สวัสดีค่ะ 😊 เราอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ทำฟันอุดฟันของตัวเอง เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับใครที่กำลังมองหาคลินิกทำฟันหรือกำลังเปรียบเทียบราคาการอุดฟันอยู่นะคะ เราทำงานอยู่แถวอโศก-สุขุมวิทค่ะ วันหนึ่งรู้สึกว่าฟันกรามมีอาการเสียวฟันเวลาเคี้ยวของเย็นๆ และเหมือนจะเห็นจุดเล็กๆ อยู่บนผิวฟันที่ปกติมันไม่มี พอเจอแบบนี้ก็แอบตกใจ เพราะรู้สึกมันผิดแปลกจากปกติ ก็เลยเริ่มหาข้อมูลดูว่าอาการแบบนี้ควรรักษายังไงดี กลัวจะเป็นอะไรเยอะกว่าเดิมค่ะ
ระหว่างค้นหาในเน็ต เราก็เจอหลายคนถามเหมือนกันว่า “อุดฟันที่ไหน” หรือ “
อุดฟันราคาเท่าไหร?” เราเองก็มีคำถามแบบนี้ในใจเหมือนกัน ตอนแรกลังเลว่าจะไปทำที่คลินิกแถวบ้านตรงชานเมืองหรือคลินิกแถวที่ทำงานดี เพราะที่ทำงานอยู่ใจกลางเมือง ราคาทำฟันอาจจะแพงกว่าหรือเปล่า สุดท้ายเลยลองเสิร์ชคำว่า อุดฟันแถวสุขุมวิท ดู ก็เจอชื่อคลินิกทันตกรรม HeySmile Dental Clinic สาขาอโศกขึ้นมา เห็นรีวิวเยอะ เลยลองกดเข้าไปดูทั้งเพจ Facebook และเว็บไซต์ของที่นี่ พบว่าเขาให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการอุดฟันค่อนข้างครบถ้วนดี มีบทความให้ความรู้ (เช่น ประเภทของวัสดุอุดฟัน การอุดฟันเจ็บไหม ราคาเท่าไหร่ ฯลฯ) แถมมีแอดมินตอบแชทรวดเร็วมากๆ ด้วยค่ะ 🙌
เราแอดไลน์ไป พอคุยกับแอดมินทางเพจ เราก็สอบถามเรื่องค่าใช้จ่ายคร่าวๆ และสิทธิประกันสังคม ได้ความว่าที่นี่สามารถใช้สิทธิประกันสังคมวงเงิน
900 บาท ในการอุดฟันได้โดยไม่ต้องสำรองจ่าย (สิทธิทำฟันประกันสังคมคลินิกนี้ใช้ได้ทันที) ซึ่งพอได้ยินดังนั้นเราก็โล่งใจขึ้นเยอะ เพราะกลัวเหมือนกันว่าทำฟันในเมืองราคาจะแรง
ทีนี้เลยตัดสินใจจองคิวเข้าไปพบคุณหมอให้ตรวจดูอาการก่อนดีกว่า เพราะยังไม่แน่ใจว่าต้องอุดฟันจริงไหม หรือฟันผุลึกจนต้องรักษารากฟันรึเปล่า เพราะตอนเสิร์ชก็มีบอกเหมือนกันว่าถ้าเป็นเยอะจะต้องรักษารากฟันเลย...
