คนเราน่ะเกิดแล้วก็ตาย จากรุ่นสู่รุ่น ความหมายของการกำเนิดและดับไปนั้นคือ การตายดับที่ไร้ความหมายเราล้วนเป็นจุดเล็กๆของจักรวาล ไม่ต่างจากมดในสายตาของมนุษย์ ในเมื่อชีวิตมันไร้ซึ่งความหมายโดยกำเนิด สิ่งที่มนุษย์ทำมาตลอดคือการหาความหมายที่เป็นสากล เช่น พระเจ้าสร้างมนุษย์มาเพื่อสรรเสริญพระองค์ เราเกิดมาเพื่อชดใช้บาปจากชาติก่อน สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเป็นการสร้างกรอบบางอย่างเพื่อให้คนรอดพ้นจากความกลัวของชีวิตที่ไร้ความหมาย
ความเชื่อเหล่านั้นมาพร้อมกับกำแพงล่องหนที่ชื่อว่า "ศีลธรรมอันจอมปลอมที่ครอบหัวคนในสังคม“ คนเราทุกคนต้องทำแบบนั้นแบบนู้น ทั้งที่เราไม่อยากทำและในประเทศไทยได้มีสุภาษิตอันแสนตลกที่กล่าวมาว่า "เข้าเมืองตาหลิ่วให้หลิ่วตาตาม“ คือการทำตัวเหมือนสังคมโดยมีการกล่าวอ้างว่า “เพื่อความเป็นหนี่งเดียวกันของหมู่คณะ “ หรือไม่ก็ทำไปเพื่อหลักเลี่ยงปัญหาที่อาจจะตามมา นั้นเป็นเพียงความคิดของผู้มีทัศนคติแบบทาส
คนเรานั้นเกิดและเติบโตมาพร้อมกับ ศีลธรรม,คุณค่า และ อื่นๆอีกมากมายที่เป็นตัวตนที่ถูกสร้างโดยสังคม เป็นเหมือนกรงที่สร้างจากกล่องโฟมร้ายชั้นเคลือบด้วยความกลัว เช่น การกลัวที่จะโดนตัดสิน การกลัวที่จะต้องโดดเดี่ยว ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็น ลักษณะของคนที่เลือกจะอยู่ภายใต้ความคาดหวังของสังคมาเป็นพวกชอบยอมทิ้งอิสระและไม่เป็นตัวเองเพราะกลัวที่จะต้องได้รับผลของอิสระเหลานั้น เราจะเรียกคนกลุ่มนี้ว่า อูฐ
อูฐคือคนที่รับภาระของสังคม เช่น ความคาดหวัง ประเพณี และ ศีลธรรมที่มีคนเขียนขึ้นมา คนที่มีทัศนคติแบบทาสนั้นเอง
เมื่อคนเราเกิดมากลายเป็นอูฐแล้วเข้าใจในสถานะของตนเอง และ เริ่มเห็นคุณค่าของ
มนุษย์เพศชายเพศหญิง หรือ LGBT จะยอมรับความเป็นตนเองและพยายามทำลายกำแพงโฟมนั้นทิ้งไป เราจะเรียกคนกลุ่มนี้ว่าสิงโต เราต้องอธิบายก่อนว่า ศัตรูคู่แค้นของสิงโตนั้นมีชื่อเรียกที่มักจะเจอใน อนิเมะ นิยาย หรือ ตำนานต่างๆ เราจะเรียกสัตว์ร้ายชนิดนี้ว่า มังกร หรือ ความคาดหวังของสังคม
สิงโตนั่นจะสู้เพื่อคุณค่าที่ตัวเองยึดถือโดยไม่สนใจว่านั่นจะทำให้ สังคมพอใจหรือไม่ คนเหล่านี้นั้นจะทำลายทุกค่านิยมเพื่อตัวของตัวเอง โดยที่เป้าหมายจะแตกต่างกันไปแต่ล่ะคนเข่น การเรียกร้องความเท่าเทียมทางเพศ การทำลายระบบอาวุโส หรือ การทำลายสิ่งที่ัสังคมบอกว่าต้องเป็นและห้ามทำ เพื่อที่จะพิสูจน์คุณค่าที่ตัวเองยึดถือ
ตัวอย่างบุคคลในฐานะสิงโต* กดที่ตรง spoil นะจ๊ะเบบี๋
หลังจากที่สิงโตได้ฉีกเนื้อมังกรแล้ว วันนึงเขาจะได้กลายเป็นเป็นทารก
ทารกคือตัวตนอันบริสุทธิ์ เรียกอีกชื่อได้ว่า เลิศมนุษย์(Übermensch)
