คือเราเนี้ยโตมากับปู่กับย่าใช่มั้ยเค้าเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กๆ พ่อแม่เราแต่ละฝ่ายต่างมีใหม่กันหมดแต่พ่อเรามีลูกใหม่คนละแม่เป้นผชแต่แม่เราไม่มี
ปู่กับย่าคือคนสนิขที่สุดโดยเฉพาะย่า อย่างที่รู้ๆกันอะเนาะเค้าเลี้ยงเรามาแต่เด็กทุกคนย่อมรู้ว่ามันก็ต้องสนิขกัน เราถูกเลี้ยงโดยพี่สาวกับย่าซ่ะมากกว่าตั้งแต่ยังแบเบาะ เอาง่ายๆนะเราอยู่กับฝั่งพ่อและสนิขกับฝั่งพ่อมากกว่า เวลาปิดเทอมแม่ก็จะมารับเราไปเที่ยวบ้านเค้ากับแฟนใหม่ แม่เรามีแฟนใหม่แค่คนเดียงหลังเลิกพ่อ แต่พ่อเรามีสามคนแต่มีลูกกับคนที่สาม แม่เราเป็นเมียคนแรกของพ่อส่วนคนที่สองเค้ามีลูกแล้วโตแล้วเค้าก็พามาหาบ่อยๆตอนเรายังเด็กๆก็คุยเล่นสนิขกัเราจะเรียดชกเค้าว่า “พี่” แฟนใหม่คนที่สามเราเรียกเค้าว่า“น้า” ย่าเราบอกว่า : ถ้าจะแต่งกับคนที่2กูจะไม่ไปแต่งเพราะเค้ามีลูกแล้ว
เราไม่รู้หรอกนะว่าถ้ามองในเรื่องกฏแห่งกรรม การที่เราเป็นเพศแบบนี้มันอาจจะเกิดจากพ่อแม่เรารึป่าว คือ ย่าเราเล่าว่าตอนแรกพ่อมีแฟนอยู่แล้วละแม่ก็ไปแย่งเค้ามาตบตีกันจนมีเรา แต่แล้วเค้าก็เลิกกันเหมือนย่าเล่าให้ฟังว่า พ่อจับได้ว่าแม่แอบมีกิ๊ก พ่อเลยเลิกส่วนพ่อเรานั้นก็มีเมียมา3คนละคนที่สามดูท่าจะรักกันดี แบบนี้หรือเปล่ามันเลยส่งผลกรรมมาให้มาตกที่เรื่องผิดเพศ เราดันเป็นลูกคนเดียวด้วยนี่สิ (แต่ถ้ามองในมุมวิทยาศาสตร์ตอนเด็กเด็กที่เราอยู่ในหมู่บ้านละแวกเรามีแต่ผู้หญิงเราเล่นแต่กับเด็กผู้หญิงมีตุ๊กตาบ้าบบาร์บี้เราก็เล่นกับพวกนางคือเราถูกเลี้ยงมาโดยฝ่ายหญิงซะมากกว่าพี่สาวเราโรเลี้ยงมาก็เป็นผู้หญิงย่าเราก็เป็นผู้หญิดเคยเล่นพ่อแม่ลูกสมัยนั้นเราได้เป็นพ่อเรายังรู้สึกแปลกๆเลย แบบไงก็ไม่รู้ เรารู้สึกไม่ค่อยเข้ากันได้กับพวกผู้ชาย)
แล้วคือตอนนี้เราก็โตแล้วใช่ไหมเราก็ไว้ผมยาวอะไรแล้วเราก็กำลังจะแล้วคือตอนนี้เราก็โตแล้วใช่ไหมเราก็ไว้ผมยาวอะไรแล้วเราก็กำลังจะจบเรียนจบมัธยม พี่สาวเราที่เค้าเคยเลี้ยงเรามาตอนเด็กเด็กเค้าก็บอกให้เราบวชเราก็ไม่รู้ว่าจะบวชหลายคนเค้าก็บอกว่าปล่อยให้มันเป็นเรื่องของอนาคตเรารู้นะว่าการตอบแทนบุญคุณน่ะมันมีหลายวิธีแต่บางคนยึดติดเรื่องการบวชอยู่ว่าจะได้เกาะชายผ้าเหลืองไงเราก็ไม่สามารถเปลี่ยนความคิดใครได้ ถามว่าเราอยากบวชไหมก็ไม่ได้ขนาดนั้น พี่สาวที่เลี้ยงเรามาอะก็ชอบหยอกล้อว่า อิตุ๊ด เค้าไม่ได้เชิงบุลลี่เราแต่เค้าชอบหยอกล้อเราแบบเรียกแบบนั้นมากกว่าเราไงคะเค้าไม่ค่อยเราเค้าจะชอบเรียกว่าอีตุ๊ดอีตุ๊ด