ทางคลินิกก็ให้คำแนะนำดีค่ะ บอกว่าสามารถเข้าไปให้คุณหมอตรวจประเมินได้ฟรีเบื้องต้น ไม่มีค่าใช้จ่ายถ้าเรายังไม่ทำหัตถการทันที
ถึงวันนัดหมายเราก็ลางานช่วงบ่ายๆ แล้วเดินทางไปคลินิกค่ะ คลินิกจะอยู่ตรงสุขุมวิท 21 (อโศก) การเดินทางสะดวกมาก BTS อโศก (ทางออก 3)
หรือ MRT สุขุมวิท (ทางออก 1) เดินประมาณ 5 นาทีก็ถึงคลินิกเลย บรรยากาศคลินิกสะอาดโปร่งสบาย ตกแต่งสวยทันสมัย และค่อนข้างเงียบสงบ คนไม่พลุกพล่านจนเกินไป ทำให้เราไม่รู้สึกเกร็งหรือกลัวหมอฟันเท่าที่คิดไว้เลยค่ะ (ปกติเราเป็นคนกลัวหมอฟัน กลัวการทำฟันอยู่หน่อยๆ) พี่ๆ พนักงานต้อนรับน่ารัก ยิ้มแย้มและช่วยแนะนำขั้นตอนต่างๆ ดีมาก ช่วยให้ผ่อนคลายไปได้เยอะเลย
พอถึงคิวตรวจ คุณหมอก็ตรวจฟันที่เรารู้สึกเสียวอย่างละเอียด แล้วแจ้งว่าฟันกรามซี่นั้นมีรอยผุจริงๆ แต่ยังเป็นรอยผุขนาดเล็กอยู่ โชคดีว่าผุไม่ลึกถึงโพรงประสาทฟัน คุณหมอเลยแนะนำว่าควรอุดฟันซี่นี้ไว้แต่เนิ่นๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผุลุกลามลึกกว่าเดิม (ถ้าปล่อยไว้อาจต้องรักษารากฟันทีหลัง ซึ่งยุ่งยากและแพงกว่ามาก) ตอนตรวจคุณหมอก็อธิบายให้เราดูที่กระจกด้วยว่า จุดที่ผุอยู่ตรงไหน ต้องกรอฟันออกประมาณไหนบ้าง เราฟังแล้วก็สบายใจค่ะ เพราะเข้าใจสภาพฟันตัวเองมากขึ้น
ก่อนทำการอุด คุณหมอถามด้วยว่าอยากใช้วัสดุอุดฟันแบบไหน ซึ่งหลักๆ ก็มี อมัลกัม (สีเงิน) กับ คอมโพสิตเรซิน (สีเหมือนฟัน) ค่ะ สำหรับเคสของเรา คุณหมอบอกว่าสามารถเลือกวัสดุสีเหมือนฟันได้เลย เพราะรอยผุไม่ใหญ่มากและอยู่ในตำแหน่งที่ต้องการความสวยงามเวลาอ้าปาก (แม้จะเป็นฟันกรามแต่ก็ใกล้ฟันหน้าเล็กน้อย) เราเองก็อยากให้อุดแล้วเนียนไปกับฟันเดิม เลยเลือกแบบสีเหมือนฟันค่ะ
ตอนทำการอุดฟันจริงๆ ต้องบอกว่าประทับใจมาก เพราะ ไม่เจ็บแบบที่กลัวตอนแรก คุณหมอมือเบามากค่ะ ฉีดยาชาก็แทบไม่รู้สึกเจ็บ ระหว่างทำคุณหมอก็คอยอธิบายเป็นระยะๆ ว่ากำลังจะทำอะไร เช่น กำลังกรอเอาฟันส่วนที่ผุออกนะ อาจมีเสียงดังนิดหน่อย ไม่ต้องตกใจนะคะ ทำให้เราเตรียมตัวทันและไม่ตกใจเลย ใช้เวลาทำทั้งหมดประมาณครึ่งชั่วโมงกว่าๆ (กรอฟัน ใส่วัสดุอุด และขัดแต่ง) ไม่นานอย่างที่คิดไว้
หลังทำเสร็จเราขอส่องกระจกดูผลงานหน่อยค่ะ ปรากฏว่าฟันที่อุดเสร็จแล้วนี่มองเผินๆ แทบแยกไม่ออกจากฟันธรรมชาติเลย เนียนมากๆ ไม่มีรอยต่อให้เห็นเลยค่ะ ลองเอาลิ้นดูก็รู้สึกผิวฟันลื่นๆ เรียบดี ไม่สะดุดเลย ส่วนอาการหลังอุดก็ปกติดี เคี้ยวอาหารได้ตามปกติ ไม่รู้สึกเจ็บหรือเสียวฟันหลังทำเลย (คุณหมอบอกว่าถ้าอุดเสร็จใหม่ๆ แล้วสูงไปหรือเคี้ยวแล้วสะดุดให้กลับไปให้หมอปรับได้ฟรี แต่ของเราพอดีเป๊ะค่ะ ไม่ต้องแก้อะไรเพิ่มเติม)
มาถึงเรื่อง
