“คนดูแล” หัวใจสำคัญ… ของการดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่บ้าน ในฐานะหมอที่ดูแลผู้ป่วย ผู้สูงอายุมานานหลายปี มักจะเห็นภาพความยากลำบากของญาติผู้ดูแลผู้ป่วย/ผู้สูงอายุที่บ้าน(caregiver) หลายคนต้องแบกรับภาระทั้งงานประจำ ครอบครัว และการดูแลคนที่เรารัก
(ดังนั้นในบทความนี้ หมอตั้งใจรวบรวมข้อมูล เกี่ยวกับราคากลางของค่าจ้าง สิ่งที่ต้องพิจารณา ก่อนตัดสินใจจ้างคนดูแลผู้สูงอายุ/ผู้ป่วย ทั้งการจ้าง จากศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ หรือ จากคนแนะนำให้ ก็ตาม โดยจะสรุปเป็นแนวทางสำหรับญาติที่กำลังมองหา “คนดูแล” ให้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจ จ้างคนดูแลที่ได้มาตรฐาน ราคาเหมาะสมค่ะ)
“การจ้างคนดูแล” จึงเป็นทางเลือกที่หลายครอบครัวเลือกใช้ แต่การจะเลือก “คนดูแล” ที่ใช่ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
1. ราคากลาง
ค่าจ้างคนดูแลจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ดังนี้
1.1 ประเภทของผู้ป่วย/ผู้สูงอายุ: ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุที่มีภาวะซับซ้อน ย่อมมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตนเองได้
1.2 ระยะเวลาการดูแล: ดูแลรายวัน รายเดือน จำนวนชั่วโมงต่อวัน จำนวนที่แบ่งให้พักต่อวัน ย่อมมีผลต่อค่าใช้จ่ายที่ต่างกัน
1.3 ทักษะและประสบการณ์ของคนดูแล: คนดูแลที่มีทักษะเฉพาะทาง เช่น การกายภาพผู้ป่วยเบื้องต้นได้ การดูแลพลิกตัวผู้ป่วยติดเตียง การดูแลแผล-ทำความสะอาดแผลได้เบื้องต้น ย่อมมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า
1.4 สถานที่: กรุงเทพฯ ปริมณฑล โดยเฉลี่ยย่อมมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าต่างจังหวัด
ราคากลางโดยเฉลี่ย
รายวัน: 1,200-1,500-2,500 บาท/วัน
รายเดือน: 20,000-35,000 บาท/เดือน
2. มาตรฐานที่ต้องตรวจสอบ
ก่อนจ้างงาน อย่าลืมตรวจสอบใบยืนยันมาตรฐานการพยาบาลและการดูแลผู้ป่วย
2.1 ใบประกอบวิชาชีพพยาบาล: เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะซับซ้อน ต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด มีค่าสัญญาณชีพไม่คงที่ ผู้ป่วยระยะสุดท้าย เป็นต้น
2.2 ใบรับรองการอบรมการดูแลผู้สูงอายุ: เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลทั่วไป
2.3 ประสบการณ์: ตรวจสอบประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา หากเป็นไปได้ โทรตรวจสอบจากนายจ้างท่านเดิมก็จะช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้น
2.4 ทักษะของผู้ดูแล: พลิกตัวผู้ป่วย เปลี่ยนผ้าอ้อม ทำแผล ให้อาหารโดยการป้อน ให้อาหารทางสายยาง เป็นต้น