คือจะบอกอะไรให้นะ
ย่าเรามีลูกทั้งหมด4คนพ่อเป็นน้องเล็กสุดและเป็นผู้ชายคนเดียวด้วย แต่ย่าเคยบอกว่ามียุคนนึงเป็นผชแต่แท้งตอนยังเป็นตัวอ่อนก็น่าจะคนที่4ก่อนจะมีพ่อเรา ซึ่ง พวกพี่ๆก็มีแต่ผู้หญิงทั้งนั้น เเต่ก็มีผู้ชายยุคนนึงเค้าเป็นลูกสาวคนแรกของย่าแต่เค้าไม่ได้เลี้ยงเรามาไงค่ะ พี่สาวก็คงอยากให้เราบวชทดแทนคุณปู่กับย่าที่เลี้ยงเรามาแต่ย่าไม่เคยคุยกับเราเรื่องนี้นะคะ มีแต่พี่สาวคนนี้แหละที่คุย เรื่องการบวชบอกเรียนจบบวชเลย
เวลามีคนมาถามมาคุยเรื่องบวตอบเค่าไงดีค่ะ บวชมันก็บวชได้แต่ก็ไม่ได้อยากขนาดนั้นเท่าไหร่ เราเปลี่ยนความใครไม่ได้หรอกค่ะถึงแม้จะมีวิธีทดแทนหลายอย่างแต่เค้าคงเชื่อว่าบวชดีสุดจะเกาะชายผ้าเหลือง
เคยมีครูคนนึงเป็นกะเทยไว้ผมยาวสอนภาษาไทยเคยถามเค้าเค้าบอกไม่ได้บวชเพราะเค้ารู้เราเป็นแต่เด็ก จนเค้าได้เป็นครูเราก็บอกเค้าไปว่า จะได้มีคนชื่นชมพวกญาติว่าหลานกะเทยคนนี้เป็นครูต้องมีคนชื่นชมครูแน่เลยค่ะ เราก็เก่งไทยและชื่นชอบเหมือนกัน เราก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอะไรดี อบากเป็นครูนะเพราะรายไดดีทมั่นคงแต่ก็ไม่รู้จะสอนเด็กเข้าใจมั้ย
สาวสอง กับ การบวชทดแทนคุณ
ปู่กับย่าคือคนสนิขที่สุดโดยเฉพาะย่า อย่างที่รู้ๆกันอะเนาะเค้าเลี้ยงเรามาแต่เด็กทุกคนย่อมรู้ว่ามันก็ต้องสนิขกัน เราถูกเลี้ยงโดยพี่สาวกับย่าซ่ะมากกว่าตั้งแต่ยังแบเบาะ เอาง่ายๆนะเราอยู่กับฝั่งพ่อและสนิขกับฝั่งพ่อมากกว่า เวลาปิดเทอมแม่ก็จะมารับเราไปเที่ยวบ้านเค้ากับแฟนใหม่ แม่เรามีแฟนใหม่แค่คนเดียงหลังเลิกพ่อ แต่พ่อเรามีสามคนแต่มีลูกกับคนที่สาม แม่เราเป็นเมียคนแรกของพ่อส่วนคนที่สองเค้ามีลูกแล้วโตแล้วเค้าก็พามาหาบ่อยๆตอนเรายังเด็กๆก็คุยเล่นสนิขกัเราจะเรียดชกเค้าว่า “พี่” แฟนใหม่คนที่สามเราเรียกเค้าว่า“น้า” ย่าเราบอกว่า : ถ้าจะแต่งกับคนที่2กูจะไม่ไปแต่งเพราะเค้ามีลูกแล้ว
เราไม่รู้หรอกนะว่าถ้ามองในเรื่องกฏแห่งกรรม การที่เราเป็นเพศแบบนี้มันอาจจะเกิดจากพ่อแม่เรารึป่าว คือ ย่าเราเล่าว่าตอนแรกพ่อมีแฟนอยู่แล้วละแม่ก็ไปแย่งเค้ามาตบตีกันจนมีเรา แต่แล้วเค้าก็เลิกกันเหมือนย่าเล่าให้ฟังว่า พ่อจับได้ว่าแม่แอบมีกิ๊ก พ่อเลยเลิกส่วนพ่อเรานั้นก็มีเมียมา3คนละคนที่สามดูท่าจะรักกันดี