ไม่มีคน
คำว่า “ไม่มีคน” —
นี่คงฟังกันไม่ถูกว่า
คำว่า “ไม่มีคน” นี้
เป็นความหมายของพุทธศาสนา
ที่สอนว่า ไม่มีคน
⸻
สิ่งที่เรียกว่า คน นั้น มิได้มี
เดี๋ยวนี้มันมีแต่ถามกันอยู่ว่า
“ตายแล้วเกิดหรือไม่เกิด?”
“ไปเกิดด้วยอะไร?”
“เป็นอย่างไร?”
มัวแต่ถามกันอยู่ในเรื่องอย่างนั้น
แต่ในพุทธศาสนา
ต้องการจะสอนว่า
ที่แท้ คนไม่มี
ให้มองเห็นเป็นแต่เพียง ธาตุ —
ดิน น้ำ ลม ไฟ วิญญาณธาตุ อากาศธาตุ —
รวมกันอยู่เป็นกลุ่มหนึ่ง
แล้วก็เป็นไปตามเหตุ
ตามปัจจัย ตามธรรมชาติ
มีแต่ธรรมชาติ — ไม่มีคน
⸻
ถ้าศึกษาพุทธศาสนา
จนถึงหัวใจพุทธศาสนาอย่างนี้แล้ว
จะไม่ถามเลยว่า
“คนตายแล้วเกิดหรือไม่เกิด?”
เพราะ ไม่มีคน.
⸻
เดี๋ยวนี้มันก็ ไม่มีคนอยู่
แต่คนทั่วไปไม่เข้าใจ
ไม่ยอมรับฟังว่าเดี๋ยวนี้ไม่มีคนอยู่
ไปเข้าใจว่า
“เดี๋ยวนี้ฉันคิดนึกได้
ฉันทำอะไรได้ ทำอะไรต่าง ๆ ได้”
เขาก็เถียงว่า
“มันมีคนอยู่”
แต่ทางพุทธศาสนาบอกว่า
นั่นไม่ใช่ คน
เป็นเพียง mechanism ของธาตุต่าง ๆ
ตามธรรมชาติ
แล้วมันก็ประณีตจนไม่รู้สึก
⸻
แต่เจ้าตัวนั้นเองจะรู้สึกได้ว่า
“ฉันทุกข์ได้ ฉันรู้สึกได้ เป็นสุขได้”
ก็เลยเรียกว่า มีคนอยู่เสมอ
ส่วนหลักธรรมะ ต้องการจะสอนให้รู้ว่า
สิ่งที่รู้สึก คิด นึก ได้นั้น
ก็เป็นเพียงสักว่าธาตุ เป็นธรรมชาติ
แล้วมันก็รู้สึกไปตามเรื่อง
ของธรรมชาติ —คนไม่มี.
⸻
พอได้ยินคำว่า “ไม่มีคน”
ก็ขอให้รู้เถิดว่า
นั่นแหละคือ
หัวใจของพุทธศาสนา
คำสามพยางค์ที่ว่า “ไม่มีคน”
นี้มีความหมายทั้งหมดของพุทธศาสนา.
⸻
#พุทธทาสภิกขุ จากหนังสือ ค่ายธรรมบุตร เรื่อง ความสับสนแห่งความหมายของภาษาที่ใช้พูดกันอยู่ (หน้า ๑๗๔–๑๗๕)
พระพุทธทาสสอนเรื่องไม่มีคน? เอามาให้อ่านครับ
คำว่า “ไม่มีคน” —
นี่คงฟังกันไม่ถูกว่า
คำว่า “ไม่มีคน” นี้
เป็นความหมายของพุทธศาสนา
ที่สอนว่า ไม่มีคน
⸻
สิ่งที่เรียกว่า คน นั้น มิได้มี
เดี๋ยวนี้มันมีแต่ถามกันอยู่ว่า
“ตายแล้วเกิดหรือไม่เกิด?”
“ไปเกิดด้วยอะไร?”
“เป็นอย่างไร?”
มัวแต่ถามกันอยู่ในเรื่องอย่างนั้น
แต่ในพุทธศาสนา
ต้องการจะสอนว่า
ที่แท้ คนไม่มี
ให้มองเห็นเป็นแต่เพียง ธาตุ —
ดิน น้ำ ลม ไฟ วิญญาณธาตุ อากาศธาตุ —
รวมกันอยู่เป็นกลุ่มหนึ่ง
แล้วก็เป็นไปตามเหตุ
ตามปัจจัย ตามธรรมชาติ
มีแต่ธรรมชาติ — ไม่มีคน
⸻
ถ้าศึกษาพุทธศาสนา
จนถึงหัวใจพุทธศาสนาอย่างนี้แล้ว
จะไม่ถามเลยว่า
“คนตายแล้วเกิดหรือไม่เกิด?”
เพราะ ไม่มีคน.
⸻
เดี๋ยวนี้มันก็ ไม่มีคนอยู่
แต่คนทั่วไปไม่เข้าใจ
ไม่ยอมรับฟังว่าเดี๋ยวนี้ไม่มีคนอยู่
ไปเข้าใจว่า
“เดี๋ยวนี้ฉันคิดนึกได้
ฉันทำอะไรได้ ทำอะไรต่าง ๆ ได้”
เขาก็เถียงว่า
“มันมีคนอยู่”
แต่ทางพุทธศาสนาบอกว่า
นั่นไม่ใช่ คน
เป็นเพียง mechanism ของธาตุต่าง ๆ
ตามธรรมชาติ
แล้วมันก็ประณีตจนไม่รู้สึก
⸻
แต่เจ้าตัวนั้นเองจะรู้สึกได้ว่า
“ฉันทุกข์ได้ ฉันรู้สึกได้ เป็นสุขได้”
ก็เลยเรียกว่า มีคนอยู่เสมอ
ส่วนหลักธรรมะ ต้องการจะสอนให้รู้ว่า
สิ่งที่รู้สึก คิด นึก ได้นั้น
ก็เป็นเพียงสักว่าธาตุ เป็นธรรมชาติ
แล้วมันก็รู้สึกไปตามเรื่อง
ของธรรมชาติ —คนไม่มี.
⸻
พอได้ยินคำว่า “ไม่มีคน”
ก็ขอให้รู้เถิดว่า
นั่นแหละคือ
หัวใจของพุทธศาสนา
คำสามพยางค์ที่ว่า “ไม่มีคน”
นี้มีความหมายทั้งหมดของพุทธศาสนา.
⸻
#พุทธทาสภิกขุ จากหนังสือ ค่ายธรรมบุตร เรื่อง ความสับสนแห่งความหมายของภาษาที่ใช้พูดกันอยู่ (หน้า ๑๗๔–๑๗๕)