2.5 บุคลิกนิสัย: ควรเลือกผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ ใจเย็น อดทน รักงานดูแลผู้สูงอายุ
2.6 ประวัติอาชญากรรม: อย่าลืมตรวจสอบประวัติเพื่อความปลอดภัยของคนที่เรารัก
ปัจจุบันสามารถตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของลูกจ้าง/ผู้ดูแลผู้ป่วย/ผู้สูงอายุได้ทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ >> www.crd-check.com
หรือ อ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่เวบไซต์ของกองทะเบียนประวัติอาชญากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เว็บไซต์นี้ค่ะ >> ตรวจสอบทะเบียนประวัติอาชญากร
3. สิ่งที่ต้องพิจารณา
3.1 งบประมาณ ผู้จ้างตั้งใจ ตั้งงบประมาณในการดูแลทั้งหมดไว้เท่าไหร่ จะช่วยให้สามารถโฟกัสหาผู้ดูแลได้ตรงกับงบประมาณ ฐานะทางเศรษฐกิจของตนได้ดีขึ้น
3.2 สถานที่ ต้องการคนดูแลผู้ป่วย/ผู้สูงอายุที่พักอาศัยอยู่ด้วยหรือไม่ หรือ เป็นแบบเช้าไปเย็นกลับ? ซึ่งก็จะมีข้อดีข้อเสียต่างกันออกไป
🍀 แบบค้างคืน (พักอาศัยอยู่ด้วยกันกับนายจ้าง) ต้องพิจารณาว่าต้องการให้ผู้ดูแลนอนกับผู้ป่วย/ผู้สูงอายุในห้องเดียวกัน เพื่อเฝ้าไข้ หรือมีห้องนอนส่วนตัวให้ผู้ดูแล
อย่างไรก็ตามจะมีประเด็นสำคัญที่จุดนี้ หากญาติต้องการให้ผู้ดูแลนอนกับผู้ป่วย/ผู้สูงอายุในห้องเดียวกัน
- ผู้ดูแลที่ต้องเฝ้าไข้ผู้ป่วย/ผู้สูงอายุตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งกลางวันและกลางคืนนั้น อาจได้รับเวลาพักผ่อนไม่เพียงพอ เกิดความเครียด เหนื่อยล้าสะสมได้
- ดังนั้น ญาติ/นายจ้าง จึงควรพิจารณาวันพัก หรือช่วงเวลาพักผ่อนให้ผู้ดูแลตามความเหมาะสมด้วย นับว่าเป็นการดูแลกันและกัน ผู้ดูแลจะได้มีความสุข ตามสมควร และดูแลผู้ป่วยได้ดี ด้วยความใส่ใจในระยะยาว
🍀 แบบเช้าไปเย็นกลับ ญาติควรตกลงกับผู้ดูแลตั้งเเต่ก่อนจ้างงานว่า จะมีการสนับสนุนค่าใช้จ่าย ค่าเดินทางหรือไม่ ค่าเดินทางนั้น…รวมเบ็ดเสร็จเรียบร้อยแล้วในค่าจ้างที่ตกลงทั้งหมดหรือไม่?
4. ค่าอาหาร
หลายครั้งที่มีประกาศ ค่าจ้างราคาถูกนั้น
แต่มีการขอเพิ่มค่าใช้จ่ายส่วนตัว ค่าอาหาร ค่าเดินทาง เพิ่มเติมขึ้นมาภายหลัง ก็จะทำให้เกิดเรื่องหมองใจกันระหว่างนายจ้างกับผู้ดูแล จึงเป็นประเด็นสำคัญที่ควรตกลงกันตั้งแต่แรก
5. การสื่อสาร
ปัญหาด้านภาษาและวัฒนธรรม
ปัจจุบันหลายบ้าน เลือกจ้าง ผู้ดูแลผู้ป่วย/ผู้สูงอายุ ชาวต่างชาติ เช่น สัญชาติ พม่า กัมพูชา ไทยใหญ่ ลาว เป็นต้น
