ราคาบัญชีม้าแพงขึ้นเยอะ
‘ตร.ไซเบอร์’ ทลายคอกม้าเชียงราย ตามซิว ‘นายหน้า’ จ้าง ‘เด็กน้อย-วัยรุ่น’ เปิดบัญชีม้าขายเว็บพนัน
ตำรวจไซเบอร์เปิดปฏิบัติการ "ทลายคอกม้า" พื้นที่อ.เชียงแสน และ อ.แม่สาย จ.เชียงราย จับกุมนายหน้าชักชวนว่าจ้าง เด็กและเยาวชน กลุ่มวัยรุ่น ไปเปิดบัญชีม้า ก่อนรวบรวมส่งขายให้เว็บพนันออนไลน์
เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (14 ต.ค.68) พล.ต.ท. สุรพล เปรมบุตร ผบช.สอท. พล.ต.ต. กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ ผบก.สอท.4 พ.ต.อ.นรวัตน์ คำภิโล พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ อ่อนตา รอง ผบก.สอท.4 สั่งการให้ พ.ต.อ.คมสัน มีภักดี ผกก.4 บก.สอท.4 นำกำลังปฏิบัติการทลายคอกม้าโดยจับกุม นายขจร (สงวนนามสกุล) และ น.ส.วราลี (สงวนนามสกุล) สามีภรรยา และ น.ส.วิชญาพร (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ได้ในพื้นที่ อ.เชียงแสน และ อ.แม่สาย จ.เชียงราย
พ.ต.อ.คมสัน กล่าวว่า สืบเนื่องจากชุดสืบสวนพบว่ามีการลักลอบขายบัญชีม้าให้กับเว็บพนันและแก็งคอฃเซ็นเตอร์ ในพื้นที่ อ.เชียงแสน และ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยหลอกลวงเด็กและเยาวชนในพื้นที่เป็นจำนวนมาก จากข้อมูลพบว่าทั้งสองเป็นคนกดเงินโดยรับจ้างจากนายทุนเว็บพนันออนไลน์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์
อีกทั้งภายใน 2 เดือนที่ผ่านมา น.ส.วิชญาพร เคยตกเป็นข่าวในสืบสังคมออนไลน์ว่าเป็นกลุ่มบัญชีม้ากร่าง ทำรายร่างกายผู้ที่เปิดบัญชีให้ ในพื้นที่ อ.เชียงแสน รวมทั้งรับผลประโยชน์ของเว็บพนัน มีเงินหมุนเวียนมากกว่า 100 ล้านต่อเดือน และได้ทำการโอนเงินไปยังเครือข่ายโผยกวนบัญชีม้ากว่า 10 บัญชี จึง รวบรวมพยานหลักฐานก่อนดำเนินการจับกุม
สอบสวน น.ส.วิชญาพร ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นนายหน้าจัดหาเด็กและเยาวชนในพื้นที่ มาเปิดบัญชีให้ในราคา 3,000 บาท และตนเองจะนำบัญชีดังกล่าวไปขายต่อในราคา 9,000 บาท โดยผู้รับซื้อจะเป็นคอกม้ารายใหญ่ในพื้นที่ อ.แม่สาย ซึ่งเจ้าของคอกม้ารายใหญ่จะนำบัญชีไปขายต่อให้กับเว็บพนันและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในราคา 30,000 บาท ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ของรัฐและธนาคารได้ยกระดับของการแก้ปัญหาบัญชีม้าโดยใช้มาตรการเข้มงวดทำให้บัญชีม้าผิดกฎหมายเพิ่มขึ้น จากเดิมในราคา 5,000 บาท ขยับตัวเพิ่มขึ้นหลายเท่า
ในกระบวนการดังกล่าวมีเด็กและเยาวชนที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก อีกทั้งเยาวชนหลายคนได้รับหมายเรียกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากหลายท้องที่และมีข้อหาต่างกันทำให้ทราบว่า มีการนำบัญชีไปใช้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 จะได้ทำการสืบสวนขยายผลทำการจับกุมต่อไป
สามารถติดตามต่อได้ที่ :
https://www.dailynews.co.th/news/5204839/
