เงาแสงอาทิตย์เอนอาบยอดไม้เฒ่า
สายลมโบราณพัดผ่านราวกับเสียงครวญจากกาลเวลา
ใบไม้แกร่งในวันวาน
บัดนี้แห้งกรอบอยู่บนกิ่งที่เคยโอบอุ้มชีวิต
เสียงจั๊กจั่นเก่าก้องอยู่ในความทรงจำของลม
ทุกถ้อยคำยังไม่สิ้นจากผืนดิน
เพียงแต่เงียบงัน — ดั่งบทสวดของฤดูที่ล่วงลับ
บนรอยแยกของเปลือกไม้
มีเรื่องราวของเด็กชายที่เคยวิ่งเล่นใต้ร่มเงา
เขาอาจเติบโตเป็นเงาไม้ต้นอื่น
หรือสูญหายไปกับควันไฟยามค่ำ
ใบไม้ชราร่วงลงช้า ๆ
ในความสงบที่ไม่มีผู้ใดได้ยิน
ราวกับกำลังเอ่ยคำอำลาแก่สรรพสิ่ง
ที่ยังคงดิ้นรนอยู่ในวัฏจักรแห่งการเกิดและดับ
โอ้ ป่าแห่งนี้ —
เจ้ามิได้แก่เพียงต้นไม้
แต่แก่ด้วยเสียงหัวเราะที่สาบสูญ
แก่ด้วยความฝันที่กลายเป็นผงเถ้าในสายหมอก
ฉันยืนอยู่กลางป่า
เหมือนวิญญาณหนึ่งที่ลืมเส้นทางกลับบ้าน
ฟังเสียงใบไม้ร่วง
ราวกับได้ยินหัวใจตนเองร่วงหล่นไปพร้อมกัน
“ใบไม้ชราในป่าโบราณ”