ต้องสอบถามผู้ดูแล/ลูกจ้างให้ละเอียดว่าสามารถสื่อสารภาษาไทย ได้ดีเพียงใด เนื่องจากการดูแลผู้ป่วย/ผู้สูงอายุเป็นงานละเอียดอ่อน ต้องมีการบอกงาน สื่อสารกันให้เข้าใจ จะได้ดูแลได้ถูกต้อง ไม่เกิดปัญหาแทรกซ้อนในผู้ป่วย/ผู้สูงอายุ
ที่ผ่านมามีปัญหาการดูแลของผู้ดูแลที่ฟังคำบอกของญาติไม่เข้าใจ ทำให้ทำตามไม่ได้ ที่หมอพบเหตุการณ์มา เช่น ผู้ป่วยเกิดภาวะปอดอักเสบจากการสำลักอาหาร สอบถามถึงสาเหตุ และวิธีการให้อาหารทางสายยางจากผู้ดูแลซึ่งเป็นลูกจ้างชาวต่างชาติ ทำให้ทราบว่า ผู้ดูแลไม่เข้าใจคำอธิบาย การให้อาหารทางสายยาง ซึ่งต้องค่อยๆให้ ปรับความเร็วการไหลของอาหารตามสายยาง ไม่ให้เร็วเกินไป ไม่เกินกว่า 30-60 นาทีต่อครั้ง แต่ผู้ดูแลที่ไม่เข้าใจภาษา จึงไม่เข้าใจคำอธิบาย ทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการดูแลผู้ป่วย ฟีดอาหาร ปล่อยอาหารเร็วไป จึงทำให้ผู้ป่วยสำลักได้ เป็นต้น
6. การอ้างอิง
ขอข้อมูลอ้างอิงจากลูกค้าเก่า เป็นวิธีตรวจสอบความสามารถในการดูแลและปัญหาในการทำงาน ปัญหาในการอยู่บ้านเดียวกับผู้ป่วย/ผู้สูงอายุ ของผู้ดูแลที่สมัครงานได้อย่างดี
7. สัญญาจ้าง
จะต้องระบุรายละเอียดงาน หน้าที่ ความรับผิดชอบ ค่าจ้าง ระยะเวลาโดยละเอียด
🍀🍀ช่องทางในการหา "คนดูแล" ผู้ป่วย/ผู้สูงอายุ🍀🍀
1. ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ: บางศูนย์จะมีบริการจัดส่งพยาบาล/ผู้ดูแลผู้สูงอายุ-ผู้ป่วยถึงบ้าน
2. บริษัทรับจัดหางานดูแลผู้ป่วย: สะดวก รวดเร็ว แต่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
3. เว็บไซต์-เว็บเพจ: เว็บไซต์รับจ้างดูแลผู้ป่วย เว็บไซต์ประกาศ
4. คนรู้จัก: ถามคนรู้จัก เพื่อน ครอบครัว
สุดท้ายนี้
อย่าลืมศึกษาข้อมูล เปรียบเทียบจากหลายศูนย์ หลายแหล่ง พิจารณาปัจจัยต่างๆ รวมถึงงบประมาณ เลือกคนดูแลที่เหมาะสม ตรวจสอบเอกสารใบประกอบวิชาชีพ/ใบรับรองการอบรม/ประวัติอาชญากรรม สังเกตการทำงานจริงของผู้ดูแล หมั่นพูดคุยกับผู้ป่วย/ผู้สูงอายุ และสังเกตดูว่าคนที่เรารักมีความสุขกับผู้ดูแลท่านนี้หรือไม่ หากมีปัญหาให้ขอเปลี่ยนคนดูแลจากศูนย์(ในช่วงที่ยังมีการันตีจากศูนย์) หรือตัดสินใจหาผู้ดูแล คนใหม่เพื่อให้ได้คนที่เหมาะสม
บทสรุป
การดูแลคนที่เรารัก เปรียบเสมือน ภารกิจอันล้ำค่า การหา “คนดูแล” คือการมอบหมาย “หัวใจ” ของเราให้กับอีกฝ่าย การเลือก “คนดูแลผู้ป่วย/ผู้สูงอายุ” จึงเป็นการตัดสินใจที่สำคัญ เพราะ “คนดูแล” เปรียบเสมือนผู้ช่วยที่เข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระและดูแลคนที่เรารักให้มีความสุข
หมอหวังว่าบทความนี้จะช่วยเป็นคู่มือให้ญาติทุกท่านที่กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงในการดูแลผู้ป่วย/ผู้สูงอายุที่ท่านรัก สามารถตัดสินใจเลือก
