Hymne à l'amour - Edith Piaf
O ดูเลือดฝาดปาดแต้ม .. ทั้งแก้มหน้า
เหมือนรอให้สายตาลองฝ่า .. หัก
ดูเถิด .. แววตาพร้อมละม่อมพักตร์
เหมือนล้อมกักให้ละห้อย .. แต่คอยรอ
O ปั่นป่วนด้วยลมตื่น .. โลมพื้นผิว-
น้ำ, เมื่อริ้วเลือดซ่านด้วยหวาน .. ก่อ-
ขึ้นจากแววตาเฝ้าพะเน้าพะนอ
ยั่ว .. หยอกล้อรมยาในตาคน
O เจ้าพระยา .. ยังเชี่ยวเป็นเกลียวคลื่น
เมื่อคำคืนฉ่ำละมุนด้วยฝุ่นฝน
แรงรื่นรมย์แผ่วพลิ้วเป็นริ้ววน
กลางอกอลวนอยู่ .. ไม่รู้ยาม
O โอ แววตารูปละม่อม .. ไย-น้อมรับ
เหตุใดเล่าจึงระยับ .. จนพรับข้าม-
มาพิมพ์รูป .. พิมพ์รสแสนงดงาม
แล้วเหนี่ยวใจผูกล่าม .. เอาตามใจ ?
O จากบัดนั้น .. รุ้งเรื้องที่เบื้องหน้า
ก็เหมือนว่าทอดโค้งยึดโยงให้
ความขัดเขินอ่อนหวานที่ด้านใน
อกทรวงใคร .. ผ่านผกายสบสายตา
O ยิ้มรับความสดใสแห่งวัยเยาว์
เช่นยามเช้าสุมาลย์ช้อย .. ช่อ-คอยท่า
ภุมรินผึ้งภู่ .. จะรู้มา
ตฤปรสผาณิตหอม .. อย่างยอมตน
O ยิ้มรับความอ่อนไหว .. ของใครนั้น
กับแวววามไหวสั่นนับพันหน
เอ็นดูความขัดเขินหยอกเอินคน
หวามที่ล้นเอ่อแล้ว .. ในแววตา !
O ย่อมหวังเพียงหวานซึ้ง .. ใจหนึ่งนั้น
ต้องรำพันความถ้อย .. แล้วคอยท่า
คอยโอบกล่อมดวงขวัญด้วยพรรณนา
ต่อคุณค่าหวานหอมรายล้อมใจ
O เพื่อบอกว่าอาวรณ์ที่ซ่อนเร้น
ถูก-บีบเค้นออดอ้อน .. อาจผ่อนให้
เผยความผ่านเดียงสา .. เผยว่าใคร
นั้น-ถึงวัยรับรู้ .. เชิงชู้แล้ว
O เมื่อสิ้นแรงกดข่มอารมณ์ชู้
อกใจผู้แฝงเร้นจักเต้นแผ่ว
จากที่เก็บกักไว้ .. ปล่อยให้แวว-
ตาผ่องแผ้วคู่นั้น .. รำพันความ
O ลำดับภาพเปื้อนป่ายในสายตา
จึงค่อยบ่าโหมระลอกเกินบอกห้าม
เข้าเหนี่ยวใจประนังประนอมแวดล้อมงาม
รอ-ไถ่ถามหวานซึ้งว่าถึงใคร ?
O เพื่อให้บางห้วงอกสะทกสะท้อน
ปริศนาอาวรณ์เว้าวอนไฉน
ความพร่ำพ้อส่อเอื้อสานเยื่อใย
ความคำดูร่ำไรถึงใครกัน ?
O เพื่อให้แววระยับเกิดนับเนื่อง
ดั่งแสงดาวรุ่งเรื้องเมลืองสวรรค์
เต้นผกายวับวาม .. ตอบรำพัน
ที่กระชับที่กระชั้นเกินกั้นแล้ว
O ปลายปีกนกโบกผ่านไปนานเนิ่น
หากสะทกสะเทิ้นใดจะไหวแผ่ว
ในท่ามกลางเร้นแฝงปรับแต่งแวว
เพื่อผ่องแผ้วจะพลิ้วไหว .. อยู่ในยาม ?
O ปลายปีกนกโบกลับไปกับฟ้า
สุดสายตา .. คอย-ประถมการข่มข้าม
ของอาวรณ์อ่อนไหว-จักไหลลาม
ในรูปนามปริศนา .. ผู้อ่าองค์ !
.
.
.
