้มัวในสายลม
วันนี้ฟ้าเหมือนจะเศร้าไปพร้อมฉัน
เมฆปกวันหม่นหมองเหมือนอกขม
แต่ในหมอกมีแสงพร่าระคนกลม
ราวคำปลอบลอยลมจากเธอมา
“อย่ากลัวเลย” เสียงนั้นเหมือนพลิ้วผ่าน
ในคืนงานเลือนดับไม่กลับหา
แม้ไม่มีเธออยู่ตรงข้างกายา
แต่ศรัทธายังอยู่ในทุกทาง
โลกยังหมุน งานยังเดินไม่หยุดนิ่ง
ถึงใจจริงจะหวั่นอยู่บ้างกลางทาง
ขอเพียงแรงแห่งศรัทธาที่เคยวาง
พาใจฝันข้ามคืนสู่อรุณใหม่