ในบางศาสนา
จะมีความเชื่อว่าไม่มีอะไรเป็นของตน
เพราะพระเจ้าเป็นผู้สร้าง
ซึ่งนั่นก็ไม่ผิดอะไร
เพราะเป็นความเชื่อของศาสนานั้นๆ
สำหรับผู้ที่เชื่อเช่นนั้นมาก่อน
ที่จะมานับถือพุทธ
เมื่อมาศึกษาเรื่องอนัตตา
ก็อาจจะมองว่าเป็นเรื่องเดียวกัน
และอาจมีความศรัทธาทั้งสองแนวทาง
จึงมีการเลือกเอาคำสอนที่เป็นประโยชน์มาใช้
นั่นก็ไม่มีอะไรผิดอีกเช่นกัน
เพราะเป็นเรื่องส่วนบุคคล
แต่ถ้าผู้ศรัทธาในหลักเทวนิยมนั้น
หันมาเป็นผู้เผยแผ่พุทธศาสนาเสียเอง
และในจิตใต้สำนึกเชื่อมโยงว่า
การไม่มีสิ่งใดเป็นของตนแบบนั้น
เป็นเรื่องเดียวกันกับหลักอนัตตา
การเผยแผ่ศาสนา
ก็จะสามารถพาพุทธศาสนิก
ออกนอกแนวทางพุทธธรรมได้
เช่น
สอนด้วยอัตโนมติ
โดยให้มองว่าไม่มีสัตว์
ไม่มีตัวตน บุคคล เรา เขา
อะไรๆก็ไม่มี
ซึ่งสามารถเป็นเหตุให้คนประมาท
ที่จะหมั่นทำความดี
ที่จะพัฒนาจิตใจ
และเกิดมิจฉาทิฏฐิ
เพราะเข้าใจอนัตตาแบบผิดๆ
จนมองข้ามเรื่องกรรมดีกรรมชั่วให้ผล
หรือเช่น
บิดเบือนอริยมรรค
แล้วสอนให้ฟังการสาธยายหรืออ่าน
ความเป็นอนัตตามากๆ
แล้วจะสามารถบรรลุสัจธรรมได้
โดยไม่มีการรักษาศีล
ไม่มีการขัดเกลาจิตใจ
(เพราะผู้สอนอาจเห็นว่าขัดกับหลักอนัตตา
หรือลึกๆเพราะผู้สอนไม่ศรัทธาการพึ่งตนในการพัฒนาตนเอง นั่นเอง)
เป็นต้น
.
สำหรับชาวพุทธ ถ้าขาดการปฏิบัติ
จะมองคำสอนบิดเบือนออกได้ยาก
สิ่งที่สามารถทำได้ในการช่วยตนเอง
ไม่ให้ตกไปในฝ่ายมิจฉาทิฏฐิ
คือหลักอริยมรรคมีองค์ 8
ถ้าฟังใครแล้วเกิดอคติกับ
ศีล การเจริญสมาธิ วิปัสสนา
ฟังแล้วตั้งตนอยู่ในความประมาท
ตาโต ตาล่อ แต่เรื่องปรมัตถ์
เรื่องอนัตตา บรรลุธรรม อริยบุคคล
ก็เตือนสติตัวเองให้มากๆ
และพิจารณาว่านั่นใช่พุทธธรรม
ที่สอนโดยผู้รู้ และผู้มีคุณธรรมจริงหรือ
ผู้ที่ศรัทธาในหลักเทวนิยม ไม่สามารถสอนให้คนตื่นรู้ตามหลักพุทธธรรมได้
จะมีความเชื่อว่าไม่มีอะไรเป็นของตน
เพราะพระเจ้าเป็นผู้สร้าง
ซึ่งนั่นก็ไม่ผิดอะไร
เพราะเป็นความเชื่อของศาสนานั้นๆ
สำหรับผู้ที่เชื่อเช่นนั้นมาก่อน
ที่จะมานับถือพุทธ
เมื่อมาศึกษาเรื่องอนัตตา
ก็อาจจะมองว่าเป็นเรื่องเดียวกัน
และอาจมีความศรัทธาทั้งสองแนวทาง
จึงมีการเลือกเอาคำสอนที่เป็นประโยชน์มาใช้
นั่นก็ไม่มีอะไรผิดอีกเช่นกัน
เพราะเป็นเรื่องส่วนบุคคล
แต่ถ้าผู้ศรัทธาในหลักเทวนิยมนั้น
หันมาเป็นผู้เผยแผ่พุทธศาสนาเสียเอง
และในจิตใต้สำนึกเชื่อมโยงว่า
การไม่มีสิ่งใดเป็นของตนแบบนั้น
เป็นเรื่องเดียวกันกับหลักอนัตตา
การเผยแผ่ศาสนา
ก็จะสามารถพาพุทธศาสนิก
ออกนอกแนวทางพุทธธรรมได้
เช่น
สอนด้วยอัตโนมติ
โดยให้มองว่าไม่มีสัตว์
ไม่มีตัวตน บุคคล เรา เขา
อะไรๆก็ไม่มี
ซึ่งสามารถเป็นเหตุให้คนประมาท
ที่จะหมั่นทำความดี
ที่จะพัฒนาจิตใจ
และเกิดมิจฉาทิฏฐิ
เพราะเข้าใจอนัตตาแบบผิดๆ
จนมองข้ามเรื่องกรรมดีกรรมชั่วให้ผล
หรือเช่น
บิดเบือนอริยมรรค
แล้วสอนให้ฟังการสาธยายหรืออ่าน
ความเป็นอนัตตามากๆ
แล้วจะสามารถบรรลุสัจธรรมได้
โดยไม่มีการรักษาศีล
ไม่มีการขัดเกลาจิตใจ
(เพราะผู้สอนอาจเห็นว่าขัดกับหลักอนัตตา
หรือลึกๆเพราะผู้สอนไม่ศรัทธาการพึ่งตนในการพัฒนาตนเอง นั่นเอง)
เป็นต้น
.
สำหรับชาวพุทธ ถ้าขาดการปฏิบัติ
จะมองคำสอนบิดเบือนออกได้ยาก
สิ่งที่สามารถทำได้ในการช่วยตนเอง
ไม่ให้ตกไปในฝ่ายมิจฉาทิฏฐิ
คือหลักอริยมรรคมีองค์ 8
ถ้าฟังใครแล้วเกิดอคติกับ
ศีล การเจริญสมาธิ วิปัสสนา
ฟังแล้วตั้งตนอยู่ในความประมาท
ตาโต ตาล่อ แต่เรื่องปรมัตถ์
เรื่องอนัตตา บรรลุธรรม อริยบุคคล
ก็เตือนสติตัวเองให้มากๆ
และพิจารณาว่านั่นใช่พุทธธรรม
ที่สอนโดยผู้รู้ และผู้มีคุณธรรมจริงหรือ