ทักทายทุกคนที่เข้ามาอ่านครับ
วันศุกร์ที่ผ่านมาก็เป็นวันที่หลายๆคนที่ลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯน่าจะมีความสุขนะครับ index ทำ all-time high กันยกแผงเลย
สำหรับผมก็เป็นเหตุให้ได้กลับมาย้อนดู พบว่า net liquid asset มีมูลค่ารวม 10 ล้านกว่าบาท เป็นพอร์ตหุ้น/กองทุน 95% และ เงินสด 5%
อาจจะสงสัยว่าทำไมผมเก็บเงินสดแค่ 5% ก็เพราะว่าค่าใช้จ่ายต่อปีของผมมันประมาณเท่านั้นครับ เลยเก็บเป็น emergency savings
แต่ที่มีนัยสำคัญกว่าตัวเลขสำหรับผมคือคำว่า 'อิสรภาพทางการเงินขั้นต้น*' เพราะตามหลัก 4% rule ถ้าเราถอนเงินออกจากพอร์ตมาใช้ปีละ 4% จะได้ประมาณ 30,000-40,000 บาทต่อเดือนไปตลอดชีวิต (ไม่มีการันตี แต่น่าจะประมาณ 95% ครับ ว่ารอด เงินไม่หมดก่อนตาย อ้างอิงจาก Trinity Study (1998) - assumption คือลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯต่อไปเรื่อยๆ)
*แต่อย่างที่บอกครับมันเป็นแค่ 'ขั้นต้น' เท่านั้น เพราะอีก 10 - 20 ปี 30,000 ต่อเดือนคงไม่พออยู่แน่ๆ เพราะเงินเฟ้อขึ้นทุกวัน
แม้จะเป็นแค่อิสรภาพทางการเงินขั้นต้น แต่มันก็ทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจว่าต่อจากนี้อะไรที่ผมทำอยู่มันค่อนข้าง optional ทั้งนั้น เวลาเครียคจากงานผมก็คงจะคิดย้อนมาถึงความจริงข้อนี้
ผมจึงอยากเสนอว่าเอาตัวเลขกลมๆ 10 ล้านบาทเป็นเป้าไว้ครับ มันไม่เกินความสามารถและมันเป็นใบเบิกทางให้เราได้มีอิสรภาพในการจะเปลี่ยนงาน ลองไปทำตามความสนใจ ความใฝ่ฝัน ฯลฯ โดยไม่ต้องกังวลมากครับว่าจะเอาตัวไม่รอด~
อิสรภาพทางการเงินขั้นต้นในวัย 30 ปี
วันศุกร์ที่ผ่านมาก็เป็นวันที่หลายๆคนที่ลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯน่าจะมีความสุขนะครับ index ทำ all-time high กันยกแผงเลย
สำหรับผมก็เป็นเหตุให้ได้กลับมาย้อนดู พบว่า net liquid asset มีมูลค่ารวม 10 ล้านกว่าบาท เป็นพอร์ตหุ้น/กองทุน 95% และ เงินสด 5%
อาจจะสงสัยว่าทำไมผมเก็บเงินสดแค่ 5% ก็เพราะว่าค่าใช้จ่ายต่อปีของผมมันประมาณเท่านั้นครับ เลยเก็บเป็น emergency savings
แต่ที่มีนัยสำคัญกว่าตัวเลขสำหรับผมคือคำว่า 'อิสรภาพทางการเงินขั้นต้น*' เพราะตามหลัก 4% rule ถ้าเราถอนเงินออกจากพอร์ตมาใช้ปีละ 4% จะได้ประมาณ 30,000-40,000 บาทต่อเดือนไปตลอดชีวิต (ไม่มีการันตี แต่น่าจะประมาณ 95% ครับ ว่ารอด เงินไม่หมดก่อนตาย อ้างอิงจาก Trinity Study (1998) - assumption คือลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯต่อไปเรื่อยๆ)
*แต่อย่างที่บอกครับมันเป็นแค่ 'ขั้นต้น' เท่านั้น เพราะอีก 10 - 20 ปี 30,000 ต่อเดือนคงไม่พออยู่แน่ๆ เพราะเงินเฟ้อขึ้นทุกวัน
แม้จะเป็นแค่อิสรภาพทางการเงินขั้นต้น แต่มันก็ทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจว่าต่อจากนี้อะไรที่ผมทำอยู่มันค่อนข้าง optional ทั้งนั้น เวลาเครียคจากงานผมก็คงจะคิดย้อนมาถึงความจริงข้อนี้
ผมจึงอยากเสนอว่าเอาตัวเลขกลมๆ 10 ล้านบาทเป็นเป้าไว้ครับ มันไม่เกินความสามารถและมันเป็นใบเบิกทางให้เราได้มีอิสรภาพในการจะเปลี่ยนงาน ลองไปทำตามความสนใจ ความใฝ่ฝัน ฯลฯ โดยไม่ต้องกังวลมากครับว่าจะเอาตัวไม่รอด~