อาหารที่คนเป็นริดสีดวง ควรกินและไม่ควรกิน

🩺 ทำความเข้าใจกับ “ริดสีดวงทวาร” (Hemorrhoids) เป็นภาวะที่เส้นเลือดบริเวณทวารหนักโป่งพองหรือบวม อาจเกิดจากหลายสาเหตุ
เช่น ท้องผูกเรื้อรัง เบ่งแรงขณะขับถ่าย การนั่งหรือยืนนานเกินไป รวมถึงพฤติกรรมการกินอาหารที่ไม่เหมาะสม
หนึ่งในวิธีดูแลอาการริดสีดวงให้ดีขึ้นและป้องกันไม่ให้กำเริบ คือ การปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ให้เหมาะสมกับระบบขับถ่ายและหลอดเลือด

🥦 อาหารที่ “ควรกิน” ถ้ามีอาการริดสีดวง
1. อาหารที่มีกากใยสูง
เช่น ผักใบเขียว ฟักทอง มะละกอสุก กล้วยน้ำว้า แอปเปิ้ล และธัญพืชไม่ขัดสี
→ กากใยช่วยให้อุจจาระนิ่ม ลดแรงเบ่งขณะขับถ่าย และลดการอักเสบของเส้นเลือดบริเวณทวารหนัก
2. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
อย่างน้อยวันละ 6–8 แก้ว เพื่อช่วยให้อุจจาระไม่แข็งและขับถ่ายได้ง่ายขึ้น
3. อาหารที่มีไขมันดี
เช่น อะโวคาโด ถั่วอัลมอนด์ ปลาแซลมอน หรือน้ำมันมะกอก
→ ไขมันดีช่วยหล่อลื่นลำไส้ ลดแรงเสียดสีระหว่างการขับถ่าย
4. อาหารที่มีจุลินทรีย์ดี (Probiotic)
เช่น โยเกิร์ต กิมจิ หรือคอมบูชา
→ ช่วยปรับสมดุลลำไส้ ลดโอกาสเกิดอาการท้องผูกซ้ำซ้อน


🍗 อาหารที่ “ควรเลี่ยง” ถ้าไม่อยากให้อาการกำเริบ
1. ของทอดและอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง
เช่น หมูกรอบ ไก่ทอด ฟาสต์ฟู้ด
→ ทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดีและเพิ่มการอักเสบของเส้นเลือด
2. อาหารรสจัด โดยเฉพาะเผ็ดจัด เค็มจัด
→ กระตุ้นให้เส้นเลือดขยายตัวและเกิดการระคายเคืองบริเวณทวารหนัก
3. อาหารแปรรูปและเนื้อแดง
เช่น ไส้กรอก เบคอน เนื้อวัว
→ มีกากใยน้อยและย่อยยาก ส่งผลให้ท้องผูกง่าย
4. แอลกอฮอล์และคาเฟอีนในปริมาณมาก
→ มีฤทธิ์ขับน้ำออกจากร่างกาย ทำให้ลำไส้แห้งและอุจจาระแข็ง

📌 สรุป
อาหารควรกิน: ผักผลไม้ กากใยสูง ดื่มน้ำเพียงพอ มีไขมันดี และโปรไบโอติก
อาหารควรเลี่ยง: ของทอด ของเผ็ดจัด เนื้อแดง แอลกอฮอล์ และคาเฟอีน
การดูแลอาการริดสีดวงไม่จำเป็นต้องยุ่งยาก เพียงปรับพฤติกรรมเล็กน้อย