‘ตร.ไซเบอร์’ ทลายคอกม้าเชียงราย ตามซิว ‘นายหน้า’ จ้าง ‘เด็กน้อย-วัยรุ่น’ เปิดบัญชีม้าขายเว็บพนัน
‘ตร.ไซเบอร์’ ทลายคอกม้าเชียงราย ตามซิว ‘นายหน้า’ จ้าง ‘เด็กน้อย-วัยรุ่น’ เปิดบัญชีม้าขายเว็บพนัน
ตำรวจไซเบอร์เปิดปฏิบัติการ "ทลายคอกม้า" พื้นที่อ.เชียงแสน และ อ.แม่สาย จ.เชียงราย จับกุมนายหน้าชักชวนว่าจ้าง เด็กและเยาวชน กลุ่มวัยรุ่น ไปเปิดบัญชีม้า ก่อนรวบรวมส่งขายให้เว็บพนันออนไลน์
เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (14 ต.ค.68) พล.ต.ท. สุรพล เปรมบุตร ผบช.สอท. พล.ต.ต. กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ ผบก.สอท.4 พ.ต.อ.นรวัตน์ คำภิโล พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ อ่อนตา รอง ผบก.สอท.4 สั่งการให้ พ.ต.อ.คมสัน มีภักดี ผกก.4 บก.สอท.4 นำกำลังปฏิบัติการทลายคอกม้าโดยจับกุม นายขจร (สงวนนามสกุล) และ น.ส.วราลี (สงวนนามสกุล) สามีภรรยา และ น.ส.วิชญาพร (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ได้ในพื้นที่ อ.เชียงแสน และ อ.แม่สาย จ.เชียงราย
พ.ต.อ.คมสัน กล่าวว่า สืบเนื่องจากชุดสืบสวนพบว่ามีการลักลอบขายบัญชีม้าให้กับเว็บพนันและแก็งคอฃเซ็นเตอร์ ในพื้นที่ อ.เชียงแสน และ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยหลอกลวงเด็กและเยาวชนในพื้นที่เป็นจำนวนมาก จากข้อมูลพบว่าทั้งสองเป็นคนกดเงินโดยรับจ้างจากนายทุนเว็บพนันออนไลน์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์
อีกทั้งภายใน 2 เดือนที่ผ่านมา น.ส.วิชญาพร เคยตกเป็นข่าวในสืบสังคมออนไลน์ว่าเป็นกลุ่มบัญชีม้ากร่าง ทำรายร่างกายผู้ที่เปิดบัญชีให้ ในพื้นที่ อ.เชียงแสน รวมทั้งรับผลประโยชน์ของเว็บพนัน มีเงินหมุนเวียนมากกว่า 100 ล้านต่อเดือน และได้ทำการโอนเงินไปยังเครือข่ายโผยกวนบัญชีม้ากว่า 10 บัญชี จึง รวบรวมพยานหลักฐานก่อนดำเนินการจับกุม
สอบสวน น.ส.วิชญาพร ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นนายหน้าจัดหาเด็กและเยาวชนในพื้นที่ มาเปิดบัญชีให้ในราคา 3,000 บาท และตนเองจะนำบัญชีดังกล่าวไปขายต่อในราคา 9,000 บาท โดยผู้รับซื้อจะเป็นคอกม้ารายใหญ่ในพื้นที่ อ.แม่สาย ซึ่งเจ้าของคอกม้ารายใหญ่จะนำบัญชีไปขายต่อให้กับเว็บพนันและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในราคา 30,000 บาท ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ของรัฐและธนาคารได้ยกระดับของการแก้ปัญหาบัญชีม้าโดยใช้มาตรการเข้มงวดทำให้บัญชีม้าผิดกฎหมายเพิ่มขึ้น จากเดิมในราคา 5,000 บาท ขยับตัวเพิ่มขึ้นหลายเท่า
ในกระบวนการดังกล่าวมีเด็กและเยาวชนที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก อีกทั้งเยาวชนหลายคนได้รับหมายเรียกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากหลายท้องที่และมีข้อหาต่างกันทำให้ทราบว่า มีการนำบัญชีไปใช้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 จะได้ทำการสืบสวนขยายผลทำการจับกุมต่อไป
สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/5204839/