“คนดูแล” ที่ดีที่สุดให้กับคนที่เรารักค่ะ
- - - - - - - - - - - - - - - -
ด้วยความห่วงใยจากทีมแพทย์ VivaWellness 🍀
โดยพญ. วรัชยา วลัยลักษณาภรณ์
แพทย์เฉพาะทางด้านสมองและระบบประสาท เชี่ยวชาญด้านโรคหลอดเลือดสมอง
คู่มือการเลือกจ้าง "คนดูแลผู้ป่วย-ผู้สูงอายุที่บ้าน"
หรือ อ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่เวบไซต์ของกองทะเบียนประวัติอาชญากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เว็บไซต์นี้ค่ะ >> ตรวจสอบทะเบียนประวัติอาชญากร
4. ค่าอาหาร
หลายครั้งที่มีประกาศ ค่าจ้างราคาถูกนั้น แต่มีการขอเพิ่มค่าใช้จ่ายส่วนตัว ค่าอาหาร ค่าเดินทาง เพิ่มเติมขึ้นมาภายหลัง ก็จะทำให้เกิดเรื่องหมองใจกันระหว่างนายจ้างกับผู้ดูแล จึงเป็นประเด็นสำคัญที่ควรตกลงกันตั้งแต่แรก
5. การสื่อสาร
ปัญหาด้านภาษาและวัฒนธรรม
ปัจจุบันหลายบ้าน เลือกจ้าง ผู้ดูแลผู้ป่วย/ผู้สูงอายุ ชาวต่างชาติ เช่น สัญชาติ พม่า กัมพูชา ไทยใหญ่ ลาว เป็นต้น ต้องสอบถามผู้ดูแล/ลูกจ้างให้ละเอียดว่าสามารถสื่อสารภาษาไทย ได้ดีเพียงใด เนื่องจากการดูแลผู้ป่วย/ผู้สูงอายุเป็นงานละเอียดอ่อน ต้องมีการบอกงาน สื่อสารกันให้เข้าใจ จะได้ดูแลได้ถูกต้อง ไม่เกิดปัญหาแทรกซ้อนในผู้ป่วย/ผู้สูงอายุ
ที่ผ่านมามีปัญหาการดูแลของผู้ดูแลที่ฟังคำบอกของญาติไม่เข้าใจ ทำให้ทำตามไม่ได้ ที่หมอพบเหตุการณ์มา เช่น ผู้ป่วยเกิดภาวะปอดอักเสบจากการสำลักอาหาร สอบถามถึงสาเหตุ และวิธีการให้อาหารทางสายยางจากผู้ดูแลซึ่งเป็นลูกจ้างชาวต่างชาติ ทำให้ทราบว่า ผู้ดูแลไม่เข้าใจคำอธิบาย การให้อาหารทางสายยาง ซึ่งต้องค่อยๆให้ ปรับความเร็วการไหลของอาหารตามสายยาง ไม่ให้เร็วเกินไป ไม่เกินกว่า 30-60 นาทีต่อครั้ง แต่ผู้ดูแลที่ไม่เข้าใจภาษา จึงไม่เข้าใจคำอธิบาย ทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการดูแลผู้ป่วย ฟีดอาหาร ปล่อยอาหารเร็วไป จึงทำให้ผู้ป่วยสำลักได้ เป็นต้น
6. การอ้างอิง
ขอข้อมูลอ้างอิงจากลูกค้าเก่า เป็นวิธีตรวจสอบความสามารถในการดูแลและปัญหาในการทำงาน ปัญหาในการอยู่บ้านเดียวกับผู้ป่วย/ผู้สูงอายุ ของผู้ดูแลที่สมัครงานได้อย่างดี
7. สัญญาจ้าง
จะต้องระบุรายละเอียดงาน หน้าที่ ความรับผิดชอบ ค่าจ้าง ระยะเวลาโดยละเอียด
2. บริษัทรับจัดหางานดูแลผู้ป่วย: สะดวก รวดเร็ว แต่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
3. เว็บไซต์-เว็บเพจ: เว็บไซต์รับจ้างดูแลผู้ป่วย เว็บไซต์ประกาศ
4. คนรู้จัก: ถามคนรู้จัก เพื่อน ครอบครัว
ด้วยความห่วงใยจากทีมแพทย์ VivaWellness 🍀
โดยพญ. วรัชยา วลัยลักษณาภรณ์
แพทย์เฉพาะทางด้านสมองและระบบประสาท เชี่ยวชาญด้านโรคหลอดเลือดสมอง