ราคาที่หลายคนน่าจะกังวลกันบ้าง เราขอสรุปให้ฟังนะคะ เคสของเราคืออุดฟันกราม 1 ซี่ ค่าใช้จ่ายทั้งหมด 1,500 บาท (เป็นการอุดฟัน 1 ด้าน + ขัดแต่งผิวเคลือบฟัน) ซึ่งเราใช้สิทธิประกันสังคมได้ 900 บาท ทำให้จ่ายเองเพิ่มแค่ 600 บาท เท่านั้นเอง ส่วนตัวรู้สึกว่าราคานี้คุ้มค่ามาก เพราะคุณหมอทำให้ละเอียดประณีต วัสดุที่ใช้อุดก็เป็นแบบสีเหมือนฟันคุณภาพดี แถมบริการโดยรวมของคลินิกก็น่าประทับใจ เมื่อเทียบกับบางที่ที่เคยเช็คราคามา ราคานี้ไม่แพงเลยสำหรับย่านใจกลางเมืองค่ะ (บางที่ถ้าไม่ใช้สิทธิก็มีหลักพันปลายๆ ถึงสองพันอยู่เหมือนกันน้า)
สุดท้ายนี้ อยากจะฝากถึงเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาคลินิกอุดฟันแถวอโศก สุขุมวิท หรือแนว BTS/MRT ใจกลางเมืองอยู่ เราแนะนำที่นี่เลยค่ะ คลินิก HeySmile Dental ถือเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ ไม่ใช่แค่สถานที่สะอาด บรรยากาศดี เดินทางสะดวกเท่านั้น แต่คุณหมอและเจ้าหน้าที่ทุกคนน่ารัก เป็นกันเอง และให้ข้อมูลชัดเจนตรงไปตรงมาดีมาก ที่สำคัญใครมีสิทธิประกันสังคม ก็ใช้ได้เลยทันที ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก แค่พกบัตรประชาชนไปก็พอ เราเองตอนแรกก็กังวลหลายอย่าง แต่พอได้ลองเข้าไปทำจริงๆ แล้วรู้สึกว่ามันไม่ได้น่ากลัวหรือแพงอย่างที่คิดไว้เลยค่ะ 😊 หวังว่าโพสต์รีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังตัดสินใจจะไปอุดฟันนะคะ หากมีคำถามอะไรเพิ่มเติมก็ลองคอมเมนต์พูดคุยกันได้ ยินดีแบ่งปันข้อมูลค่ะ 💖
[CR] แชร์ประสบการณ์อุดฟัน ที่คลินิก HeySmile อโศก (ราคาไม่แพง ใช้ประกันสังคมได้)
ระหว่างค้นหาในเน็ต เราก็เจอหลายคนถามเหมือนกันว่า “อุดฟันที่ไหน” หรือ “อุดฟันราคาเท่าไหร?” เราเองก็มีคำถามแบบนี้ในใจเหมือนกัน ตอนแรกลังเลว่าจะไปทำที่คลินิกแถวบ้านตรงชานเมืองหรือคลินิกแถวที่ทำงานดี เพราะที่ทำงานอยู่ใจกลางเมือง ราคาทำฟันอาจจะแพงกว่าหรือเปล่า สุดท้ายเลยลองเสิร์ชคำว่า อุดฟันแถวสุขุมวิท ดู ก็เจอชื่อคลินิกทันตกรรม HeySmile Dental Clinic สาขาอโศกขึ้นมา เห็นรีวิวเยอะ เลยลองกดเข้าไปดูทั้งเพจ Facebook และเว็บไซต์ของที่นี่ พบว่าเขาให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการอุดฟันค่อนข้างครบถ้วนดี มีบทความให้ความรู้ (เช่น ประเภทของวัสดุอุดฟัน การอุดฟันเจ็บไหม ราคาเท่าไหร่ ฯลฯ) แถมมีแอดมินตอบแชทรวดเร็วมากๆ ด้วยค่ะ 🙌
เราแอดไลน์ไป พอคุยกับแอดมินทางเพจ เราก็สอบถามเรื่องค่าใช้จ่ายคร่าวๆ และสิทธิประกันสังคม ได้ความว่าที่นี่สามารถใช้สิทธิประกันสังคมวงเงิน 900 บาท ในการอุดฟันได้โดยไม่ต้องสำรองจ่าย (สิทธิทำฟันประกันสังคมคลินิกนี้ใช้ได้ทันที) ซึ่งพอได้ยินดังนั้นเราก็โล่งใจขึ้นเยอะ เพราะกลัวเหมือนกันว่าทำฟันในเมืองราคาจะแรง
ทีนี้เลยตัดสินใจจองคิวเข้าไปพบคุณหมอให้ตรวจดูอาการก่อนดีกว่า เพราะยังไม่แน่ใจว่าต้องอุดฟันจริงไหม หรือฟันผุลึกจนต้องรักษารากฟันรึเปล่า เพราะตอนเสิร์ชก็มีบอกเหมือนกันว่าถ้าเป็นเยอะจะต้องรักษารากฟันเลย...
