ผมได้อ่านข่าวกรณี พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ ที่ปรึกษาบริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ผู้รับเหมาก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน ตั้งโต๊ะแถลงข่าว กรณีจะฟ้องทาง สตช. หากยกเลิกสัญญากับทางบริษัท ก็ให้แปลกใจว่าเหตุไฉน นายตำรวจผู้นี้จึงมีชื่อเข้ามาพัวกันกับเรื่องนี้แทนที่จะร่วมปกป้องผลประโยชน์ของหน่อยงานต้นสังกัดและผลประโยชน์ของประชาชน ผมมาถึงบางอ้อเมื่อทำการ google ข่าวเก่าๆ มันทำให้ผมถึงกับอึ้งกับความไม่ธรรมดา ของบุคคลผู้นี้ ดังนี้
- เมื่อปี 2545 ถูกให้ออกจากราชการ ข้อหา ขัดขวางการเข้าจับกุมบ่อนการพนันของ สน.บางกอกน้อย
- พฤศจิกายน 2549 ถูกลอบสังหารแต่รอดหวุดหวิด โดยลูกน้องคนสนิทรับเคราะห์แทน
- กันยายน 2552 ถูกจับกุมพร้อมพวกอีก 8 คน ข้อหาพกพาอาวุธโดยไม่มีเหตุอันควร ที่บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ โดยสภ. เชียงแสน จ. เชียงราย
- มีนาคม 2554 ร้อง DSI เอาผิด สนามม้าราชกรีฑา ถึงความไม่โปร่งใสในการจัดแข่งม้าการกุศล
- ตุลาคม 2555 ออกมาให้ข่าวว่ามีขบวนการไซฟ่อนเงินจากการทุจริตในภาครัฐ ไปฮ่องกง
*** มีนาคม 2556 มีชื่อเป็นหนึ่งในแกนนำ พธม. ที่ถูกฟ้องในคดีก่อการร้ายบุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อ ปี 2551 ****
เห็นถึงบรรทัดสุดท้าย ผมก็คงไม่มีอะไรจะอธิบายต่อแล้วครับ
** มุมมองและบทวิเคราะห์จากข่าวและเรื่องราวต่างๆ จากการคาดเดา***
วีรกรรมอดีตนายตำรวจผู้นี้ ผมฟันธงได้เลยว่าไม่ธรรมดา ชีวิตที่โลดโผนพะบู๊ของนายตำรวจผู้นี้ก็ไม่เกินเลยไปจากหนังมาเฟียฮ่องกงเท่าใดนัก เขาเป็นนักพนันตัวยง เพราะฉะนั้นบ่อนและการพนัน คือที่สิงสถิตย์และลมหายใจของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย มันสะท้อนได้จากการยอมที้งหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ขัดขวางการเข้าจับกุมบ่อนการพนัน
เมื่อทิ้งชีวิตตำรวจและเลือกที่จะเดินเส้นทางสายนักเลงมันก็ต้องยิ่งใหญ่ให้ถึงที่สุด การสร้างตัวเป็นผู้มีอิทธิพลดูเหมือนจะไม่ไกลเกินเอื้อมนักเพราะมีรากฐานมาจากการเป็นนายตำรวจที่กว้างขวางในวงการพนัน หากไม่โลกสวยเกินไปทุกคนก็จะทราบว่า ส่วยพนันกับวงการตำรวจเป็นของคู่กัน ด้วยความหลักแหลมของเขาจึงเห็นโอกาสในการเป็นนายหน้ารับดำเนินการประสานผลประโยชน์ทางด้านนี้ และได้แผ่ขยายอิทธิพลไปทั่วราชอาณาจักร ก็เป็นธรรมดาเมื่อข้ามหน้าข้ามตาตำรวจท้องถิ่นก็นำมาซึ่งข่าวการจับกุมข้อหาพกพาอาวุธเมื่อครั้งเดินทางไปปฎิบัติการที่บ่อนชายแดนสามเหลี่ยมทองคำ