คือไม่ใช้ผู้ที่ต่อสู้กับมังกรอีกต่อไปเป็นตัวตนของผู้สร้างคุณค่าใหม่ๆให้ชีวิตของตนเอถ้ามมสมมุติโลกเราเป็นกำแพงโฟม สิงโตจะคอยกัดแถะกำแพงโฟม ส่วนทารกจะออกจากกำแพงโฟมเฝ้าดูมันและค่อยๆสร้างกำแพงใหม่ของตนเอง โดยที่ทารกนั้นมักจะสร้างคุณค่าใหม่ๆให้ัสังคมอยเสมอ(**
ตัวอย่างในสปอยนะครับเบบี๋)ผู้ที่เป็นทารกคือผู้ที่ค้นพบอิสระโดยแท้ ไม่ต่อสู้ ไม่พิสูจน์อะไรเลย มีแต่สิ่งที่เรียกในภาษาง่ายๆว่า เล่นสนุกกับคุณค่าของสังคม
สรุปได้ว่าทารกรือบุคคลที่ไม่สนใจศีลธรรมที่สังคมขีดเอาไว้ ไม่ทำลาย ไม่มีการพิสูจน์ตัวเองใดๆ คือสภาวะทางจิตวิญญาณที่ยอมรับในตัวตนของตนเองแบบ100% ในทาง SBR หรือ ผู้ที่ไม่เชื่อในจิตวิญญาณสามารถนิยามทารกได้เหมือนกับ การตื่นรู้ทางจิตประเภทนึง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้*ตัวอย่างบุคคลที่เห็นได้ชัดในฐานะสิงโตคือ ลุงหมา ไดโอจีนีส ผู้ที่ได้ทำการช่วตัวเองกลางตลาดเมื่อราวๆ สองพันปีที่แล้ว เขาทำไปเพื่อตั้งคำถาม โดยที่คุณค่าของเขานั้นคือการใช้ชีวิตอย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนั้นลุงหมาของเรา ก็ได้มีประเด็นอันตลกขบขัน ที่อาจจะถูกมองว่าก้าวร้าวได้ นั่นคือ ครั้งนึง กษัตริย์อเล็กซานเดอร์แห่งมาเซโลเนีย ได้ทำการมาเยี่ยม ลุเมื่อในตอนที่เขากำลังนอนอาบแดด ท่านอเล็กซานเดอร์ผู้ทรงอำนาจและยิ่งใหญ่ได้เสนอสิ่งใดก็ได้ที่ ลุงหมาของเรานั้นต้องการ ทันใดนั้นเอง ลุงหมาได้ตอบกลับไปว่า ได้โปรดอย่ายืนบังแดดของข้านะbaby เมื่อราชาผู้ทรงอำนาจได้กลับำปเขารู้สึกประทับใจเป็นอย่างมากและได้พูดว่า “ถ้าข้าไม่ใช่อเล็กซานเดอร์ข้าขอเป ไดโอจีนีส”
*ตัวอย่างของทารก พระพุทธเจ้า เป็นบุคคลซึ่งได้ปลดปล่อยตัวเองจากการเป็สวิงโตและอูฐโดยสมบูรณ์ เขาผู้นั้นได้รู้จัก เกิดแก่เจ็บตาย ในขณะทอวยยู่ในสภาวะของ อูฐ จากก็ได้มีการตั้งคำถามของวิธีการพ้นทุกข์ออกมา จนวันนึงเขาก็ได้เข้าใจในสิ่งที่ทำและเป็นอิสระอย่างแท้จริง
แนวคิด nihilism ชีวิต:)ไร้ความหมายนะเบบี๋
ความเชื่อเหล่านั้นมาพร้อมกับกำแพงล่องหนที่ชื่อว่า "ศีลธรรมอันจอมปลอมที่ครอบหัวคนในสังคม“ คนเราทุกคนต้องทำแบบนั้นแบบนู้น ทั้งที่เราไม่อยากทำและในประเทศไทยได้มีสุภาษิตอันแสนตลกที่กล่าวมาว่า "เข้าเมืองตาหลิ่วให้หลิ่วตาตาม“ คือการทำตัวเหมือนสังคมโดยมีการกล่าวอ้างว่า “เพื่อความเป็นหนี่งเดียวกันของหมู่คณะ “ หรือไม่ก็ทำไปเพื่อหลักเลี่ยงปัญหาที่อาจจะตามมา นั้นเป็นเพียงความคิดของผู้มีทัศนคติแบบทาส
