Ridebuster.com
นิสสัน เตรียมลุยเผยโฉม Nissan Elgrand เวอร์ชั่นใหม่ บุกตลาดตู้พรีเมี่ยม ด้วยการเผยโฉมครั้งแรกในโลกที่ญี่ปุ่น

สำหรับเอ็มพีวีหรูเวอร์ชันใหม่นี้ใส่ขุมพลัง e-Power เจเนอเรชันที่ 3 ออกขายโดยเป็นขุมพลังใหม่แบบเดียวกับ Nissan Qashqai ชูจุดเด่นอยู่ที่การควบรวม 5 อุปกรณ์สำคัญเข้าไปในรถคันนี้ ทั้งชุดควบคุมมอเตอร์,ชุดเกียร์ ทำให้การตอบสนองของมอเตอร์ทำออกมาได้น่าสนใจ โดย นิสสัน กล่าวว่า
เพิ่มกำลังขับ 10Kw ชั่วขณะ ในโหมดสปอร์ต
รถคันนี้สามารถทำอัตราประหยัดได้ 4.5 ลิตร /100 ก.ม. ตามมาตรฐาน WLTP มีระยะขับ 1,200 ก.ม. ต่อน้ำมัน 1 ถัง
ลดการปล่อยไอเสียได้ 12% จาก 116 กรัม / กิโลเมตร เหลือเพียง 106 กรัม ต่อกิโลเมตร
ลดเสียงในห้องโดยสารได้ 5.6 เดซิเบล (เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า)

โดยคาดว่าเป็นขุมพลังเบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร มาพร้อมระบบ e-Pedal ใช้คันเร่งในการกดเร่งแซงและชะลอความเร็วในชุดเดียวกัน คู่กับเกียร์อัตโนมัติ Single Speed Gear Reduction ซึ่งน่าจะ ให้เลือกทั้งรุ่นขับหน้าและรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อใหม่ e-4ORCE ตลอดจน ระบบความปลอดภัย Nissan Pro Pilot ในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดอาจจะถูกแนะนำในรถรุ่นนี้อย่างเป็นทางการในฐานะรถตู้ที่ดีที่สุดของแบรนด์ ด้วย

ด้านการดีไซน์แบบลงตัว ด้วยระจังหน้ารูปตัววีแบบทึบๆ ทำให้มันดูจะไปทาง Lexus มากกว่า โตโยต้า พร้อมกันชนหน้าทรงสปอร์ตมีแถบไฟ DRL แบบ LED เส้นสีขาวคาดยาวพร้อมชุดไฟหน้า LED เป็นลายเกล็ดพร้อมช่องระบายอากาศสีดำ แน่นอนว่า มันอาจจะมาพร้อมงานออกแบบ คล้ายใน นิสสัน เซเรน่า Nextgen V motion
ด้านท้ายมาพร้อมไฟท้าย LED แนวยาว บ่งบอกถึงความสง่างามพร้อมสปอยเลอร์หลังทั้งชิ้นกลมกลืนกับฝาท้าย ตัวฝาท้ายมีทรงโค้ง ดูแอบรู้สึกคล้ายกับแนวทางของรถตู้จากจีนสมัยใหม่

สำหรับ Nissan Elgrand เจนใหม่ จะเผยโฉมที่งาน Japan Mobility Show 2025 ในวันที่ 29 ตุลาคม 2025 และขายจริงช่วงปี 2026 ส่วนจะมีแผนหิ้วไปขายในไทยหรือไม่ต้องติดตาม
Nissan Elgrand 2026 จ่อเผยโฉมที่ Japan Mobility Show 29 ต.ค.
Ridebuster.com
นิสสัน เตรียมลุยเผยโฉม Nissan Elgrand เวอร์ชั่นใหม่ บุกตลาดตู้พรีเมี่ยม ด้วยการเผยโฉมครั้งแรกในโลกที่ญี่ปุ่น
สำหรับเอ็มพีวีหรูเวอร์ชันใหม่นี้ใส่ขุมพลัง e-Power เจเนอเรชันที่ 3 ออกขายโดยเป็นขุมพลังใหม่แบบเดียวกับ Nissan Qashqai ชูจุดเด่นอยู่ที่การควบรวม 5 อุปกรณ์สำคัญเข้าไปในรถคันนี้ ทั้งชุดควบคุมมอเตอร์,ชุดเกียร์ ทำให้การตอบสนองของมอเตอร์ทำออกมาได้น่าสนใจ โดย นิสสัน กล่าวว่า
เพิ่มกำลังขับ 10Kw ชั่วขณะ ในโหมดสปอร์ต
รถคันนี้สามารถทำอัตราประหยัดได้ 4.5 ลิตร /100 ก.ม. ตามมาตรฐาน WLTP มีระยะขับ 1,200 ก.ม. ต่อน้ำมัน 1 ถัง
ลดการปล่อยไอเสียได้ 12% จาก 116 กรัม / กิโลเมตร เหลือเพียง 106 กรัม ต่อกิโลเมตร
ลดเสียงในห้องโดยสารได้ 5.6 เดซิเบล (เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า)
โดยคาดว่าเป็นขุมพลังเบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร มาพร้อมระบบ e-Pedal ใช้คันเร่งในการกดเร่งแซงและชะลอความเร็วในชุดเดียวกัน คู่กับเกียร์อัตโนมัติ Single Speed Gear Reduction ซึ่งน่าจะ ให้เลือกทั้งรุ่นขับหน้าและรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อใหม่ e-4ORCE ตลอดจน ระบบความปลอดภัย Nissan Pro Pilot ในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดอาจจะถูกแนะนำในรถรุ่นนี้อย่างเป็นทางการในฐานะรถตู้ที่ดีที่สุดของแบรนด์ ด้วย
ด้านการดีไซน์แบบลงตัว ด้วยระจังหน้ารูปตัววีแบบทึบๆ ทำให้มันดูจะไปทาง Lexus มากกว่า โตโยต้า พร้อมกันชนหน้าทรงสปอร์ตมีแถบไฟ DRL แบบ LED เส้นสีขาวคาดยาวพร้อมชุดไฟหน้า LED เป็นลายเกล็ดพร้อมช่องระบายอากาศสีดำ แน่นอนว่า มันอาจจะมาพร้อมงานออกแบบ คล้ายใน นิสสัน เซเรน่า Nextgen V motion
ด้านท้ายมาพร้อมไฟท้าย LED แนวยาว บ่งบอกถึงความสง่างามพร้อมสปอยเลอร์หลังทั้งชิ้นกลมกลืนกับฝาท้าย ตัวฝาท้ายมีทรงโค้ง ดูแอบรู้สึกคล้ายกับแนวทางของรถตู้จากจีนสมัยใหม่
สำหรับ Nissan Elgrand เจนใหม่ จะเผยโฉมที่งาน Japan Mobility Show 2025 ในวันที่ 29 ตุลาคม 2025 และขายจริงช่วงปี 2026 ส่วนจะมีแผนหิ้วไปขายในไทยหรือไม่ต้องติดตาม