ทางคลินิกก็ให้คำแนะนำดีค่ะ บอกว่าสามารถเข้าไปให้คุณหมอตรวจประเมินได้ฟรีเบื้องต้น ไม่มีค่าใช้จ่ายถ้าเรายังไม่ทำหัตถการทันที
ถึงวันนัดหมายเราก็ลางานช่วงบ่ายๆ แล้วเดินทางไปคลินิกค่ะ คลินิกจะอยู่ตรงสุขุมวิท 21 (อโศก) การเดินทางสะดวกมาก BTS อโศก (ทางออก 3) หรือ MRT สุขุมวิท (ทางออก 1) เดินประมาณ 5 นาทีก็ถึงคลินิกเลย บรรยากาศคลินิกสะอาดโปร่งสบาย ตกแต่งสวยทันสมัย และค่อนข้างเงียบสงบ คนไม่พลุกพล่านจนเกินไป ทำให้เราไม่รู้สึกเกร็งหรือกลัวหมอฟันเท่าที่คิดไว้เลยค่ะ (ปกติเราเป็นคนกลัวหมอฟัน กลัวการทำฟันอยู่หน่อยๆ) พี่ๆ พนักงานต้อนรับน่ารัก ยิ้มแย้มและช่วยแนะนำขั้นตอนต่างๆ ดีมาก ช่วยให้ผ่อนคลายไปได้เยอะเลย
พอถึงคิวตรวจ คุณหมอก็ตรวจฟันที่เรารู้สึกเสียวอย่างละเอียด แล้วแจ้งว่าฟันกรามซี่นั้นมีรอยผุจริงๆ แต่ยังเป็นรอยผุขนาดเล็กอยู่ โชคดีว่าผุไม่ลึกถึงโพรงประสาทฟัน คุณหมอเลยแนะนำว่าควรอุดฟันซี่นี้ไว้แต่เนิ่นๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผุลุกลามลึกกว่าเดิม (ถ้าปล่อยไว้อาจต้องรักษารากฟันทีหลัง ซึ่งยุ่งยากและแพงกว่ามาก) ตอนตรวจคุณหมอก็อธิบายให้เราดูที่กระจกด้วยว่า จุดที่ผุอยู่ตรงไหน ต้องกรอฟันออกประมาณไหนบ้าง เราฟังแล้วก็สบายใจค่ะ เพราะเข้าใจสภาพฟันตัวเองมากขึ้น
ก่อนทำการอุด คุณหมอถามด้วยว่าอยากใช้วัสดุอุดฟันแบบไหน ซึ่งหลักๆ ก็มี อมัลกัม (สีเงิน) กับ คอมโพสิตเรซิน (สีเหมือนฟัน) ค่ะ สำหรับเคสของเรา คุณหมอบอกว่าสามารถเลือกวัสดุสีเหมือนฟันได้เลย เพราะรอยผุไม่ใหญ่มากและอยู่ในตำแหน่งที่ต้องการความสวยงามเวลาอ้าปาก (แม้จะเป็นฟันกรามแต่ก็ใกล้ฟันหน้าเล็กน้อย) เราเองก็อยากให้อุดแล้วเนียนไปกับฟันเดิม เลยเลือกแบบสีเหมือนฟันค่ะ
ตอนทำการอุดฟันจริงๆ ต้องบอกว่าประทับใจมาก เพราะ ไม่เจ็บแบบที่กลัวตอนแรก คุณหมอมือเบามากค่ะ ฉีดยาชาก็แทบไม่รู้สึกเจ็บ ระหว่างทำคุณหมอก็คอยอธิบายเป็นระยะๆ ว่ากำลังจะทำอะไร เช่น กำลังกรอเอาฟันส่วนที่ผุออกนะ อาจมีเสียงดังนิดหน่อย ไม่ต้องตกใจนะคะ ทำให้เราเตรียมตัวทันและไม่ตกใจเลย ใช้เวลาทำทั้งหมดประมาณครึ่งชั่วโมงกว่าๆ (กรอฟัน ใส่วัสดุอุด และขัดแต่ง) ไม่นานอย่างที่คิดไว้
หลังทำเสร็จเราขอส่องกระจกดูผลงานหน่อยค่ะ ปรากฏว่าฟันที่อุดเสร็จแล้วนี่มองเผินๆ แทบแยกไม่ออกจากฟันธรรมชาติเลย เนียนมากๆ ไม่มีรอยต่อให้เห็นเลยค่ะ ลองเอาลิ้นดูก็รู้สึกผิวฟันลื่นๆ เรียบดี ไม่สะดุดเลย ส่วนอาการหลังอุดก็ปกติดี เคี้ยวอาหารได้ตามปกติ ไม่รู้สึกเจ็บหรือเสียวฟันหลังทำเลย (คุณหมอบอกว่าถ้าอุดเสร็จใหม่ๆ แล้วสูงไปหรือเคี้ยวแล้วสะดุดให้กลับไปให้หมอปรับได้ฟรี แต่ของเราพอดีเป๊ะค่ะ ไม่ต้องแก้อะไรเพิ่มเติม)
มาถึงเรื่องราคาที่หลายคนน่าจะกังวลกันบ้าง เราขอสรุปให้ฟังนะคะ เคสของเราคืออุดฟันกราม 1 ซี่ ค่าใช้จ่ายทั้งหมด 1,500 บาท (เป็นการอุดฟัน 1 ด้าน + ขัดแต่งผิวเคลือบฟัน) ซึ่งเราใช้สิทธิประกันสังคมได้ 900 บาท ทำให้จ่ายเองเพิ่มแค่ 600 บาท เท่านั้นเอง ส่วนตัวรู้สึกว่าราคานี้คุ้มค่ามาก เพราะคุณหมอทำให้ละเอียดประณีต วัสดุที่ใช้อุดก็เป็นแบบสีเหมือนฟันคุณภาพดี แถมบริการโดยรวมของคลินิกก็น่าประทับใจ เมื่อเทียบกับบางที่ที่เคยเช็คราคามา ราคานี้ไม่แพงเลยสำหรับย่านใจกลางเมืองค่ะ (บางที่ถ้าไม่ใช้สิทธิก็มีหลักพันปลายๆ ถึงสองพันอยู่เหมือนกันน้า)
สุดท้ายนี้ อยากจะฝากถึงเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาคลินิกอุดฟันแถวอโศก สุขุมวิท หรือแนว BTS/MRT ใจกลางเมืองอยู่ เราแนะนำที่นี่เลยค่ะ คลินิก HeySmile Dental ถือเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ ไม่ใช่แค่สถานที่สะอาด บรรยากาศดี เดินทางสะดวกเท่านั้น แต่คุณหมอและเจ้าหน้าที่ทุกคนน่ารัก เป็นกันเอง และให้ข้อมูลชัดเจนตรงไปตรงมาดีมาก ที่สำคัญใครมีสิทธิประกันสังคม ก็ใช้ได้เลยทันที ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก แค่พกบัตรประชาชนไปก็พอ เราเองตอนแรกก็กังวลหลายอย่าง แต่พอได้ลองเข้าไปทำจริงๆ แล้วรู้สึกว่ามันไม่ได้น่ากลัวหรือแพงอย่างที่คิดไว้เลยค่ะ 😊 หวังว่าโพสต์รีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังตัดสินใจจะไปอุดฟันนะคะ หากมีคำถามอะไรเพิ่มเติมก็ลองคอมเมนต์พูดคุยกันได้ ยินดีแบ่งปันข้อมูลค่ะ 💖
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น