แบบนี้หรือเปล่ามันเลยส่งผลกรรมมาให้มาตกที่เรื่องผิดเพศ เราดันเป็นลูกคนเดียวด้วยนี่สิ (แต่ถ้ามองในมุมวิทยาศาสตร์ตอนเด็กเด็กที่เราอยู่ในหมู่บ้านละแวกเรามีแต่ผู้หญิงเราเล่นแต่กับเด็กผู้หญิงมีตุ๊กตาบ้าบบาร์บี้เราก็เล่นกับพวกนางคือเราถูกเลี้ยงมาโดยฝ่ายหญิงซะมากกว่าพี่สาวเราโรเลี้ยงมาก็เป็นผู้หญิงย่าเราก็เป็นผู้หญิดเคยเล่นพ่อแม่ลูกสมัยนั้นเราได้เป็นพ่อเรายังรู้สึกแปลกๆเลย แบบไงก็ไม่รู้ เรารู้สึกไม่ค่อยเข้ากันได้กับพวกผู้ชาย)
แล้วคือตอนนี้เราก็โตแล้วใช่ไหมเราก็ไว้ผมยาวอะไรแล้วเราก็กำลังจะแล้วคือตอนนี้เราก็โตแล้วใช่ไหมเราก็ไว้ผมยาวอะไรแล้วเราก็กำลังจะจบเรียนจบมัธยม พี่สาวเราที่เค้าเคยเลี้ยงเรามาตอนเด็กเด็กเค้าก็บอกให้เราบวชเราก็ไม่รู้ว่าจะบวชหลายคนเค้าก็บอกว่าปล่อยให้มันเป็นเรื่องของอนาคตเรารู้นะว่าการตอบแทนบุญคุณน่ะมันมีหลายวิธีแต่บางคนยึดติดเรื่องการบวชอยู่ว่าจะได้เกาะชายผ้าเหลืองไงเราก็ไม่สามารถเปลี่ยนความคิดใครได้ ถามว่าเราอยากบวชไหมก็ไม่ได้ขนาดนั้น พี่สาวที่เลี้ยงเรามาอะก็ชอบหยอกล้อว่า อิตุ๊ด เค้าไม่ได้เชิงบุลลี่เราแต่เค้าชอบหยอกล้อเราแบบเรียกแบบนั้นมากกว่าเราไงคะเค้าไม่ค่อยเราเค้าจะชอบเรียกว่าอีตุ๊ดอีตุ๊ด
คือจะบอกอะไรให้นะ
ย่าเรามีลูกทั้งหมด4คนพ่อเป็นน้องเล็กสุดและเป็นผู้ชายคนเดียวด้วย แต่ย่าเคยบอกว่ามียุคนนึงเป็นผชแต่แท้งตอนยังเป็นตัวอ่อนก็น่าจะคนที่4ก่อนจะมีพ่อเรา ซึ่ง พวกพี่ๆก็มีแต่ผู้หญิงทั้งนั้น เเต่ก็มีผู้ชายยุคนนึงเค้าเป็นลูกสาวคนแรกของย่าแต่เค้าไม่ได้เลี้ยงเรามาไงค่ะ พี่สาวก็คงอยากให้เราบวชทดแทนคุณปู่กับย่าที่เลี้ยงเรามาแต่ย่าไม่เคยคุยกับเราเรื่องนี้นะคะ มีแต่พี่สาวคนนี้แหละที่คุย เรื่องการบวชบอกเรียนจบบวชเลย
เวลามีคนมาถามมาคุยเรื่องบวตอบเค่าไงดีค่ะ บวชมันก็บวชได้แต่ก็ไม่ได้อยากขนาดนั้นเท่าไหร่ เราเปลี่ยนความใครไม่ได้หรอกค่ะถึงแม้จะมีวิธีทดแทนหลายอย่างแต่เค้าคงเชื่อว่าบวชดีสุดจะเกาะชายผ้าเหลือง
เคยมีครูคนนึงเป็นกะเทยไว้ผมยาวสอนภาษาไทยเคยถามเค้าเค้าบอกไม่ได้บวชเพราะเค้ารู้เราเป็นแต่เด็ก จนเค้าได้เป็นครูเราก็บอกเค้าไปว่า จะได้มีคนชื่นชมพวกญาติว่าหลานกะเทยคนนี้เป็นครูต้องมีคนชื่นชมครูแน่เลยค่ะ เราก็เก่งไทยและชื่นชอบเหมือนกัน เราก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอะไรดี อบากเป็นครูนะเพราะรายไดดีทมั่นคงแต่ก็ไม่รู้จะสอนเด็กเข้าใจมั้ย