สวัสดีค่ะ วันนี้มีเรื่องราวของตัวเรากับที่ทำงานมาแบ่งปันกันค่ะ
(หากอยากเข้าใจสถานะการณ์ปัจจุบันและความเป็นมาของเราสามารถอ่านกระทู้ก่อนหน้าได้นะคะ)
เราจบม.ปลายมา ซึ่งเป็นวุฒิม.ปลายของต่างประเทศ และได้เข้ามาทำงานในโรงงานขนาดกลางแห่งหนึ่ง ตอนสัมภาษณ์งานก็รู้ว่าวุฒิการศึกษานนี้ต้องโดนกดเงินเดือนแน่นอน แล้วก็จริงตามนั้นค่ะ โดนกดต่ำกว่าเพื่อนๆตำแหน่งเดียวกันอยู่2000บาท เขาก็บอกเราตรงๆเพราะวุฒิการศึกษาไม่ถึง แต่เขาก็บอกอีกว่าภาษาเราดีมากนะ ไว้ผ่านโปรแล้วจะปรับให้ แรกๆที่กลับมาทำงานที่ไทยนอยมากค่ะ ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะว่าตัวเองอยู่บนดอยตั้งแต่เด็กหรือเพราะพูดแต่ภาษาจีนจนพูดไทยสำเนียงแปลก มักจะโดนทักตลอดว่าไม่ใช่คนไทยเหมือนคนจีน พอถามว่าเหมือนยังไงก็บอกว่าเราพูดไม่ชัด แต่เราคิดว่าเราพูดชัดในระดับนึงเลยค่ะ อาจจะด้วยการที่มีน้ำเสียงแบบนี้ และการเรียงคำที่แปลกเพราะคุ้นชินภาษาจีนเลยทำให้โดนทักบ่อยๆเรื่องนี้
เราโดนเหยียดโดยหัวหน้าคนแรกของเราเอง เนื่องด้วยเราเรียนด้านภาษามา แต่ได้มาทำงานล่ามในแผนกของวิศวะกรIEซึ่งบอกตามตรงว่ายากมาก เพราะงานหลักๆไม่ใช่การแปล แต่เป็นการคำนวน ซึ่งถามว่าทำได้ไหมก็ทำได้ค่ะ แต่คิดช้าและพลาดบ้าง จำได้ขึ้นใจว่าหัวหน้าบอกเราว่า ทำไมคคิดวิธีนี้วิธีคิดโง่ๆ ครูไม่ได้สอนหรอ เราบอกว่าใช่ เพราะเราเรียนน้อยเอง ซึ่งเรานอยมาก เขาด่าเป็นภาษาจีนซึ่งแรงกว่าแปลเป็นไทยเยอะมาก เขามีพฤติกรรมชอบเหยียด ไม่ว่าจะสายตา คำพูด เบะปาก หัวเราะแบบเยาะเย้ย คำด่าอีกอย่างที่จำได้ขึ้นใจคือ ข้อผิดพลาดชั้นต่ำ เรานอยมากก ปากเสียสุดๆ เขาติเราตลอดเลยว่าได้แค่สื่อสารไม่มีปัญหา แต่อย่างอื่นไม่ได้เลย อย่างอื่นที่เขาว่าคือ การคำนวณ การดูแพทเทิร์น ขั้นตอนSOP นอยยยย
จนกระทั่งมีหัวหน้าอีกแผนกนึงที่เป็นแผนกฝ่ายบุคคล เขาเรียกไปคุย เขาบอกว่าเขาเห็นศักยภาพในตัวเรานะ เราน่ะภาษาดี เลยอยากให้มารับงานจัดซื้อต่างประเทศ เขาบอกว่ารองผู้จัดการและเขาเชื่อว่าเราทำได้ เราไปแบบไม่ลังเลเลย พอย้ายไปโดนเหยียดหนักมากค่ะ พี่ที่เป็นล่ามอีกคนนี่แหละ เหยียดเราสุดๆ จะเล่าเท่าที่จำได้นะคะ มีครั้งนึงที่แถวบ้านเราน้ำท่วม แต่เป็นในตัวเมือง เขาเลยถามในแขทว่าบ้านหนูเป็นยังไงบ้าง เราเลยตอบไปว่าปกติดีค่ะ พอผ่านมาไม่กี่วัน เขาก็ถามใชเราในออฟฟิศอีกครั้งว่า บ้านหนูน้ำไม่ท่วมนี่นอะ ลืมไปว่าบ้านอยู่บนดอยท่วมไม่ได้ ถ้าแค่นี้จะไม่โกรธเลยค่ะ แต่ตามมาด้วยเสียงหัวเราะแบบเย้ย ซึ่งแบบนี้คือเหยียดค่ะ มีอีกครั้งนึงคนนี้แหละคนเดิม คนจีนเขาเดินมาคุยกับเราเขาก็ชมว่าภาษาดีนะ เรียนมาจากไหน เป็นคนที่ไหน เขาตอบแทนเราเลยว่า เป็นชนเผ่า จบม.6 แล้วขำ อีกแล้ววว คือแบบมีอะไรน่าขำคะ? คือโดนหลายรอบมาก จนเราหายนอยไปแล้ว บางคนในแผนกถึงขั้นพูดว่าสำเนียงดอยเนาะ เราไม่ถือสาแล้วจริงๆ
ส่วนน้อยมากค่ะที่เหยียด ส่วนมากมีแต่คนชื่นชมในผลงานเรา ว่าเรารับผิดชอบงานได้ดี เราเกือบลาออกแล้วค่ะด้วยงานที่ยากและหนักมากดูจัดซื้อต่างประเทศคนเดียว ทำได้แต่ทำได้ไม่ดเท่าที่ควร ด้วยเราที่อายุเพียง22 และต้องดีลงานกับผู้ใหญ่ที่อายุเยอะกว่ามากๆ จนผู้จัดการใหญ่เขาเรียกไปคุยด้วยหลายครั้งมากว่าไม่อยากให้ออกนะ อยากให้อยู่ต่อ เรียกไปคุยหลายครั้งมาก จนมีข้อเสนอที่เราว่าน่าสนใจคือ ไม่ต้องทำโอทีและสามารถลาไปสอบได้เท่าที่เราต้อง เราจึงอยู่ต่อ ซึ่งทำตำแหน่งนี้มาสักพักแล้วค่ะ ลงตัวมาก ตัดปัญคนรอบข้างได้ดีมาก เพราะมีแค่เรา พี่ออดิท และผู้จัดการใหญ่ แฮปปี้ดีค่ะ เหมือนเป็นการพิศูจน์ตัวเอง ว่าเราเองก็ทำได้ดีเหมือนกัน
เราแค่อยากมาแชร์และแอบบ่นๆค่ะ
จบม.ปลาย โดนเหยียดในที่ทำงาน
(หากอยากเข้าใจสถานะการณ์ปัจจุบันและความเป็นมาของเราสามารถอ่านกระทู้ก่อนหน้าได้นะคะ)
เราจบม.ปลายมา ซึ่งเป็นวุฒิม.ปลายของต่างประเทศ และได้เข้ามาทำงานในโรงงานขนาดกลางแห่งหนึ่ง ตอนสัมภาษณ์งานก็รู้ว่าวุฒิการศึกษานนี้ต้องโดนกดเงินเดือนแน่นอน แล้วก็จริงตามนั้นค่ะ โดนกดต่ำกว่าเพื่อนๆตำแหน่งเดียวกันอยู่2000บาท เขาก็บอกเราตรงๆเพราะวุฒิการศึกษาไม่ถึง แต่เขาก็บอกอีกว่าภาษาเราดีมากนะ ไว้ผ่านโปรแล้วจะปรับให้ แรกๆที่กลับมาทำงานที่ไทยนอยมากค่ะ ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะว่าตัวเองอยู่บนดอยตั้งแต่เด็กหรือเพราะพูดแต่ภาษาจีนจนพูดไทยสำเนียงแปลก มักจะโดนทักตลอดว่าไม่ใช่คนไทยเหมือนคนจีน พอถามว่าเหมือนยังไงก็บอกว่าเราพูดไม่ชัด แต่เราคิดว่าเราพูดชัดในระดับนึงเลยค่ะ อาจจะด้วยการที่มีน้ำเสียงแบบนี้ และการเรียงคำที่แปลกเพราะคุ้นชินภาษาจีนเลยทำให้โดนทักบ่อยๆเรื่องนี้