เมื่อสถาปนาตัวเป็นผู้มีอิทธิพลระดับชาติแล้ว หน้าที่การเป็นล็อบบี้ยิสต์ ก็จะนำมาซึ่งเงินทอง ชื่อเสียง และความเคารพนับถือ (นี่เกือบจะเข้าขั้น god father แล้ว) จึงไม่แปลกใจเลยที่เขาจะมีชื่อพัวพันในโครงการพันล้านนี้ได้.... นี่มันหนังมาเฟียฮ่องกง หรือ God father ชัดๆเลยนะนี่ จบแหละผมชักจะเพ้อเจ้อมากไป
พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ กับ คดีสร้างโรงพักตำรวจ
- เมื่อปี 2545 ถูกให้ออกจากราชการ ข้อหา ขัดขวางการเข้าจับกุมบ่อนการพนันของ สน.บางกอกน้อย
- พฤศจิกายน 2549 ถูกลอบสังหารแต่รอดหวุดหวิด โดยลูกน้องคนสนิทรับเคราะห์แทน
- กันยายน 2552 ถูกจับกุมพร้อมพวกอีก 8 คน ข้อหาพกพาอาวุธโดยไม่มีเหตุอันควร ที่บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ โดยสภ. เชียงแสน จ. เชียงราย
- มีนาคม 2554 ร้อง DSI เอาผิด สนามม้าราชกรีฑา ถึงความไม่โปร่งใสในการจัดแข่งม้าการกุศล
- ตุลาคม 2555 ออกมาให้ข่าวว่ามีขบวนการไซฟ่อนเงินจากการทุจริตในภาครัฐ ไปฮ่องกง
*** มีนาคม 2556 มีชื่อเป็นหนึ่งในแกนนำ พธม. ที่ถูกฟ้องในคดีก่อการร้ายบุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อ ปี 2551 ****
เห็นถึงบรรทัดสุดท้าย ผมก็คงไม่มีอะไรจะอธิบายต่อแล้วครับ
** มุมมองและบทวิเคราะห์จากข่าวและเรื่องราวต่างๆ จากการคาดเดา***
วีรกรรมอดีตนายตำรวจผู้นี้ ผมฟันธงได้เลยว่าไม่ธรรมดา ชีวิตที่โลดโผนพะบู๊ของนายตำรวจผู้นี้ก็ไม่เกินเลยไปจากหนังมาเฟียฮ่องกงเท่าใดนัก เขาเป็นนักพนันตัวยง เพราะฉะนั้นบ่อนและการพนัน คือที่สิงสถิตย์และลมหายใจของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย มันสะท้อนได้จากการยอมที้งหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ขัดขวางการเข้าจับกุมบ่อนการพนัน
เมื่อทิ้งชีวิตตำรวจและเลือกที่จะเดินเส้นทางสายนักเลงมันก็ต้องยิ่งใหญ่ให้ถึงที่สุด การสร้างตัวเป็นผู้มีอิทธิพลดูเหมือนจะไม่ไกลเกินเอื้อมนักเพราะมีรากฐานมาจากการเป็นนายตำรวจที่กว้างขวางในวงการพนัน หากไม่โลกสวยเกินไปทุกคนก็จะทราบว่า ส่วยพนันกับวงการตำรวจเป็นของคู่กัน ด้วยความหลักแหลมของเขาจึงเห็นโอกาสในการเป็นนายหน้ารับดำเนินการประสานผลประโยชน์ทางด้านนี้ และได้แผ่ขยายอิทธิพลไปทั่วราชอาณาจักร ก็เป็นธรรมดาเมื่อข้ามหน้าข้ามตาตำรวจท้องถิ่นก็นำมาซึ่งข่าวการจับกุมข้อหาพกพาอาวุธเมื่อครั้งเดินทางไปปฎิบัติการที่บ่อนชายแดนสามเหลี่ยมทองคำ
เมื่อสถาปนาตัวเป็นผู้มีอิทธิพลระดับชาติแล้ว หน้าที่การเป็นล็อบบี้ยิสต์ ก็จะนำมาซึ่งเงินทอง ชื่อเสียง และความเคารพนับถือ (นี่เกือบจะเข้าขั้น god father แล้ว) จึงไม่แปลกใจเลยที่เขาจะมีชื่อพัวพันในโครงการพันล้านนี้ได้.... นี่มันหนังมาเฟียฮ่องกง หรือ God father ชัดๆเลยนะนี่ จบแหละผมชักจะเพ้อเจ้อมากไป