O น้ำปลายฝน .. O




0 น้ำปลายฝนกรากเชี่ยวเป็นเกลียวระลอก
กระเพื่อมผิวพลิ้วกระฉอกคล้ายบอกว่า
เข้มดินโคลนขุ่นข้นที่ปนมา
บ่งร่องรอยอันยากยาที่ป่าบน
0 จะกี่รอบเดือนปีในที่นั้น
แม่น้ำพร้องจำนรรจ์หมื่นพันหน
ยังไม่อาจผ่านนัยสู่ใจคน
ไม่อาจหยุดขุ่นข้นสายชลนั้น
0 ปริ่มแผ่นพื้นโยนระลอกยั่วหยอกฝั่ง
เมื่อเนตรปลั่งปลาบฉาย .. ค่อย-ส่ายสั่น
หลังอารมณ์ก่อระลอกยั่วหยอกกัน
ถ้อยรำพันก็หลากล้อม .. เข้ากล่อมใจ
0 ต้องกี่รอบเดือนปีจากนี้ .. หนอ ?
จึงเพียงพอสุมซ้อนความอ่อนไหว
ต้องกี่คาบปีเดือนคล้อยเคลื่อนไป
จึงอาจให้รูปละม่อม .. ได้น้อมอิง
0 น้ำปลายฝนหลากเชี่ยวเป็นเกลียวคลื่น
แววตอบตื่น, ห้วงคะนึงกลับตรึงนิ่ง
วงแขน-รูป, การประจบเพื่อซบอิง
ย่อมวนวิ่งล้อลมที่พรมมา
0 ลมแผ่วเบาโลมไล้ .. ล้อใบข้าว
รวงเม็ดพราวก็ลู่ค้อมลงน้อมหา
ใจเมื่อต้องรูปละม่อม .. ก็ค้อมคา
ดั่งรวงข้าวในนา .. น้อมคาโคน
0 คำนึงกลางลมถั่งโลมฝั่งฟาก
ต้องอ่อนเอนตามกระชากแรงลากโค่น
เฉกเช่นกันอาวรณ์แสนอ่อนโยน
รอเพิ่มโอนแรงกระหวัดรึงรัดทรวง
0 ต่อลมล่องอ่อนแรง .. แล้วแพงน้อย
อ้อมอกคอย, สองแขน, ใจแหนหวง
รอบรรจงโอบรูป .. โลมลูบดวง-
จิต-สู่บ่วงอาลัยด้วยใจนี้
0 เพียงกระเพื่อมพริ้มพรับอยู่วับไหว
หอมหวานในอกคนถึงล้นปรี่
ด้วยอาวรณ์อาลัย .. เมื่อใครมี
ความเห็นดีเห็นงาม .. ตอบวามวับ !
.
.
.
ขออนุญาตคนในภาพนะขอรับ
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=sdayoo&month=17-10-2025&group=239&gblog=5
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่