เราโดนเหยียดโดยหัวหน้าคนแรกของเราเอง เนื่องด้วยเราเรียนด้านภาษามา แต่ได้มาทำงานล่ามในแผนกของวิศวะกรIEซึ่งบอกตามตรงว่ายากมาก เพราะงานหลักๆไม่ใช่การแปล แต่เป็นการคำนวน ซึ่งถามว่าทำได้ไหมก็ทำได้ค่ะ แต่คิดช้าและพลาดบ้าง จำได้ขึ้นใจว่าหัวหน้าบอกเราว่า ทำไมคคิดวิธีนี้วิธีคิดโง่ๆ ครูไม่ได้สอนหรอ เราบอกว่าใช่ เพราะเราเรียนน้อยเอง ซึ่งเรานอยมาก เขาด่าเป็นภาษาจีนซึ่งแรงกว่าแปลเป็นไทยเยอะมาก เขามีพฤติกรรมชอบเหยียด ไม่ว่าจะสายตา คำพูด เบะปาก หัวเราะแบบเยาะเย้ย คำด่าอีกอย่างที่จำได้ขึ้นใจคือ ข้อผิดพลาดชั้นต่ำ เรานอยมากก ปากเสียสุดๆ เขาติเราตลอดเลยว่าได้แค่สื่อสารไม่มีปัญหา แต่อย่างอื่นไม่ได้เลย อย่างอื่นที่เขาว่าคือ การคำนวณ การดูแพทเทิร์น ขั้นตอนSOP นอยยยย
จนกระทั่งมีหัวหน้าอีกแผนกนึงที่เป็นแผนกฝ่ายบุคคล เขาเรียกไปคุย เขาบอกว่าเขาเห็นศักยภาพในตัวเรานะ เราน่ะภาษาดี เลยอยากให้มารับงานจัดซื้อต่างประเทศ เขาบอกว่ารองผู้จัดการและเขาเชื่อว่าเราทำได้ เราไปแบบไม่ลังเลเลย พอย้ายไปโดนเหยียดหนักมากค่ะ พี่ที่เป็นล่ามอีกคนนี่แหละ เหยียดเราสุดๆ จะเล่าเท่าที่จำได้นะคะ มีครั้งนึงที่แถวบ้านเราน้ำท่วม แต่เป็นในตัวเมือง เขาเลยถามในแขทว่าบ้านหนูเป็นยังไงบ้าง เราเลยตอบไปว่าปกติดีค่ะ พอผ่านมาไม่กี่วัน เขาก็ถามใชเราในออฟฟิศอีกครั้งว่า บ้านหนูน้ำไม่ท่วมนี่นอะ ลืมไปว่าบ้านอยู่บนดอยท่วมไม่ได้ ถ้าแค่นี้จะไม่โกรธเลยค่ะ แต่ตามมาด้วยเสียงหัวเราะแบบเย้ย ซึ่งแบบนี้คือเหยียดค่ะ มีอีกครั้งนึงคนนี้แหละคนเดิม คนจีนเขาเดินมาคุยกับเราเขาก็ชมว่าภาษาดีนะ เรียนมาจากไหน เป็นคนที่ไหน เขาตอบแทนเราเลยว่า เป็นชนเผ่า จบม.6 แล้วขำ อีกแล้ววว คือแบบมีอะไรน่าขำคะ? คือโดนหลายรอบมาก จนเราหายนอยไปแล้ว บางคนในแผนกถึงขั้นพูดว่าสำเนียงดอยเนาะ เราไม่ถือสาแล้วจริงๆ
ส่วนน้อยมากค่ะที่เหยียด ส่วนมากมีแต่คนชื่นชมในผลงานเรา ว่าเรารับผิดชอบงานได้ดี เราเกือบลาออกแล้วค่ะด้วยงานที่ยากและหนักมากดูจัดซื้อต่างประเทศคนเดียว ทำได้แต่ทำได้ไม่ดเท่าที่ควร ด้วยเราที่อายุเพียง22 และต้องดีลงานกับผู้ใหญ่ที่อายุเยอะกว่ามากๆ จนผู้จัดการใหญ่เขาเรียกไปคุยด้วยหลายครั้งมากว่าไม่อยากให้ออกนะ อยากให้อยู่ต่อ เรียกไปคุยหลายครั้งมาก จนมีข้อเสนอที่เราว่าน่าสนใจคือ ไม่ต้องทำโอทีและสามารถลาไปสอบได้เท่าที่เราต้อง เราจึงอยู่ต่อ ซึ่งทำตำแหน่งนี้มาสักพักแล้วค่ะ ลงตัวมาก ตัดปัญคนรอบข้างได้ดีมาก เพราะมีแค่เรา พี่ออดิท และผู้จัดการใหญ่ แฮปปี้ดีค่ะ เหมือนเป็นการพิศูจน์ตัวเอง ว่าเราเองก็ทำได้ดีเหมือนกัน
เราแค่อยากมาแชร์และแอบบ่นๆค่ะ