ขออนุญาตคนในภาพนะขอรับ
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=sdayoo&month=28-09-2025&group=11&gblog=2
O แววในดวงตา .. O
Hymne à l'amour - Edith Piaf
O ดูเลือดฝาดปาดแต้ม .. ทั้งแก้มหน้า
เหมือนรอให้สายตาลองฝ่า .. หัก
ดูเถิด .. แววตาพร้อมละม่อมพักตร์
เหมือนล้อมกักให้ละห้อย .. แต่คอยรอ
O ปั่นป่วนด้วยลมตื่น .. โลมพื้นผิว-
น้ำ, เมื่อริ้วเลือดซ่านด้วยหวาน .. ก่อ-
ขึ้นจากแววตาเฝ้าพะเน้าพะนอ
ยั่ว .. หยอกล้อรมยาในตาคน
O เจ้าพระยา .. ยังเชี่ยวเป็นเกลียวคลื่น
เมื่อคำคืนฉ่ำละมุนด้วยฝุ่นฝน
แรงรื่นรมย์แผ่วพลิ้วเป็นริ้ววน
กลางอกอลวนอยู่ .. ไม่รู้ยาม
O โอ แววตารูปละม่อม .. ไย-น้อมรับ
เหตุใดเล่าจึงระยับ .. จนพรับข้าม-
มาพิมพ์รูป .. พิมพ์รสแสนงดงาม
แล้วเหนี่ยวใจผูกล่าม .. เอาตามใจ ?
O จากบัดนั้น .. รุ้งเรื้องที่เบื้องหน้า
ก็เหมือนว่าทอดโค้งยึดโยงให้
ความขัดเขินอ่อนหวานที่ด้านใน
อกทรวงใคร .. ผ่านผกายสบสายตา
O ยิ้มรับความสดใสแห่งวัยเยาว์
เช่นยามเช้าสุมาลย์ช้อย .. ช่อ-คอยท่า
ภุมรินผึ้งภู่ .. จะรู้มา
ตฤปรสผาณิตหอม .. อย่างยอมตน
O ยิ้มรับความอ่อนไหว .. ของใครนั้น
กับแวววามไหวสั่นนับพันหน
เอ็นดูความขัดเขินหยอกเอินคน
หวามที่ล้นเอ่อแล้ว .. ในแววตา !
O ย่อมหวังเพียงหวานซึ้ง .. ใจหนึ่งนั้น
ต้องรำพันความถ้อย .. แล้วคอยท่า
คอยโอบกล่อมดวงขวัญด้วยพรรณนา
ต่อคุณค่าหวานหอมรายล้อมใจ
O เพื่อบอกว่าอาวรณ์ที่ซ่อนเร้น
ถูก-บีบเค้นออดอ้อน .. อาจผ่อนให้
เผยความผ่านเดียงสา .. เผยว่าใคร
นั้น-ถึงวัยรับรู้ .. เชิงชู้แล้ว
O เมื่อสิ้นแรงกดข่มอารมณ์ชู้
อกใจผู้แฝงเร้นจักเต้นแผ่ว
จากที่เก็บกักไว้ .. ปล่อยให้แวว-
ตาผ่องแผ้วคู่นั้น .. รำพันความ
O ลำดับภาพเปื้อนป่ายในสายตา
จึงค่อยบ่าโหมระลอกเกินบอกห้าม
เข้าเหนี่ยวใจประนังประนอมแวดล้อมงาม
รอ-ไถ่ถามหวานซึ้งว่าถึงใคร ?
O เพื่อให้บางห้วงอกสะทกสะท้อน
ปริศนาอาวรณ์เว้าวอนไฉน
ความพร่ำพ้อส่อเอื้อสานเยื่อใย
ความคำดูร่ำไรถึงใครกัน ?
O เพื่อให้แววระยับเกิดนับเนื่อง
ดั่งแสงดาวรุ่งเรื้องเมลืองสวรรค์
เต้นผกายวับวาม .. ตอบรำพัน
ที่กระชับที่กระชั้นเกินกั้นแล้ว
O ปลายปีกนกโบกผ่านไปนานเนิ่น
หากสะทกสะเทิ้นใดจะไหวแผ่ว
ในท่ามกลางเร้นแฝงปรับแต่งแวว
เพื่อผ่องแผ้วจะพลิ้วไหว .. อยู่ในยาม ?
O ปลายปีกนกโบกลับไปกับฟ้า
สุดสายตา .. คอย-ประถมการข่มข้าม
ของอาวรณ์อ่อนไหว-จักไหลลาม
ในรูปนามปริศนา .. ผู้อ่าองค์ !
.
.
.
ขออนุญาตคนในภาพนะขอรับ
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=sdayoo&month=28-09-2025&group=11&gblog=2