คนเรานั้นเกิดและเติบโตมาพร้อมกับ ศีลธรรม,คุณค่า และ อื่นๆอีกมากมายที่เป็นตัวตนที่ถูกสร้างโดยสังคม เป็นเหมือนกรงที่สร้างจากกล่องโฟมร้ายชั้นเคลือบด้วยความกลัว เช่น การกลัวที่จะโดนตัดสิน การกลัวที่จะต้องโดดเดี่ยว ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็น ลักษณะของคนที่เลือกจะอยู่ภายใต้ความคาดหวังของสังคมาเป็นพวกชอบยอมทิ้งอิสระและไม่เป็นตัวเองเพราะกลัวที่จะต้องได้รับผลของอิสระเหลานั้น เราจะเรียกคนกลุ่มนี้ว่า อูฐ
อูฐคือคนที่รับภาระของสังคม เช่น ความคาดหวัง ประเพณี และ ศีลธรรมที่มีคนเขียนขึ้นมา คนที่มีทัศนคติแบบทาสนั้นเอง
เมื่อคนเราเกิดมากลายเป็นอูฐแล้วเข้าใจในสถานะของตนเอง และ เริ่มเห็นคุณค่าของ มนุษย์เพศชายเพศหญิง หรือ LGBT จะยอมรับความเป็นตนเองและพยายามทำลายกำแพงโฟมนั้นทิ้งไป เราจะเรียกคนกลุ่มนี้ว่าสิงโต เราต้องอธิบายก่อนว่า ศัตรูคู่แค้นของสิงโตนั้นมีชื่อเรียกที่มักจะเจอใน อนิเมะ นิยาย หรือ ตำนานต่างๆ เราจะเรียกสัตว์ร้ายชนิดนี้ว่า มังกร หรือ ความคาดหวังของสังคม
สิงโตนั่นจะสู้เพื่อคุณค่าที่ตัวเองยึดถือโดยไม่สนใจว่านั่นจะทำให้ สังคมพอใจหรือไม่ คนเหล่านี้นั้นจะทำลายทุกค่านิยมเพื่อตัวของตัวเอง โดยที่เป้าหมายจะแตกต่างกันไปแต่ล่ะคนเข่น การเรียกร้องความเท่าเทียมทางเพศ การทำลายระบบอาวุโส หรือ การทำลายสิ่งที่ัสังคมบอกว่าต้องเป็นและห้ามทำ เพื่อที่จะพิสูจน์คุณค่าที่ตัวเองยึดถือ
ตัวอย่างบุคคลในฐานะสิงโต* กดที่ตรง spoil นะจ๊ะเบบี๋
หลังจากที่สิงโตได้ฉีกเนื้อมังกรแล้ว วันนึงเขาจะได้กลายเป็นเป็นทารก
ทารกคือตัวตนอันบริสุทธิ์ เรียกอีกชื่อได้ว่า เลิศมนุษย์(Übermensch)
คือไม่ใช้ผู้ที่ต่อสู้กับมังกรอีกต่อไปเป็นตัวตนของผู้สร้างคุณค่าใหม่ๆให้ชีวิตของตนเอถ้ามมสมมุติโลกเราเป็นกำแพงโฟม สิงโตจะคอยกัดแถะกำแพงโฟม ส่วนทารกจะออกจากกำแพงโฟมเฝ้าดูมันและค่อยๆสร้างกำแพงใหม่ของตนเอง โดยที่ทารกนั้นมักจะสร้างคุณค่าใหม่ๆให้ัสังคมอยเสมอ(**ตัวอย่างในสปอยนะครับเบบี๋)ผู้ที่เป็นทารกคือผู้ที่ค้นพบอิสระโดยแท้ ไม่ต่อสู้ ไม่พิสูจน์อะไรเลย มีแต่สิ่งที่เรียกในภาษาง่ายๆว่า เล่นสนุกกับคุณค่าของสังคม
สรุปได้ว่าทารกรือบุคคลที่ไม่สนใจศีลธรรมที่สังคมขีดเอาไว้ ไม่ทำลาย ไม่มีการพิสูจน์ตัวเองใดๆ คือสภาวะทางจิตวิญญาณที่ยอมรับในตัวตนของตนเองแบบ100% ในทาง SBR หรือ ผู้ที่ไม่เชื่อในจิตวิญญาณสามารถนิยามทารกได้เหมือนกับ การตื่นรู้ทางจิตประเภทนึง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
*ตัวอย่างของทารก พระพุทธเจ้า เป็นบุคคลซึ่งได้ปลดปล่อยตัวเองจากการเป็สวิงโตและอูฐโดยสมบูรณ์ เขาผู้นั้นได้รู้จัก เกิดแก่เจ็บตาย ในขณะทอวยยู่ในสภาวะของ อูฐ จากก็ได้มีการตั้งคำถามของวิธีการพ้นทุกข์ออกมา จนวันนึงเขาก็ได้เข้าใจในสิ่งที่ทำและเป็นอิสระอย่างแท้จริง